สยามคูโบต้า เดินหน้าโครงการชุมชนพลังเกษตรสร้างสุข ร่วมกับ จังหวัดอุดรธานี และวิสาหกิจชุมชนทำนาห้วยตาดข่า ตำบลหนองอ้อ อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี เปิด “ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า-ห้วยตาดข่า” ต้นแบบวิสาหกิจชุมชนกลุ่มที่มีความเข้มแข็ง ชูจุดแข็งของการทำเกษตรกรรมด้วยพืชที่หลากหลาย นำระบบ KUBOTA (Agri) Solutions เข้ามาพัฒนาในด้านองค์ความรู้ในการทำเกษตรกรรมสมัยใหม่ และเทคโนโลยี เพื่อช่วยให้เกษตรกรลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และสร้างรายได้เพิ่มอย่างยั่งยืน
นายโอภาศ ธันวารชร กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า “หนึ่งในนโยบายความรับผิดชอบต่อสังคม ที่บริษัทฯให้ความสำคัญมาโดยตลอด คือ การพัฒนาชุมชนและสังคม จึงได้จัดทำ “โครงการชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า” ขึ้น ตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรที่มีการรวมกลุ่มกันอย่างเข้มแข็ง และสร้างรายได้เสริมให้กับชุมชนเพิ่มมากขึ้น ภายใต้แนวทางการพัฒนาด้านการเกษตรที่ยั่งยืนตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ จนถึงปลายน้ำ อีกทั้งสนับสนุนชุมชนให้เลือกใช้เครื่องจักรกลการเกษตรที่เหมาะสมเพื่อลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตลอดจนสนับสนุนให้ชุมชนสร้างมูลค่าเพิ่มจากผลผลิตดั้งเดิม และพัฒนาศักยภาพของเกษตรกรให้มีการบริหารจัดการที่ดี ทั้งด้านการเกษตร การทำบัญชีควบคุมต้นทุน รายได้ของชุมชนและครัวเรือนให้มีประสิทธิภาพอย่างสูงสุด รวมทั้งการศึกษาดูงานการทำการเกษตรและงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ โดยเมื่อปี 2556 บริษัทฯได้เปิดศูนย์เรียนรู้ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า-ผักไหม ที่ อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ เป็นแห่งแรก และต่อมาในปี 2557 ได้เปิดศูนย์ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า-เกษตรทิพย์ ต.ดู่ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ เป็นแห่งที่ 2 ซึ่งเกิดผลความสำเร็จ จึงทำให้บริษัทฯเดินหน้าเปิดศูนย์เรียนรู้ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า-ห้วยตาดข่า จังหวัดอุดรธานี ขึ้นเป็นแห่งที่ 3
ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า-ห้วยตาดข่า เกิดจากแนวคิดในการพัฒนาชุมชนของตนเองให้มีความเข้มแข็ง ด้วยการทำเกษตรแบบประณีต ให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพเพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างรายได้เพิ่มให้แก่ชุมชน ตลอดจนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการทำเกษตรกรรมด้วยการปลูกพืชที่หลากหลาย (Multiple Crop) จนเกิดความเชื่อมโยงกัน ทั้งการปลูกพืช ประกอบด้วย ข้าว มันสำปะหลัง อ้อย และพืชบำรุงดิน การเลี้ยงสัตว์ เช่น โคนม โคเนื้อ และการแปรรูปผลผลิต เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ชุมชนและเกษตรกร โดยนำระบบ KUBOTA (Agri) Solutions “ทุกคำตอบเรื่องการเกษตร” ที่ถูกคิดค้นโดยสยามคูโบต้าขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อเป็นตัวช่วยในการยกระดับและพัฒนาประสิทธิภาพเกษตรกรรมของไทย