หลายวันก่อนได้เดินทางไปที่บ้านคลองศก จ.สุราษฎร์ธานี เห็นชาวบ้านคนหนึ่งกำลังให้อาหารไก่ป่าจำนวนหลายสิบตัว ก็เกิดความสนใจทันที
“ไก่เถื่อน(ไก่ป่า)ม่ายครับที่กำลังให้กินอาหารอยู่นิ” ผู้เขียนเดินลงจากรถไปถามผู้ที่กำลังโปรยอาหาร
“ใช่ครับ ไก่เถื่อนครับ” เสียงตอบจากเจ้าของบ้าน
ได้การละครับ…ไก่เถื่อนทำไมถึงเชื่องอย่างนี้ และที่เห็นนี้จำนวนก็ไม่ใช่น้อยๆ น่าสนใจทีเดียว
ว่าแล้วก็ยืนล้อมวงกันอยู่ตรงนั้น ดูไก่เถื่อนกินอาหารไปพูดคุยกันไป เจ้าของไก่เถื่อนนี้ชื่อ “คุณนิต” หรือชื่อจริง อนิตศักดิ์ จันทร์อยู่ อยู่บ้านเลขที่ 46 ต.คลองศก อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี โทร. 094 0647380
คุณนิต เล่าให้ฟังแบบเปิดอก (เพราะยืนคุยกันแบบไม่ใส่เสื้อ) ว่ามาอยู่ที่ต.คลองศกมานาน 40 กว่าปีแล้ว มาอยู่แรกๆ ก็ได้ยินเสียงไก่เถื่อนเยอะมาก เสียงขันดังไม่ขาด ต่อมาได้ยินน้อยลง ค่อยๆเงียบไป
“ผมก็ชอบเสียงไก่เถื่อนขันนะมันเป็นธรรมชาติดี แถมขนมันสวย เป็นไก่ที่งามปราดเปรียวมาก”
อยู่มาวันหนึ่ง คุณนิตได้พบลูกไก่เถื่อนครอกหนึ่งกำลังเดินข้ามถนนในหมู่บ้าน ก็คิดอยากเลี้ยง ก็เลยจับมาได้คู่หนึ่ง เป็นตัวผู้ 1 ตัว ตัวเมีย 1 ตัว เลี้ยงจนวัยเจริญพันธุ์ก็ออกลูกมาได้หลายครอก
“เลี้ยงไปเลี้ยงมามันออกไข่ออกลูก แต่ว่าพอมันโตหน่อยก็เข้าไปหากินในป่า และไปหากินไกลออกไป จนที่สุดก็หายไปเลย”
เมื่อไก่เถื่อนที่เลี้ยงไว้มักหนีหายไป ซึ่งก็เป็นไปตามธรรมชาติของไก่เถื่อนที่มีอุปนิสัยระแวง ระวังภัยสูง เห็นผู้คนมักจะถอยห่าง จึงคิดหาวิธีที่จะทำให้มันเชื่อง ให้มันอาศัยอยู่ตามบ้านเรือนเหมือนไก่บ้าน
“ผมก็เลยนำมันมาผสมกับไก่แจ้ ซึ่งก็ได้ผลดี และเชื่องมากขึ้นตามลำดับ จนมันไม่อยากกลับไปอยู่ในป่าอีกต่อไป”
ณ ปัจจุบันนี้เป็นเวลา 8 ปีเต็มๆแล้ว ที่งานเลี้ยงไก่เถื่อนได้ดำเนินการมา จากเพียงไม่กี่ตัวจนวันนี้มีประมาณ 100 ตัว แบ่งเป็นตัวผู้ประมาณ 44 ตัว ที่เหลือเป็นตัวเมีย ซึ่งจะมีด้วยกันหลายรุ่น
“เลี้ยงไก่เถื่อนแบบบี้ยากไหมครับ” ถามต่อ
“ก็ไม่ยากนะครับ เน้นเลี้ยงให้มันอยู่ตามธรรมชาติ ไม่ต้องดูแลอะไรมันมาก ให้หากินเอง ให้หาที่นอนเอง คือจะดูแลแบบห่างๆ”
เรื่องสำคัญคืออาหารการกิน จะให้อาหารวันละ 1 มื้อ… “ผมจะหุงข้าวสุกวันละหม้อ (2 ลิตร ข้าวสาร) เอาไว้เลี้ยงสุนัข 4 ตัว เลี้ยงเป็ดเทศ 5 ตัว ที่เหลือก็ไว้เลี้ยงไก่เถื่อน ทุกบ่าย 3 โมง จะเป็นเวลาให้อาหาร ซึ่งมันจะมารอเลยพอถึงเวลา”
“เรื่องออกไข่ ออกลูก ก็ปล่อยตามธรรมชาติ ผมไม่เคยไปดูว่าแม่ตัวไหนจะไข่กี่ฟอง ฟักออกลูกกี่ตัว คือมันจะเข้าไปไข่ในป่าสวนยางรอบๆบ้าน พอถึงเวลาก็พาลูกของมันออกมาหากิน” นี้คือวิถีชีวิตการเลี้ยงไก่เถื่อนของคุณนิต ที่ใช้วิธีธรรมชาติให้มากที่สุด
“เลี้ยงแล้วเอาไปไหน เอาไปขายบ้างไหม” ถามต่อ
ได้รับคำตอบว่า “ตั้งแต่เลี้ยงมาไม่เคยขาย ไม่เคยจับมาทำเป็นอาหาร แต่เลี้ยงเพื่อเป็นการอนุรักษ์…ใครมาขอซื้อก็ไม่ขาย แต่จะให้ฟรีหากจะนำไปเลี้ยงต่อ”
