กรมทรัพย์สินทางปัญญา ออกอนุสิทธิบัตรข้าวยำกรอบจากข้าวสังข์หยด ผลงานอาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ฯ มรภ.สงขลา ทำวิจัยเพิ่มมูลค่าพืชเศรษฐกิจ อนุรักษ์อาหารพื้นบ้านภาคใต้ ชี้สารอาหารเพียบ ป้องกันความจำเสื่อม มีสารต้านมะเร็ง
ผศ.ดร.ทัศนา ศิริโชติ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) เปิดเผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญาออกอนุสิทธิบัตร สาขาวิทยาศาสตร์การอาหาร ให้กับข้าวยำกรอบจากข้าวสังข์หยด จัดทำโดย ผศ.ดร.ทัศนา ศิริโชติ และคณะผู้วิจัย อ.พรชัย พุทธรักษ์ อ.ฐิติมาพร หนูเนียม อ.ดำรงค์เกียรติ ศรีเทพ และ อ.วิภาวรรณ วงศ์สุดาลักษณ์ โปรแกรมวิชาคหกรรมศาสตร์ มรภ.สงขลา เพื่อยืดอายุข้าวยำให้เก็บไว้รับประทานได้นาน เนื่องจากข้าวยำแบบเดิมมีกรรมวิธีการผลิตค่อนข้างยุ่งยากซับซ้อน ใช้ระยะเวลานานในการเตรียมส่วนผสม ทำให้รสชาติไม่สม่ำเสมอ และมีอายุการเก็บรักษาที่สั้นมาก ประกอบกับส่วนผสมหลักส่วนใหญ่เป็นอาหารสด เช่น ข้าวสวย น้ำบูดู กุ้งแห้งป่นหรือปลาป่น และผักต่างๆ ซึ่งเน่าเสียได้ง่าย ดังนั้น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าวยำกรอบ จึงเป็นแนวทางที่ช่วยส่งเสริมให้ผู้บริโภคได้รับอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ทั้งยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับพืชเศรษฐกิจ และอนุรักษ์อาหารพื้นบ้านของภาคใต้ให้เป็นที่รู้จักของคนรุ่นหลัก
คณบดีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มรภ.สงขลา กล่าวว่า งานวิจัยเรื่องนี้จัดทำบนฐานคิดที่ว่า ข้าวยำเป็นอาหารพื้นบ้านภาคใต้ที่ใช้ข้าวขัดสีเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต ซึ่งมีสารอาหารประเภทแร่ธาตุและวิตามินน้อยกว่าข้าวมีสี คณะผู้วิจัยจึงเลือกใช้ข้าวสังข์หยดซึ่งจัดเป็นพันธุ์ข้าวดั้งเดิมภาคใต้ มีคุณค่าทางสารอาหารสูง เช่น ใยอาหาร โปรตีน ธาตุเหล็ก และฟอสฟอรัส มีประโยชน์ในการขับถ่าย บำรุงโลหิต บำรุงร่างกายให้แข็งแรง ป้องกันโรคความจำเสื่อม และมีสารต้านมะเร็ง นำมาพัฒนาเป็นข้าวยำกรอบจากข้าวสังข์หยด ซึ่งต่อมากรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ออกอนุสิทธิบัตรให้กับผลงานดังกล่าว เพื่อคุ้มครองผลงานการประดิษฐ์ชิ้นนี้
ข้อมูลและที่มา : ลัดดา เอ้งเถี้ยว (นักประชาสัมพันธ์ มรภ.สงขลา)