ด้วยนวัตกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรและการเพาะปลูกที่มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งมีความแม่นยำสม่ำเสมอ ตั้งแต่การปรับเปลี่ยนจากการเพาะปลูกพืชเชิงเดี่ยวเป็นการปลูกพืชผสมผสาน การเตรียมดิน การปลูก การดูแลรักษา การเก็บเกี่ยวผลผลิต การจัดการหลังการเก็บเกี่ยวและการขนส่งผลผลิต ซึ่งในภาพรวมแล้วสามารถช่วยให้เกษตรกรมีผลผลิตที่สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ มีรายได้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นอย่างยั่งยืน”
นายสีลา ภูจำเริญ ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มห้วยตาดข่า กล่าวว่า “กลุ่มห้วยตาดข่า เป็นชุมชนที่มีความเข้มแข็ง ด้วยอุดมการณ์และการบริหารจัดการที่เป็นระบบ และจากการที่บริษัทสยามคูโบต้า เข้ามาส่งเสริมสนับสนุนองค์ความรู้ด้านการเกษตรในเรื่องต่างๆ การบริหารจัดการด้านเครื่องจักรกลการเกษตร การแปรรูปผลผลิตเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม อีกทั้งยังช่วยประสานงานกับองค์กรภาครัฐและเอกชน ทำให้ชุมชนมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว อีกทั้งการนำความรู้และวิธีเพาะปลูก โดยใช้ระบบ KUBOTA (Agri) Solutions คือ การเลือกใช้เครื่องจักรกลการเกษตรและวิธีการปลูกที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ ทำให้เกษตรกรได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น อาทิ ข้าว ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 733 กก.ต่อไร่ เปรียบเทียบกับการปลูกด้วยวิธีการดั้งเดิมแบบหว่าน ที่ได้ผลผลิต 556 กก.ต่อไร่ และแบบดำมือ ได้ผลผลิต 694 กก.ต่อไร่ ส่วนมันสำปะหลัง ได้ผลผลิตเพิ่มมากขึ้นจากเดิม 1 ตันต่อไร่ และ อ้อย มีผลผลิตเพิ่มขึ้นจากเดิม 4 ตันต่อไร่ นอกจากนี้ยังส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
ส่วนเป้าหมายของการทำงานร่วมกันในอนาคต คือ ต้องการพัฒนาสมาชิกในระดับบริหารและสมาชิกทั่วไป ในชุมชน รวมทั้งพัฒนาเทคนิคการแปรรูปผลผลิตการเกษตรในชุมชนให้ได้ตามมาตรฐานและความต้องการของตลาด มียอดขายที่เพิ่มมูลค่าให้กับคนในชุมชนได้ต่อไป อีกทั้งสร้างให้วิสาหกิจชุมชนกลุ่มห้วยตาดข่า มีความเข็มแข็ง พึ่งพาตัวเองได้ เพื่อเป็นชุมชนต้นแบบทางการเกษตรให้แก่เกษตรกรในภาคอีสานตอนบน”
ศูนย์เรียนรู้ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า-ห้วยตาดข่า จังหวัดอุดรธานี นับเป็นกลุ่มเกษตรสมัยใหม่ ที่ดำเนินแนวทางการพัฒนาที่มีความสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐ ภายใต้โครงการ “แปลงใหญ่ประชารัฐ เกษตรสมัยใหม่” โดยเน้นการพัฒนาแบบบูรณาการร่วมกันระหว่างสยามคูโบต้า กลุ่มเกษตรกรและหน่วยงานภาครัฐ ในการพัฒนากิจกรรมด้านการเกษตรภายในกลุ่มฯ โดยมีจุดแข็งที่การดำเนิน “กิจกรรมทางการเกษตรที่มีความหลากหลาย” ที่เชื่อมโยงกัน ทั้งการปลูกพืช การเลี้ยงสัตว์ และการแปรรูปผลผลิต เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับชุมชน เพื่อเป็นต้นแบบหลักที่สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและประสิทธิภาพของการร่วมแรงร่วมใจอย่างแข็งขัน จริงจังและต่อเนื่องของเกษตรกร อันจะเป็นพลังที่เข้มแข็งในการขับเคลื่อนภาคเกษตรกรรมที่เป็นภาคการผลิตที่สำคัญของประเทศอย่างแท้จริง