ภายใต้โครงการ “เทสโก้ โลตัส ประชารัฐ ร่วมใจ” เทสโก้ โลตัส ผนึกกำลัง กรมปศุสัตว์ และคู่ค้าไข่ไก่ อัครา กรุ๊ป พัฒนา “ไข่ออร์แกนิก” คุณภาพดี ราคาคุ้มค่า ออกจำหน่ายภายใต้แบรนด์ “อัครา เอคโคโลยี” ทุ่มพัฒนาฟาร์มไก่ไข่ออร์แกนิก คุมเข้มทั้งกระบวนการ จนถึงมือผู้บริโภค ยกระดับมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ขานรับตลาดอาหารปลอดภัย คนหันใส่ใจสุขภาพโต พร้อมวางแผนขยายฟาร์มไก่อินทรีย์-การตลาดเพิ่ม
นางสาว พรเพ็ญ นาถพิริยรัตน์ รองประธานกรรมการฝ่ายกำกับดูแลคุณภาพสินค้า เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า “โครงการพัฒนาไข่ออร์แกนิกร่วมกับคู่ค้าอย่าง อัครา กรุ๊ป แสดงให้เห็นถึงการทำงานและเติบโตร่วมกันกับคู่ค้าของเทสโก้ โลตัส สำหรับโครงการนี้ มีความพิเศษที่เป็นหนึ่งใน 22 โครงการประชารัฐอีกด้วย เพราะนอกจากจะเป็นการร่วมพัฒนาระหว่างเทสโก้ โลตัส และอัครา กรุ๊ปแล้ว ภาครัฐอย่างกรมปศุสัตว์ได้ให้การสนับสนุนในเรื่องของมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ให้คำปรึกษาและแนะนำตลอดกระบวนการพัฒนาจนกระทั่งขอรับรองสำเร็จ”
“ปัจจุบันกระแสใส่ใจสุขภาพมีมากขึ้น ลูกค้าหันมาเลือกรับประทานอาหารปลอดภัยกันมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มออร์แกนิก ตลาดมีความต้องการสูง แต่ความหลากหลายของสินค้าและการผลิต ที่ต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ ทำให้มีสินค้าที่ผ่านการรับรองน้อย ตลาดยังมีช่องว่าง เทสโก้ โลตัส จึงมองหาคู่ค้าที่สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกันได้ ผู้บริหารของแสงทองฟาร์ม มีวิสัยทัศน์และความสนใจในการพัฒนาและต่อยอดสินค้าอยู่ตลอดเวลา จึงเป็นที่มาของการร่วมมือกันพัฒนาฟาร์มไข่ไก่ออร์แกนิกแห่งนี้ โดยเริ่มเรียนรู้และปฏิบัติด้วยกันตั้งแต่การวางแผนสร้างโรงเรือน จัดสรรสภาพแวดล้อมที่เป็นอิสระ ในเบื้องต้นเราคาดว่าน่าจะใช้เวลา ประมาณ 2-3 ปี ในการพัฒนาจนถึงได้รับการรับรอง แต่เมื่อได้รับคำแนะนำและความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ ให้ความรู้ที่ชัดเจนด้านมาตรฐานไข่อินทรีย์ ทำให้สามารถได้รับรองสำเร็จภายในเวลา 7 เดือนเท่านั้น โดยไข่ไก่ออร์แกนิก ภายใต้แบรนด์อัครา จะวางจำหน่ายที่เทสโก้ โลตัส เป็นแห่งแรก”
นายธนาวุฑ เอื้อละพันธ์ รองประธานกรรมการ อัครา กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า แสงทองฟาร์ม ทำงานและเติบโตเคียงคู่กับเทสโก้ โลตัสมาตลอด 5 ปี ตั้งแต่ไม่มีมาตรฐานอะไรเลย ที่ผ่านมาเราได้รับคำแนะนำดีๆ จากเทสโก้ โลตัสอย่างมากมาย โดยเฉพาะในเรื่องการพัฒนามาตรฐานสินค้าให้ก้าวสู่ความปลอดภัยยิ่งขึ้น เดิมเป็นห้องแถว 5 คูหา พัฒนาจนได้ GMP,HACCP และต่อมาได้รับรอง ISO 2200 โครงการล่าสุดร่วมกันพัฒนาไข่ไก่ออร์แกนิก ซึ่งตลาดยุคนี้มีความต้องการสูง ออกสู่ตลาดเป็นครั้งแรก
“ฟาร์มไก่ไข่ ของเราเป็นระบบอินทรีย์ที่ได้รับรองมาตรฐานในพื้นที่ 22 ไร่ 4 โรงเรือน ไก่ของเราจะมีพื้นที่เดินเล่น เป็นอิสระ จะไม่เบียดกันเหมือนทั่วไป ใน 1 ตารางเมตรจะมีไก่ไข่เฉลี่ย 4 ตัว บริโภคอาหารที่เป็นออร์แกนิก ทั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ หมายถึง วัตถุดิบอาหารไก่ก็ต้องออร์แกนิก ขณะที่บริเวณโรงเรือนก็จะปลูกหญ้า พืชออร์แกนิก เพื่อให้ไก่จิกกิน และทำแปลงปลูกพืชสมุนไพร อาทิ ฟ้าทะลายโจร ขมิ้นชัน เพื่อใช้ทดแทนการใช้ยาปฎิชีวนะในการรักษา ไก่ที่ฟาร์มนี้จึงถูกเลี้ยงอย่างมีความสุข เดินเล่นกันอย่างสนุกสนาน ไม่เครียด ไม่มีการปนเปื้อน เพื่อให้ไก่ออกไข่เป็นพรีเมี่ยมควอลิตี้และออร์แกนิกอย่างแท้จริง ทุกวันนี้เรามีไก่ 4,000 ตัว ผลิตไข่ออร์แกนิกได้ 3,500 ฟองต่อวัน ถ้าผ่านกระบวนการคัดแยกแล้วได้ 2,800 ฟองต่อวัน ส่งให้กับเทสโก้ โลตัส และในอนาคต มีแผนที่จะพัฒนากำลังผลิตเพิ่มเป็นวันละ 20,000 ฟอง”
