นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงาน “มหกรรมเกษตรปลอดภัย นำไทย สู่ความยั่งยืน” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-9 เมษายน 2560 ณ รอยัลพารากอน ฮอลล์ 3 ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยมีนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ นางสาวดุจเดือน ศศะนาวิน เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ณ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ถนนราชดำเนิน กรุงเทพฯ
นางสาวชุติมา กล่าวว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้กำหนดนโยบายให้ปี 2560 เป็นปีแห่งการยกระดับมาตรฐานการเกษตรสู่ความยั่งยืน โดยมุ่งขับเคลื่อนงานเพื่อยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารของไทยทั้งระบบตั้งแต่ฟาร์มจนถึงผู้บริโภค และมุ่งหวังให้สินค้าเกษตรของไทยมีความปลอดภัยทั้งต่อผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นการยกระดับสินค้าเกษตรและอาหารของไทยให้เกิดความเชื่อมั่นและยอมรับในตลาดโลก จึงได้มอบหมายให้สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เป็นหน่วยงานหลักในการจัดงานดังกล่าว เพื่อตอกย้ำความสำคัญของการผลิตสินค้าได้คุณภาพมาตรฐาน และโชว์ศักยภาพมาตรฐานสินค้าเกษตรไทยให้เป็นที่รู้จักและยอมรับทั้งในและต่างประเทศอย่างกว้างขวางมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้เกษตรกรและประชาสัมพันธ์เรื่องมาตรฐานสินค้าเกษตรให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น
“ปัจจุบันมีเกษตรกรได้รับรองมาตรฐานจีเอพี (GAP) กว่า 247,000 ราย ในจำนวนดังกล่าวเป็น GAP พืชผักและผลไม้ กว่า 182,000 ราย GAP ข้าว กว่า 47,000 ราย GAP ปศุสัตว์ กว่า 15,000 ราย และ GAP ประมงกว่า 3,000 ราย ส่วนเกษตรอินทรีย์มีพื้นที่ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ประมาณ 284,000 ไร่ เกษตรกรกว่า 5,000 ราย ปริมาณการผลิตเกษตรอินทรีย์ ประมาณ 50,000 ตัน ส่วนใหญ่เป็นข้าวอินทรีย์ คิดเป็น 60 % ที่เหลือเป็นพืชอื่น ๆ สมุนไพร สินค้าประมง และปศุสัตว์อินทรีย์ มีมูลค่ารวมไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท สำหรับสินค้าอินทรีย์ที่มีศักยภาพการผลิตและส่งออกสูง ได้แก่ ข้าวอินทรีย์และผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิอินทรีย์ ผักและผลไม้อินทรีย์ อาทิ กล้วยหอม สับปะรด เงาะ มะม่วง มังคุด ทุเรียน ผักสลัด แครอท กระเจี๊ยบเขียว ชา และกาแฟอินทรีย์ โดยมีตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ สหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา สำหรับตลาดส่งออกที่มีศักยภาพและมีแนวโน้มดีในอนาคต ได้แก่ ญี่ปุ่น จีน และกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน” นางสาวชุติมา กล่าว
ด้าน นางสาวดุจเดือน ศศะนาวิน เลขาธิการ มกอช. กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมภายในงาน ได้แก่ การยกทัพสินค้าที่ได้คุณภาพมาตรฐานทั้งของเกษตรกรและผู้ประกอบการมาแสดงและจำหน่ายในราคาพิเศษกว่า 100 บูธ จากเกษตรกรที่ผ่านการคัดสรรมาแล้วว่าเป็นผู้ผลิตสินค้าเกษตรทั้งพืชผัก ผลไม้ ประมงและปศุสัตว์ที่ได้มาตรฐาน GAP และมาตรฐานอินทรีย์ (Organic) รวมทั้งผลิตภัณฑ์แปรรูปหลากหลาย ซึ่งมีความปลอดภัยแก่ผู้บริโภค พร้อมจัดแสดงนวัตกรรมทางการเกษตรและความก้าวหน้าการจัดการตลาดแนวใหม่ด้วยไอทีหรือตลาดเกษตรดิจิตอล นอกจากนี้ยังมีการแสดงนิทรรศการเส้นทางสินค้าเกษตรคุณภาพปลอดภัย ได้มาตรฐานเพื่อสร้างความเข้าใจและให้ความรู้ที่ถูกต้องกับผู้บริโภคในเรื่องมาตรฐาน และการเลือกซื้อสินค้าคุณภาพมาตรฐาน รวมทั้งการเสวนาให้ความรู้ เรื่อง สถานการณ์และแนวโน้ม มาตรฐานโลก ที่ไทย ต้องเผชิญหน้า โดยวิทยากรในวงการสินค้าเกษตรและอาหารที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ยาวนาน
เลขาธิการ มกอช. กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีการสาธิตทำเมนูสุขภาพจากวัตถุดิบอาหารปลอดภัย การเสวนาให้ความรู้เรื่องสุขภาพ โดยเชฟและดาราที่มีชื่อเสียงมากมาย การบริการตรวจสารพิษในเลือดพร้อมให้คำแนะนำ การสาธิตใช้ QR Trace และ E-market ซื้อขายสินค้าเกษตรบนโลกออนไลน์ เป็นต้น ซึ่งเชื่อมั่นว่าการจัดงานครั้งนี้จะทำให้เกษตรกร ผู้ประกอบการภาคเกษตรอื่น ๆ เกิดแรงบันดาลใจปรับปรุงการผลิตเข้าสู่มาตรฐาน สร้างโอกาสทางการตลาดให้กับตนเองและสินค้าเกษตรในอนาคต