พลันที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาพูดว่าจะให้เกษตรกรหันมาปลูกมะพร้าวเพื่อลดการนำเข้า ก็มีหลายฝ่ายออกมาหนุนและโยงไปถึงมะพร้าวน้ำหอมที่ไทยเป็นเจ้าตลาดเวลานี้ และประจวบกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จะจัดสัมมนาเรื่อง “มะพร้าวน้ำหอม โอกาสทองของเกษตรกรไทย” ในวันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม 2559 (http://goo.gl/BE0o4x) ปรากฎว่ามีผู้สนใจสอบถามในหลายประเด็น อย่างเช่นในเรื่องพื้นที่ปลูกว่าภาคนั้นภาคนี้จะปลูกได้หรือไม่ วันนี้ว่าด้วยเรื่องของภาคใต้ …
บังเอิญว่าช่วงก่อนวันสงกรานต์ผู้เขียนได้เดินทางล่องใต้ ระหว่างเส้นทางพัทลุง-สงขลา สังเกตเห็นมีรถกระบะบรรทุกมะพร้าวน้ำหอม วิ่งไปมาไม่น้อยกว่า 3 คัน
ถามไถ่ได้ความว่าเป็นมะพร้าวที่ไปรับมาจากสวนที่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อกระจายไปตามร้านค้าข้างถนน “เวลานี้มะพร้าวน้ำหอมขายดี เพราะว่าอากาศร้อนมาก แต่ว่าของก็มีน้อยจึงกระจายกันไปเท่าที่มี” ได้ความมาอย่างนี้
“ที่พัทลุง มีสวนมะพร้าวน้ำหอมบ้างไหม” ผู้เขียนถามคุณน้าณรงค์ ปล้องใหม่ ที่เป็นคนพัทลุง
ได้รับตำตอบว่า “เห็นอีเดือน (สรรพนามเรียกคุณเดือน/คนละแวกบ้านเดียวกัน)ใส่รถมอเตอร์ไซด์พ่วงข้างมาขายที่ตลาดนัดวันก่อน ข่าวว่าเป็นสวนของญาตๆ อยู่ที่วัดเขาอ้อ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง”
ทราบดังนั้นจึงไม่รอช้า…เดินทางไปถึงวัดเขาอ้อใกล้จะ 6 โมงเย็น เห็นชาวบ้านกำลังจูงวัวกลับบ้านจะพาเข้าคอก “เห็นทีจะต้องรีบหน่อยแล้วละ คงแวะไปนมัสการหลวงพ่อในวัดไม่ได้แล้ว”
(อันว่า “วัดเขาอ้อ” เป็นวัดที่มีชื่อเสียงทางด้านวิชาอาคม และความศักดิ์สิทธิ์ จนเป็นที่รู้จักกันดี /รายละเอียดของวัดหาอ่านได้จากเว็บไซต์ต่างๆ)
ไปถามหาบ้านคุณจิ๊ก หรือชื่อจริงว่า “สมใจ ทองคง” รู้ว่าอยู่หน้าวัดเขาอ้อ แต่เอ๊ะวันนี้ไม่มีใครอยู่ที่บ้าน ถามเพื่อนบ้านก็บอกว่าน่าจะไปเอาวัวเข้าคอก ก็วนเวียนรถไปมา สุดท้ายมาเจอกำลังจูงวัวมุ่งมาทางวัดเขาอ้อ “เฮ้า ก็คนที่เราเห็นตอนแรกนี่น่า…ไม่ทันสังเกตว่าเป็นใครก็เลยผ่านไป”
คุณจิ๊ก เล่าให้ฟังว่า ตัวเขานั้นปลูกมะพร้าวน้ำหอม แค่ 2 ไร่ แต่แนะนำว่าน้องชายของเขา ซึ่งอยู่บ้านติดกันปลูกไว้ 6 ไร่ น่าจะเหมาะสมในการเยี่ยมชมมากกว่า จึงได้พบกับ “คุณสมจิตร ทองคง” บ้านเลขที่ 36 หมู่ 3 ต.มอกอกเหนือ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง …ก็ไม่ต้องพูดพร่ำอะไรมาก ต้องรีบไปที่สวนทันที
และต่อไปนี้ คือ 7 คำถามกับข้าวของสวนมะพร้าวน้ำหอมพัทลุง ดังนี้
- เริ่มต้นเป็นมาอย่างไร จึงมาปลูกมะพร้าวน้ำหอม และปลูกมากี่ปีแล้ว?
