ถ้าพูดถึงลำไยก็ต้องนึกถึงภาคเหนือ เพราะว่าเป็นแหล่งปลูกที่สำคัญของไทย ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย แพร่ พะเยา ลำปาง ฯลฯ และหากพูดถึงสายพันธุ์ลำไยยอดนิยมคนก็นึกถึง “อีดอ” เพราะมีความตอบสนองทางด้านรสชาติและการอบแห้งเพื่อการส่งออกได้ดีที่สุด
แต่วันนี้ได้เกิดลำไยสายพันธุ์ใหม่ “เพชรมงคล” ว่ากันว่ามีความโดดเด่นไม่แพ้อีดอ ทั้งรสชาติหวานกรอบและที่สำคัญลูกใหญ่กว่า เนื้อเยอะกว่า แถมเม็ดก็ลีบต่างหาก
ว่าแล้วก็ต้องไปพิสูจน์กันว่าอร่อย เนื้อเยอะ สมคำร่ำลือหรือไม่…ทีมงาน “เกษตรก้าวไกล” ได้รับคำแนะนำจาก ดร.สุนทร พิพิธแสงจันทร์ กรรมการที่ปรึกษาสมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย ที่พร้อมด้วย รศ.วิจิตร วังใน ชวนให้เดินทางมาพิสูจน์และตรวจสอบด้วยตัวเอง

คุณชัยชาย พิพัฒนามงคล เจ้าของ “สวนส้มมงคล” อยู่ที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ คือผู้ค้นพบและเจ้าของสายพันธุ์ ลำไย “เพชรมงคล (Petch Mongkol)” ที่มาที่ไปก็สันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากการกลายพันธุ์จากลำไยพันธุ์อีดอ เพราะในอดีตเคยรับซื้อลำไยขายในประเทศและส่งออก อาจรับประทานและทิ้งเมล็ด จนเกิดการงอกและเจริญเติบโตมาให้ผลผลิต
“ได้เห็นความโดดเด่นที่แตกต่างจากลำไยสายพันธุ์อื่นๆ คือ มีการเจริญเติบโตที่ดี ติดผลดก ทั้งๆที่ไม่ได้รับการดูแล ให้ผลผลิตดกทั่วทั้งต้น ผลใหญ่ เนื้อเยอะ เม็ดลีบเล็ก แต่ในขณะนั้นยังไม่ได้ให้ความสนใจเท่าที่ควรนัก ปัจจุบันต้นแม่มีอายุถึง 20 กว่าปีแล้ว และด้วยความโดดเด่นเฉพาะตัวของสายพันธุ์นี้จึงเริ่มทำการตอนกิ่งและขยายปลูกเพิ่มในแปลงอื่นๆ โดยยังไม่ได้ทำในเชิงการค้า จนวันนี้ลำไยพันธุ์เพชรมงคลนี้สามารถให้ผลผลิตและเก็บขายได้แล้วในราคากิโลกรัมละ 150 บาท”
เพชรมงคล เป็นชื่อทางการค้าโดยตั้งชื่อตามชื่อสวนส้มเดิม และจากการได้ตรวจสอบทางสายพันธุ์ แล้วไม่ตรงหรือซ้ำกับสายพันธุ์ที่มีมาก่อน อีกทั้งยังมีความโดดเด่นเฉพาะตัวของมันรวมทั้งได้รับคำแนะนำที่ดีจากเพื่อนฝูงและผู้ใหญ่หลายท่านจึงมีแนวคิดที่จะปลูกและขยายพันธุ์ในเชิงการค้าต่อไป

ลักษณะเด่นของลำไยเพชรมงคล