“ถามว่าการเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์ยากไหม ก็บอกเลยว่าเป็นเรื่องที่ยากที่สุด เราเลี้ยง 4,000 ตัว ยากกว่าเลี้ยงไก่ไข่ปกติ 2-3 ล้านตัว อย่างเช่นเรื่องวัตถุดิบอาหาร จำพวกข้าวโพดอินทรีย์ แรกๆหาซื้อยาก แต่ตอนนี้เราโชคดีไดด้ให้กลุ่มเกษตรอินทรีย์ภาคเหนือเป็นผู้ผลิตส่งให้เรา รวมทั้งวัตถุดิบตัวอื่นๆ ”
นายสัตวแพทย์อยุทธ์ หรินทรานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลได้กำหนดให้เกษตรอินทรีย์เป็นวาระแห่งชาติ ขับเคลื่อนโดยคณะกรรมการพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีส่วนร่วมในการดำเนินการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มพื้นที่และปริมาณการผลิตเกษตรอินทรีย์ เพิ่มมูลค่าของผลิตผล ผลิตภัณฑ์ สินค้าและบริการด้านเกษตรอินทรีย์เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ต่อปี เพิ่มการค้าและการบริโภคสินค้าเกษตรอินทรีย์ในประเทศ รวมทั้งให้มาตรฐานและระบบการรับรองสินค้าเกษตรอินทรีย์ของไทยให้เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ และนำไปสู่การเป็นศูนย์กลาง (Hub) ของสินค้าและบริการด้านเกษตรอินทรีย์ในระดับสากล อีกทั้งเป็นการพัฒนาองค์ความรู้และนวัตกรรมเกษตรอินทรีย์ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
“เช่นเดียวกับ การทำฟาร์มไก่ เพื่อผลิตไข่ออร์แกนิก ของอัครากรุ๊ป ซึ่งไม่ง่ายเลยสำหรับผู้ประกอบการ แต่ก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เนื่องจากผู้ประกอบการมีความตั้งใจและศึกษารายละเอียดขั้นตอนการดำเนินงาน ที่ต้องผ่านการตรวจสอบตลอด อาทิ พื้นที่การทำฟาร์มต้องห่างไกลจากแปลงเกษตรที่ใช้สารเคมี โรงเรือนต้องมีลักษณะให้ไก่ได้เดินออกกำลัง มีที่เดินเล่น และต้องเป็นพื้นที่ปลอดเชื้อ นอกจากนี้วัตถุดิบที่นำมาทำเป็นอาหารยังต้องเป็นออร์แกนิกด้วย ซึ่งผลผลิตจากฟาร์มไก่ไข่ออร์แกนิก จะได้ไข่น้อยกว่าปกติ คือจะได้ผลผลิตราว 60% เท่านั้น ดังนั้นผู้ประกอบการจึงต้องมีความอดทน และเข้มงวด เพื่อผลผลิตไข่ออร์แกนิกปลอดภัยอย่างแท้จริง”
นอกจากนี้อธิบดีกรมปศุสัตว์เปิดเผยอีกว่า ตลาดเกษตรอินทรีย์เป็นกระแสที่มาแรงทั่วโลก ได้เคยไปเห็นที่ยุโรปขายไข่ออร์แกนิก 4 ฟอง ราคา 2.2 ยูโร และที่สิงคโปร์ใกล้ๆบ้านเรา ขายฟองละ 30 บาท
“การเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์เป็นสัญญาณที่ดีต่อเกษตรกรผู้เลี้ยง ที่ผ่านมาเราขายในตลาดตามต่างจังหวัดหรือตลาดที่ไม่มีกำลังซื้อจึงไม่ประสบความสำเร็จ และต้นทุนสูง เกษตรกรอยู่ไม่ได้ แต่ถ้าเรามีตลาดชัดเจนและได้พัฒนาร่วมกันตั้งแต่ต้นทางอย่างที่เทสโก้ โลตัส ได้ดำเนินการนี้ ก็จะเป็นผลดีให้ตลาดมีความชัดเจนมากขึ้น”
สำหรับไข่ไก่ออร์แกนิกที่พัฒนาขึ้นนี้ เกิดขึ้นภายใต้แบรนด์ “อัครา” เป็น Best Quality by Tesco ในคอนเซ็ปต์ Feel the Nature ซึ่งผ่านการรับรองจากกรมปศุสัตว์ว่าปลอดภัยจากสารเร่งฮอร์โมน เร่งสี และยาปฏิชีวินะ ขายราคา 10 ฟอง 89 บาท และมีแนวโน้มตลาดขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังที่กล่าวแล้ว