เดิมนั้นผมมีอาชีพปลูกผักขายมาก่อน (เปลี่ยนจากนามาเป็นผัก)… ต่อมาเปลี่ยนมาปลูกมะพร้าวเมื่อ 27 ปีที่แล้ว โดยทดลองปลูกไว้รอบๆคันแปลงปลูกผัก (พื้นที่ 6 ไร่) ทั้งหมด 60 ต้น พอปลูกไปสัก 3 ปีก็เริ่มแทงนก(จั่น)และให้ผลผลิตดกมาก (ทะลายมะพร้าวออกเรี่ยติดดินเลย) อาจจะเป็นเพราะผมดูแลให้ปุ๋ยให้น้ำเป็นอย่างดี…ดูแลผักก็ดูแลมะพร้าวไปด้วย
ต่อมาเมื่อเห็นว่ามะพร้าวน้ำหอมได้ผลดีและตลาดก็ไปได้ดี ในอีก 10 ปี ถัดมา จึงตัดสินใจพลิกแปลงปลูกผักมาทำเป็นสวนมะพร้าวทั้งหมด โดยยอมลงทุนขุดร่องน้ำใหม่ จากเดิมเป็นร่องน้ำตามตะวันก็มาทำเป็นขวางตะวัน(ตามข้อมูลที่ศึกษามาบอกว่าจะได้ผลดีกว่า) ร่องน้ำที่ขุดลุก 1.20 เมตร กว้างประมาณ 1.50 เมตร ยกเว้นบางจุดอาจกว้าง-แคบตามความเหมาะสม เมื่อขุดร่องน้ำเสร็จก็สั่งพันธุ์มะพร้าวน้ำหอมจากบ้านแพ้วมาลงเต็มพื้นที่ แต่ก็จำไม่ได้ว่ากี่ต้นแล้ว รู้แต่ว่าใช้ระยะปลูก 7×7 เมตร, 7×8 เมตร, และ 7×9 เมตรก็มีบ้าง โดยจากประสบการณ์คิดว่า 7×8 เมตรเหมาะสม คือเมื่อมะพร้าวต้นโตขึ้นอย่าให้ปลายใบมาชนกัน โดยปลูกร่องละ 2 แถว ซึ่งก็ทำให้สะดวกต่อการบริหารจัดการได้ดี
- มีการดูแลจัดการอย่างไร และมีปัญหาอะไรบ้าง?