ลักษณะเด่นที่ชัดเจนของลำไยเพชรมงคล คือ มีผลที่ใหญ่ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 3.5-4 ซม. เนื้อหนา เม็ดลีบเล็กมาก ดังนั้นจึงมีเนื้อผลลำไยที่รับประทานได้มากกว่าสายพันธุ์อื่นๆ มีความหวานน้อยกว่าพันธุ์อื่น มีความหวานเฉลี่ย 10 บริกซ์ ทำให้รับประทานได้ง่าย ไม่หวานมาก ไม่เป็นร้อนใน ผลแห้ง ไม่แฉะน้ำ เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับคนที่รักสุขภาพและกลุ่มคนที่เป็นโรคเบาหวานที่ต้องการรับประทานผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อย ทำให้รับประทานได้มากกว่าผลไม้ที่มีความหวานสูง ลักษณะใบอ่อนกว่าพันธุ์อีดอ ทรงพุ่มไม่สูงมาก ช่อผลยาว ผลผลิตจะออกล่าช้ากว่าพันธุ์อื่นๆ ประมาณ 1 เดือน
ขยายพันธุ์ด้วยวิธีตอนกิ่ง
กิ่งพันธุ์ที่นี่จะใช้การขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่ง ซึ่งเป็นวิธีที่ง่าย สะดวกและรวดเร็ว ที่สำคัญยังได้ต้นลำไยตรงตามพันธุ์ที่ต้องการ ไม่มีการกลายพันธุ์ ปลูกแล้วโตเร็ว สามารถให้ผลผลิตเต็มที่ในปีที่ 4 การตอนกิ่งจะทำในช่วงต้นฤดูฝน จึงจะทำให้เกิดรากได้ง่ายและรวดเร็วกว่าช่วงอื่นๆ การเลือกกิ่งตอนที่ดีจะต้องเลือกกระโดงที่สมบูรณ์ เป็นกิ่งในฤดูที่แตกออกมาภายในปีนั้น กิ่งที่แก่หรืออ่อนเกินไปรากจะเดินได้น้อยกว่า การตอนจะใช้เวลาตอนบนต้นนาน 2 เดือน จนเกิดรากเต็มตุ้มจึงตัดลงมาชำในถุงดำอีก 1 เดือน จึงจะนำไปปลูกและเจริญเติบโตได้ดี
สำหรับกิ่งพันธุ์ลำไยเพชรมงคล จะเป็นกิ่งตอนที่ชำลงถุงดำพร้อมลงหลุมปลูกแล้ว ขณะนี้ทางสวนได้มีกำลังการผลิตที่เพียงพอต่อความต้องการของผู้สนใจ จำหน่ายในราคาเริ่มต้นกิ่งละ 500 บาท ซึ่งถ้าซื้อในปริมาณมากราคาจะลดลงตามจำนวนกิ่ง หากท่านไดสนใจสามารถติดต่อสั่งจองไว้ล่วงหน้าได้ เพื่อทางสวนจะได้ทำการตอนและชำใว้ให้ก่อน

การปลูกและการจัดการ
สำหรับการปลูกและการดูแลรักษาลำไยเพชรมงคลนั้น คุณชัยชาญบอกว่า จริงๆแล้วลำไยปลูกได้ทั่วไป พื้นที่ปลูกลำไยที่เหมาะสมควรมีความสูงจากระดับน้ำทะเลไม่เกิน 1,000 เมตร เป็นที่ราบหรือมีความลาดเอียงไม่เกิน 15% หากพื้นที่ที่มีระดับน้ำใต้ดินสูงและมีน้ำท่วมขังเป็นครั้งคราว ควรขุดร่องเป็นแปลงเล็กน้อยป้องกันน้ำท่วมขังเกิดรากเน่าได้ ส่วนพื้นที่เชิงเขาสามารถปลูกได้ดีเช่นกัน ระยะปลูกที่เหมาะสมและแนะนำ คือ 8×8 เมตร และ 10×10 เมตร ทั้งนี้สามารถปลูกระยะ 8×4 เมตรได้ แต่ต้องมีการจัดการที่ดีอย่างสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้ต้นชิดกันเกินไป ไม่ให้ทรงพุ่มชนกัน สะดวกในการปฏิบัติงาน ขนาดหลุมปลูก 50x50x50 ซม. รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการปลูกแนะนำให้เป็นช่วงต้นหรือกลางฤดูฝน เพราะต้นที่ปลูกใหม่จะได้น้ำอย่างสม่ำเสมอและเพียงพอในช่วงปลูกใหม่ ลดความเสี่ยงที่กิ่งพันธุ์อาจตายได้ เมื่อลงหลุมปลูกแล้วควรปักหลักยึดลำต้นไม่ให้โยกคลอนเมื่อมีลมพัดแรงจัด
