นางสาวชุติมา บุณยประภัศร (บุน-ยะ-ประ-พัด-สอน) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจรและแผนปฏิบัติงานเกษตรอินทรีย์ พร้อมพบปะเกษตรกรในพื้นที่แปลงใหญ่ จ.นครราชสีมา ว่า ได้ประชุมติดตามการดำเนินงานในเรื่องข้าวครบวงจร นาแปลงใหญ่ และเกษตรอินทรีย์ ร่วมกับหน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อรับทราบรายงานการปฏิบัติการผลิตข้าวครบวงจรและนาแปลงใหญ่ในพื้นที่ รวมถึงแผนการดำเนินงาน ซึ่งการดำเนินการนาแปลงใหญ่จะทำให้เกษตรกรมีการรวมกลุ่มกันอย่างเข้มแข็งและผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต สามารถลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตได้ โดยกำหนดเกณฑ์การเข้าร่วมการรวมกลุ่มเกษตรกรอย่างน้อย 30 ราย มีพื้นที่รวมกันตั้งแต่ 300 ไร่ขึ้นไป มีการแบ่งหน้าที่ในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย ศัตรูพืช (อารักขาพืช) และด้านเครื่องจักรกลการเกษตร
นางสาวชุติมา กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลจะมีหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาให้ความรู้และช่วยเหลือทั้งในเรื่องปัจจัยการผลิตที่จำเป็น รวมทั้งในเรื่องของแหล่งน้ำ และหากเกษตรมีปัญหาอุปสรรคในการทำนาแปลงใหญ่ ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าดำเนินการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ รวมทั้งมีการติดตามผลการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการผลิตข้าวคุณภาพดี โดยสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ ความรู้และสนับสนุนให้ใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตร เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต อีกทั้งยังส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าโดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ มีนโยบายให้ใช้ตลาดนำการผลิต โดยบูรณาการหน่วยงานภาครัฐและเอกชนให้มีการเชื่อมโยงการตลาด มีการจัดประชุมพบปะระหว่างกลุ่มผู้ผลิตและผู้ประกอบการ ได้แก่ เกษตรตำบล/อำเภอ/จังหวัด สหกรณ์การเกษตร พาณิชย์จังหวัด ธ.ก.ส. โรงสี โรงงานแปรรูป และผู้ส่งออกข้าว ให้มีการผลิตตรงตามความต้องการของตลาด (Demand-driven) และรับซื้อผลผลิตข้าวคุณภาพดีจากนาแปลงใหญ่ในราคาที่สูงกว่าราคาตลาด
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีประกาศ เรื่อง การกำหนดพื้นที่เป้าหมายส่งเสริมการปลูกข้าว ปี 2560/61 รอบที่ 1 ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ได้เห็นชอบแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร ปี 2560/61 โดยมีพื้นที่เป้าหมายส่งเสริมการปลูกข้าวของ จ.นครราชสีมา มีเป้าหมายรวม 3,651,020 ไร่ แบ่งเป็น ข้าวหอมมะลิ พื้นที่ 2,891,460 ไร่ ข้าวหอมปทุม พื้นที่ 2,698 ไร่ ข้าวเจ้า 638,062 ไร่ ข้าวเหนียว พื้นที่ 117,149 ไร่ และข้าวสี พื้นที่ 1,651 ไร่
ด้านนายสุวัฒน์ เจียระคงมั่น รองอธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประกาศพื้นที่ส่งเสริมการปลูกข้าว ปี 2560/61 รอบที่ 1 นั้น กรมการข้าวได้ดำเนิน 2 โครงการหลัก มีระยะดำเนินการต่อเนื่อง 5 ปี ตั้งแต่ปี 2560 -2564 คือ โครงการส่งเสริมระบบการเกษตรแบบแปลงใหญ่ หรือนาแปลงใหญ่ พื้นที่เป้าหมาย 19.38 ล้านไร่ ชาวนาจำนวน 1,504,000 ราย ซึ่งได้ปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์ใหม่ให้ชาวนารวมกลุ่มกันไม่น้อยกว่า 30 คน มีพื้นที่ติดกันหรืออยู่ภายในชุมชนใกล้เคียงจำนวนไม่น้อยกว่า 300 ไร่ เพื่อเปิดโอกาสให้ชาวนาที่มีความสนใจได้เข้าร่วมโครงการมากขึ้น และโครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ พื้นที่เป้าหมาย 1 ล้านไร่ ชาวนาจำนวน 66,670 ราย สอดคล้องกับการกำหนดให้ปี 2560 เป็นปีแห่งการยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตร
“ภายในระยะเวลา 5 ปีที่ดำเนินโครงการทั้ง 2 โครงการสิ้นสุดลงในปี 2564 นอกจากชาวนาจำนวน 1,570,670 รายที่เข้าร่วมโครงการในพื้นที่รวม 20.38 ล้านไร่ จะได้รับประโยชน์ในการสร้างความเข้มแข็ง มั่นคงในอาชีพอย่างยั่งยืนแล้ว จะยังเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับชาวนาที่อยู่ใกล้เคียงได้มาศึกษาดูงาน และมุ่งมั่นพัฒนาอาชีพการทำนาต่อไป” รองอธิบดีกรมการข้าวกล่าว.