ช่วงที่ปลูกใหม่ๆก็ต้องดูแลใกล้ชิดคู่กับแปลงปลูกผัก ซึ่งโชคดีว่าปลูกได้รอดทุกต้น (ผู้เขียนได้ถามย้ำว่าจริงหรือ ก็ตอบว่าจริงซิ) มีการใส่ปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอ ส่วนหนึ่งอาจจะได้รับอานิสงส์จากการปลูกผัก พอรดน้ำผัก ใส่ปุ๋ยผักมะพร้าวก็ได้รับไปด้วย
ประมาณ 3 ปีก็เริ่มให้ผลผลิต ได้ยกเลิกปลูกผักและหันมาดูแลมะพร้าวน้ำหอมเพียงอย่างเดียว ซึ่งก็ให้ผลผลิตดีเรื่อยมา คือต้องรดน้ำใส่ปุ๋ยอย่าได้ขาด หลักๆก็จะใส่ขี้วัวอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และปุ๋ยเคมีบ้างเป็นครั้งคราว เฉลี่ยใส่ปีละ 3-4 ครั้ง โดยปริมาณการใส่ก็จะสังเกตจากใบมะพร้าว ซึ่งหลักการเหมือนกับใส่ปุ๋ยต้นปาล์มทุกประการ
เรื่องวัชพืชจำพวกหญ้าก็มีบ้างในระยะแรกๆ ได้ตัดไปเลี้ยงวัว แต่เมื่อมะพร้าวโตขึ้นพวกหญ้าก็ไม่มากเท่าไร และได้ปลูกอ้อยเสริมระหว่างร่อง คู่กับใบเตยที่อยู่ริมร่องน้ำ โดยอ้อยนั้นไม่ได้เน้นขาย แต่ต้องการนำใบอ้อยมาวางหมักทำเป็นปุ๋ยอินทรีย์ตามธรรมชาติมากกว่า
ส่วนเรื่องปัญหาการปลูกก็มีบ้าง คือมะพร้าวที่นำมาปลูกมันไม่ให้ผลผลิตทุกต้น เหมือนว่าพันธุ์ไม่แท้หรือยังไงไม่ทราบ รู้แต่ว่าเราเห็นต้นไหนใบโซ่ง (ใบลู่-ขึ้นชี้ฟ้า) ผิดปกติจากต้นอื่นๆ ซึ่งจะสังเกตได้ตั้งแต่ยังไม่ออกลูก ก็จะโค่นทิ้งปลูกใหม่เลย
อีกปัญหาหนึ่ง คือ โรคแมลง (ศัตรูทางอากาศ) ที่เห็นบ่อยคือ แมลงดำหนาม มักวนเวียนมากินยอดอ่อนมะพร้าว ซึ่งจะทำให้มะพร้าวหยุดการเจริญเติบโต แต่ไม่ถึงกับตาย จะใช้วิธีการปล่อยตัวแตนเบียนเข้ากำจัด โดยตัวแตนเบียนนี้จะได้จากศูนย์วิจัยที่สุราษฎร์ธานี แต่นี่ก็ปีกว่าแล้ว เห็นบอกว่าจะได้แต่ก็ไม่ได้สักที
- เรื่องผลผลิตมะพร้าวช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง?
ช่วงนี้หน้าแล้วผลผลิตมะพร้าวก็ขาดคอ (มีน้อยลง) คือจากประสบการณ์ของเราและเท่าที่ศึกษาดูพบว่า เป็นผลสืบเนื่องจากจากหน้าฝน น้ำฝนจะชะล้างพวกดอกมะพร้าวร่วงเกือบหมด แมลงก็ไม่ค่อยออกมาทำงานผสมเกสร สุดท้ายจั่นมะพร้าวที่ออกช่วงนั้นติดลูกน้อย ซึ่งก็จะตกทอดมาถึงช่วงหน้าแล้งพอดี ประจวบกับปีนี้ภัยแล้งด้วย
เรื่องปัญหาหน้าฝนนี้กำลังวางแผนว่าจะทำหลังคาให้มะพร้าว คือหาทางป้องกันฝนที่ตกไม่ให้ถูกจั่นมะพร้าว คิดว่าจะทดลองทำดู…
- ผลผลิตที่ได้นำไปขายที่ไหนบ้าง?