การอนุรักษ์ไก่เถื่อน กลัวว่าไก่เถื่อนจะสูญพันธุ์ จึงเป็นความประสงค์ของคุณนิต เพราะว่าอยากให้ธรรมชาติรอบๆบ้านอุดมสมบูรณ์ ซึ่งเวลานี้ไก่เถื่อนแท้ๆก็เพิ่มปริมาณมากขึ้น จากที่เคยเลี้ยงและปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติ บางครั้งยังเห็นออกมากินอาหารกับไก่เถื่อนที่เลี้ยงไว้ แต่เวลาเข้าใกล้มันจะถอยห่าง…
ความประสงค์อีกอย่างหนึ่งของคุณนิตคือ ต้องการทำหมู่บ้านให้เป็นที่ท่องเที่ยวของชุมชน มีที่พักเป็นโฮมเตย์ 3-5 หลัง และนอกจากจะมีไก่เถื่อนให้ดูเล่นและฟังเสียงขันแล้ว ยังจะมีแปลงปลูกผักปลอดภัยสารพิษ บนพื้นที่ 5 ไร่
ในการทำเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยว คงไม่ได้เป็นแค่ความฝัน แต่ชีวิตจริงของคุณนิต นอกจากจะมีอาชีพทำสวนยาง 140 ไร่ ยังมีอาชีพเป็นไกด์ท้องถิ่น (Local Guide) ซึ่งเป็นอาชีพที่ได้ทำมานาน โดยใช้ประสบการณ์จากที่เคยเป็นนายพราน
“ผมเคยเป็นพรานล่าสัตว์ป่ามาก่อน ยอมรับว่าล่าช้าง กวาง หมูป่า ฯลฯ ทำมานานตามประสาคนในท้องถิ่นที่ดำรงชีพด้วยวิธีนี้ ต่อมาผมเห็นว่าสัตว์ป่าต่างๆน้อยลง เช่น ไก่ฟ้าก็เริ่มสูญพันธุ์แล้ว นกหว้าก็หายากลง เช่นเดียวกับกวาง หรือหมูป่าก็แทบไม่มีให้เห็นแล้ว”
จากการที่มีประสบการณ์เป็นนายพราน ทำให้เป็นผู้รู้เรื่องป่าดีที่สุดคนหนึ่ง จนหน่วยงานต่างๆมักเชิญไปให้ความรู้แก่เด็กและเยาวชน โดยเฉพาะเวลาที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาสกหรือป่าใกล้เคียง เขาจะได้รับเชิญจากบริษัททัวร์ไปให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้ชีวิตในป่าให้อยู่รอดได้ เช่น การหุงข้าวด้วยกระบอกไม้ไผ่ การหาอาหารจากป่า ฯลฯ
การเป็นไกด์ท้องถิ่นของคุณนิตก็ถือว่าไม่ธรรมดาทีเดียว เรื่องราวของเขาเคยได้รับการตีพิมพ์ในหนังสือของฝรั่งมาแล้ว และที่ภาคภูมิใจก็คือว่า เรียนหนังสือจบแค่ ม.ศ. 3 แต่สามารถสื่อสารได้ถึง 5 ภาษา โดยเฉพาะภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก ที่เหลือจะเป็นภาษาเยอรมัน ฝรั่งเศส ฯลฯ
“อนาคตผมต้องการทำที่บ้านของผมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของชุมชน ฝรั่งหรือใครอยากมาใช้ชีวิตแบบบ้านๆ ต่อไปก็เชิญที่บ้านผมได้เลย”
ในวันที่ได้ไปเยือนบ้านคุณนิต เห็นลูกชายกำลังเลื่อยไม้เพื่อทำเป็นบ้านพักให้นักท่องเที่ยว ซึ่งมีโครงการจะให้แล้วเสร็จในช่วงปลายปีนี้
นี่คือ ความมุ่งมั่นของอดีตนายพรานมือฉมัง ที่หันกลับมาใช้ชีวิตจากนักล่ามาเป็นนักอนุรักษ์ และเป็นไกด์ท้องถิ่น …
“เวลานี้หวังพื่งสวนยางเพียงอย่างเดียวมันไม่ได้แล้ว เราต้องทำให้หมู่บ้านของเราเพิ่มมูลค่าขึ้นมา เรายังมีทิวเขาสกให้ชม ภูเขาสวยๆยังคงอยู่ แต่เราจะต้องเติมแต่งธรรมชาติที่เคยมีมาให้กลับมาเหมือนเดิม อย่างเช่นไก่เถื่อนที่เวลานี้ในป่าชุมชนเริ่มมีมากขึ้น …ใครที่แบกปืนเข้ามาผมห้ามเด็ดขาด เพราะว่ามันมีแต่สูญหาย จึงขอร้องว่าอย่าไปยิงมันอีกเลย…เรามาช่วยกันอนุรักษ์ไว้ให้กับลูกหลานดีกว่าครับ” คือคำทิ้งท้ายของคุณนิต อดีตนายพรานที่กลับตัวกลับใจ
ขอเป็นคนดีของสังคมเพื่อสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง คือความตั้งใจของชีวิตวันนี้
(ขอบคุณ : คุณหมู-ประมวล แซ่โง้ว ร้านโง้วเม่งเฮง ที่เป็นคนนำทางในครั้งนี้)