เรื่อง/ภาพ : มนตรี ตรีชารี
ยโสธร จัดใหญ่ งานเกษตรอินทรีย์ยโสธร 2559 ขนผลผลิตเกษตรอินทรีย์และอาหารปลอดภัยจำหน่ายกว่า 100 ผลิตภัณฑ์โชว์ศักยภาพ เมืองต้นแบบเกษตรอินทรีย์ ของประเทศไทย ภายใต้ วิสัยทัศน์ “ยโสธรเมืองเกษตรอินทรีย์ เมืองแห่งวิถีอีสาน” หนุนเกษตรกรในจังหวัดขยายพื้นที่เกษตรอินทรีย์ให้ได้ 100,000 ไร่ ภายในปี 2562 เพื่อรองรับการเป็น มหานครแห่งเกษตรอินทรีย์
จากการเปิดเผยของนายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ถึงการผลักดันให้จังหวัดยโสธรเป็นต้นแบบของการพัฒนาเป็นเมืองเกษตรอินทรีย์ หรือ “ยโสธรโมเดล” ว่าเกษตรกรของจังหวัดยโสธรได้ทำเกษตรอินทรีย์มานานกว่า 20 ปี มีการรวมกลุ่มกันอย่างเข้มแข็ง ปัจจุบันมีกลุ่มเกษตรอินทรีย์ที่ได้รับรองมาตรฐาน 10 กลุ่ม มีสมาชิกรวมกันกว่า 30,000 ราย มีพื้นที่การเกษตรแบบอินทรีย์รวมกันกว่า 37,000 ไร่ ทางจังหวัดมีแผนยุทธศาสตร์เกษตรอินทรีย์ วิถียโสธร ปี 2559-2562 ขยายพื้นที่การทำเกษตรอินทรีย์ให้ได้ไม่น้อยกว่า 100,000 ไร่ นอกจากนี้ยังมีแผนการใช้พื้นที่ทำเกษตรอินทรีย์ไปสู่อาชีพการทำประมงและการปศุสัตว์แบบอินทรีย์อีกด้วย
“จังหวัดยโสธรมีพื้นที่ทำการเกษตรทั้งหมดกว่า 1,200,000 ไร่ แต่เรามีพื้นที่เกษตรอินทรีย์ที่ได้รับรองมาตรฐานระดับสากล ประมาณ 37,000 ไร่ ยังมีกลุ่มเกษตรอินทรีย์ที่ทำมานานแล้วแต่ไม่มาขึ้นทะเบียน อีกกว่า 50,000 ไร่ ยังมีแปลงเกษตรอินทรีย์ในระยะปรับเปลี่ยนอีกกว่า 30,000 ไร่ ซึ่งเราตั้งใจจะขยายพื้นที่เกษตรอินทรีย์ให้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป้าหมายในปี 62 เราตั้งใจจะให้ได้ไม่ต่ำกว่า 100,000 ไร่ หรือมากกว่านั้น ทั้งนี้ เราได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯที่อยู่ในจังหวัดทุกภาคส่วน รวมถึงกลุ่มเกษตรกรที่ทำอินทรีย์อยู่ก่อนแล้วมาช่วยกันเป็นพี่เลี้ยงคอยแนะนำชักชวนและส่งเสริมให้เกษตรกรรายใหม่ๆหันมาทำเกษตรอินทรีย์มากขึ้น โดยเฉพาะอาชีพเกษตรสาขาอื่นๆ ไม่เฉพาะกลุ่มปลูกข้าว
อินทรีย์ เรามีพืชผัก ผลไม้ การประมง และปศุสัตว์ ตอนนี้ก็มงีกลุ่มเกษตรกรที่เป็นคนกล้าคืนถิ่นมาช่วยขับเคลื่อนงานเกษตรอินทรีย์ร่วมกัน ผลผลิตเกษตรอินทรีย์ของจังหวัดยโสธร เป็นที่นิยมของตลาดเป็นอย่างมาก แต่กำลังการผลิตขอเรายังไม่เพียงพอ โดยเฉพาะแต่โมอินทรีย์ที่เป็นพืชหลังนาใช้น้ำน้อย ซึ่งเป็นผลผลิตของเกษตรอินทรีย์ ที่มีความต้องการทางการตลาดสูงมาก ปีนี้เราตั้งใจจะขยายพื้นที่การปลูกเพิ่มมากขึ้นและพัฒนารูปลักษณ์ของแตงโมอินทรีย์ ให้มีหลากหลาย ให้เป็นรูปทรงต่างๆ เพื่อป้อนตลาดที่มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนเรื่องการตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ของยโสธร เรามีการออกงานจำหน่ายในงานแฟร์ต่างๆ มีการทำตลาดออนไลน์นอกจากนี้เราก็จะมีการจัดงานของเราเอง ซึ่งก็ได้ร้บการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี” พ่อเมืองยโสธร กล่าว
ผู้ว่าฯ บุญธรรม กล่าวอีกว่า ปัจจุบันผลผลิตเกษตรอินทรีย์ของจังหวัดยโสธร กว่า 90เปอร์เซ็นต์ถูกส่งไปยังตลาดต่างประเทศโดยผ่านผู้ประกอบการสินค้าเกษตรอินทรีย์หลายราย ทั้งนี้ ทางจังหวัดจะพยายามผลักดันและต่อยอดสินค้าเกษตรอินทรีย์ของเกษตรกรในจังหวัด ให้มีการพัฒนาต่อยอดไปสู่การแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและมีคุณภาพ พร้อมกับการส่งเสริมด้านการตลาดควบคู่กันไป เช่น การจัดงาน Yasothon Oganic Fair 2016 หรืองานเกษตรอินทรีย์ยโสธร 2559 เป็นความตั้งใจที่จะแสดงศักยภาพและความก้าวหน้าในการมุ่งมั่นขับเคลื่อนเกษตรอินทรียข์องจังหวัดยโสธรอย่างจริงจัง
ตามแผนยุทธศาสตร์เกษตรอินทรีย์ วิถียโสธร 2559-2562 โดยการนำเสนอผลการขับเคลื่อนงานเกษตรอินทรีย์ของจังหวัดยโสธรในทุกๆด้านและรวบรวมผลผลิต ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์ภายในจังหวัดให้ผู้ประกอบการเกี่ยวกับสินค้าเกษตรอินทรีย์ ได้มีโอกาสเลือกเจรจาธุรกิจ เพื่อขยายโอกาสทางการตลาดผลผลิตจากเกษตรอินทรีย์ของจังหวัดต่อไป
การจัดงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการรับรู้ความเข้าใจให้เกษตรกรได้เกิดความตระหนักและปรับเปลี่ยนการทำ การเกษตรอินทรีย์และขยายพื้นที่มากขึ้น อีกทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รับรู้โดยทั่วกัน ภายใต้แนวคิด “นึกถึง Oganic นึกถึงยโสธร” ในงานมีสินค้าเกษตรอินทรีย์มาจำหน่ายมากมาย ทั้งพืชผัก ข้าวอินทรีย์ ผลไม้ และสินค้าเกษตรอินทรีย์แปรรูปอีกมากมายกว่า 100 รายการ งานนี้เกษตรกรชาวยโสธร ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและผลผลิตที่มีคุณภาพต่อสายตาผู้บริโภค ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และเป็นการเตรียมความพร้อมที่จะขยายพื้นที่เกษตรอินทรีย์เพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นอาชีพที่ยั่งยืนตลอดไป.