ของผมตั้งแต่ปลูกมาไม่เคยมีปัญหาเรื่องตลาด อย่างช่วงนี้มีคนเข้ามาถามกันเกือบทุกวัน “มีมะพร้าวไหม” “แบ่งขายให้ได้ไหม” ผมก็แบ่งให้ใครไม่ได้ เพราะว่าต้องไปส่งให้กับร้านอาหารในเมือง เขาเป็นเจ้าประจำของเรา ไม่ว่าหน้าแล้งหน้าฝน เราก็ต้องส่งให้เขาก่อน เพราะว่าบางช่วงที่ราคาดีหรือราคาไม่ดี เขาก็ให้ราคาเราได้ เราก็ต้องให้เขาก่อน
ราคาผลผลิตช่วงนี้ จากสวนลูกละ 15-20 บาท แต่ก็มีไม่พอนะ แต่ช่วงไหนที่ผลผลิตออกเยอะ เราจะนำขึ้นรถไปขายที่ข้างถนนย่านชุมชน ราคาก็จะอยู่ประมาณนี้ ยกเว้นซื้อ 100 ลูก ราคาลูกละ 15 บาท โดยเราจะปาดให้เรียบร้อย ไปถึงก็สับหัวทานได้ทันที
เรื่องตลาดนี้ผมไม่ค่อยห่วง ยกเว้นวันใดวันหนึ่งคนปลูกเยอะขึ้นมาก็ว่ากันอีกที แต่ที่ปลูกมากก็ใช่ว่าจะได้ผลดีนะ มันต้องขึ้นอยู่กับคนดูแลด้วย
- คุณภาพของผลผลิตเป็นอย่างไร…น้ำหวานหอมไหม?
ผมว่าคุณภาพก็ขึ้นอยู่กับการดูแลนะ ปลูกแล้วไม่ได้ดูแล มันก็ไม่มีทางได้ดีหรอก ส่วนเรื่องว่าน้ำหวานไม่หวาน หอมไม่หอม มันก็ขึ้นอยู่กับการดูแลอีกนั่นแหละ แต่โดยรวมผมก็ว่าหวานหอมนะ อาจจะไม่ดีเหมือนที่บ้านแพ้ว ที่ดำเนินสะดวก แต่ก็ไม่เป็นปัญหาทางการขาย คืออาจจะมีบางฤดูที่ไม่หอมก็ขึ้นอยู่กับการผสมเกสร เพราะมีมะพร้าวแกงอยู่ในย่านใกล้เคียงกัน แต่ก็ขายเป็นมะพร้าวน้ำหอมได้หมด
- จะแนะนำคนที่จะปลูกอย่างไรดี โดยเฉพาะทางภาคใต้ปลูกยางพารากันมาก และราคายางตกต่ำ…
ผมว่าจะปลูกมะพร้าวน้ำหอม มันไม่เหมือนปลูกมะพร้าวแกงนะ คือต้องดูแลเรื่องน้ำเป็นหลักเลย น้ำต้องมีพอเพียงตลอดปีนะ ไม่ใช่ปลูกแล้วทิ้งเลย พอถึงเวลาค่อยมาเก็บผลผลิต ไม่มีทางได้หรอก อย่างผมต้องเข้ามาสวนทุกวัน ดูว่าผลผลิตต้นไหนเป็นอย่างไร ติดลูกติดผลดีไหม ใบมะพร้าวแสดงอาการอย่างไรบ้าง มีโรคแมลงอะไรในช่วงนี้ และจะหาวิธีกำจัดอย่างไร
อีกเรื่องหนึ่งคุณต้องรู้ว่าพื้นที่ที่จะปลูกมีความเหมาะสมไหม มะพร้าวน้ำหอมชอบที่สุดคือดินเหนียวๆ ถ้าเป็นดินนาก็จะดี และจะต้องปลูกโดยระบบขุดร่องสวนนะ เพื่อให้มันจัดการได้ง่าย เช่น รดน้ำ ขนส่งผลผลิต และโดยเฉพาะเวลาสอยมะพร้าว จะต้องให้มันตกลงไปในร่องน้ำ คุณจะใช้เชือกหย่อนลงมามันก็ยังหลุดตกอยู่ดี มีรอยช้ำไม่ได้ ราคาตกเลยนะ
แต่ก่อนผมก็คิดว่าทำไมต้องขุดร่อง แต่พอมะพร้าวเริ่มสูงก็รู้ว่ามันจำเป็นที่จะต้องทำระบบขุดร่อง
เรื่องร่องน้ำนี้ ยังเลี้ยงปลาได้ด้วยนะ ปีแรกๆ ผมยังเลี้ยงเลย แต่พอมะพร้าวให้ผลผลิตก็ไม่เน้นมาก เอาผลผลิตจากมะพร้าวไว้ก่อน
สรุปว่า จะเป็นสวนยาง สวนปาล์ม ปลูกได้หมด ขอให้เป็นที่ราบ มีน้ำเพียงพอแค่นั้น และเป็นดินเหนียว ของผมนั้นดีอย่างมีคลองชลประทาน น้ำมีทั้งปีไม่ขาด
- วางแผนอนาคตเกี่ยวกับการปลูกมะพร้าวอย่างไรบ้าง?