การให้น้ำในลำไยมีความจำเป็นสูง เพราะน้ำมีผลโดยตรงต่อการเจริญเติบโต การออกดอกติดผล และคุณภาพของผลผลิตลำไย หากปลูกลำไยในเชิงธุรกิจจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีระบบน้ำสปริงเกอร์ ต้นทุนไม่สูงมาก ลดแรงงาน ประหยัดน้ำ ถ้าคิดในระยะยาวถือว่าคุ้มมาก เป็นวิธีให้น้ำที่มีประสิทธิภาพและเป็นที่นิยมของเกษตรกรทั่วไป
การให้ปุ๋ย สามารถให้ปุ๋ยเหมือนลำไยทั่วไป สำหรับทางดินมี 2 วิธี คือ การหว่านรอบทรงพุ่ม และขุดรอบๆ ทรงพุ่มแล้วให้ปุ๋ยในร่องและกลบดิน สำหรับการให้ปุ๋ยทางใบนั้นจะเป็นการให้ธาตุอาหารแก่พืชทีละน้อย จึงเหมาะสำหรับการให้จุลธาตุอาหารแก่พืช เช่น คอปเปอร์ หรือสังกะสี

ทิศทางตลาดลำไยไทย
คุณชัยชาย กล่าวว่า ตลาดใหญ่ของลำไย คือ ประเทศจีน ซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่มาก ปัจจุบันยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ลำไยไทยยังขายได้ในราคาดีอย่างสม่ำเสมอ ไม่ได้ตกต่ำเหมือนไม้ผลอื่นๆ ประกอบกับมีการแปรรูป การอบแห้ง ที่ช่วยรักษาคุณภาพลำไยให้อยู่ได้นานจึงเกิดความเสียหายได้น้อย ขายได้หมดทุกผล และอีกตลาดที่สำคัญไม่แพ้ตลาดจีน คือ ประเทศอินโดนีเซีย ปัจจุบันมีความต้องการลำไยไทยในปริมาณมากไม่น้อยกว่าประเทศจีนเลย ดังนั้นทิศทางลำไยไทยตลาดจึงกว้างไกลแน่นอน
“ลำไยเพชรมงคลมีความหวานน้อย จึงเหมาะสมสำหรับคนที่ใส่ใจสุขภาพ ไม่ต้องการรับประทานน้ำตาลมาก เช่น คนที่เป็นโรคเบาหวาน ทานแล้วไม่เป็นร้อนใน เนื้อแห้ง ไม่ฉ่ำน้ำ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของเกษตรกรที่ปลูกขายในประเทศและส่งออก มีจุดขาย มีจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ต้องไปแต่งช่อก็ได้ผลใหญ่ ลำไยเป็นพืชระดับอุตสาหกรรมอยู่แล้ว มีตลาดที่ดีในอนาคตแน่นอน คนไทยน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นเหมือนสร้างตลาดใหม่ให้กับผู้บริโภคต่างประเทศ” คุณชัยชาย กล่าวทิ้งท้าย
ท่านใดสนใจกิ่งพันธุ์ลำไยเพชรมงคล หรือพูดคุยเรื่องทิศทางการพัฒนาลำไย สามารถติดต่อได้ที่ คุณชัยชาย (เฮียหงี) พิพัฒนามงคล เลขที่ 4 ม.7 ต.แม่ข่า อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ 50320 โทร. 088 252 1488…ยินดีต้อนรับทุกท่านครับ
(เรื่องและภาพโดย : นันท์นภัส ราชเจริญ นิตยสารเกษตรวาไรตี้ รู้แล้วรวย : ขอขอบคุณ ฟอร์ด เรนเจอร์ พาหนะคู่ใจในการเดินทางครั้งนี้)