ก็ไม่ได้วางแผนอะไรมากนะ รู้แต่ว่าที่มีอยู่ 6 ไร่ จะทำอย่างไรให้ผลผลิตเต็มเม็ดเต็มหน่วย ติดผลดีทั้งปี คือจะขึ้นกับว่าเราจะดูแลได้ทันไหม แต่ถ้ามีที่ดินมากกว่านี้ก็คิดจะปลูกเพิ่มอยู่เหมือนกัน …
ทั้งหมดนี้ก็เป็นความคิดเห็นส่วนหนึ่งของ คุณสมจิตร ทองคง ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่คิดจะเริ่มต้นปลูกไม่มากก็น้อย และจากการพูดคุยในครั้งนี้ ได้ทำให้เราทราบว่าความสำเร็จที่เกิดขึ้นมาจากการทุ่มเทที่จะเรียนรู้ในอาชีพ…มีความจริงจังและจริงใจ…ความจริงจังคงพอได้เห็นจากคำสัมภาษณ์แล้ว แต่ความจริงใจ “แค่ไหนเรียกจริงใจ” เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จะมาเอ่ยในที่นี้ก็คือ “ผู้เขียนได้ถามคุณสมจิตรว่ามีคนมาขอซื้อพันธุ์มะพร้าวบ้างไหม” เพราะช่วงนี้กระแสแรง ก็ได้รับตำตอบว่า มีคนมาถามหาเยอะมาก แต่ก็ไม่เคยคิดจะทำขาย เพราะว่ากลัวว่าทำออกไปแล้วคุณภาพของสายพันธุ์จะไม่ดีพอ
“ของผมซื้อมา ได้พันธุ์แท้ประมาณ 75 % ถ้าผมทำขายต่อก็คงเหลือ 50% …ผมไม่เอาละ ชาวบ้านด่าผมตายแน่ๆ” นี่คือคุณสมจิตร
ขอแถมอีกเรื่องหนึ่ง คุณสมจิตร เล่าให้ฟังนอกรอบว่า ปัญหาหนึ่งที่ไม่อยากบอก เดี่ยวจะโกรธกันเปล่าๆ คือเรื่องของ โจรขโมยมะพร้าว (ศัตรูภาคพื้นดิน)
“เรื่องขโมยก็มีอยู่ตลอด…เคยจับได้นะ คนกันเองทั้งนั้น มีอยู่ครั้งหนึ่งทำทีเป็นมาทอดแหหาปลา พอเห็นเราก็วิ่งหนี ทิ้งแหไว้ เราเอาแหไปให้ผู้ใหญ่บ้านเป็นหลักฐาน พอรู้ดังนี้เขาก็ไม่พูดคุยกับเราเลย…คิดไว้เลยว่าปีหนึ่ง 15 ต้น ยกไว้ให้พวกหัวขโมยเลย” คุณสมจิตร พูดคุยอย่างอารมณ์ดี
เอาละ ใครอยากพูดคุย อยากรู้มากกว่านี้ก็ยินดี… โทร. 086 2885521 …อะไรที่รู้ บอกได้หมด ไม่ปิดบังใดๆครับ