เรื่อง/ภาพ : จตุพล ยอดวงศ์พะเนา
ฤดูกาลผลไม้ภาคตะวันออกมาถึงแล้ว…เมื่อย่างเข้าเดือนพฤษภาคมไปจนถึงกรกฎาคมของทุกปี จ.ระยอง จ.จันทบุรี และ จ.ตราด จะคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เพราะเป็นช่วงที่ผลไม้หลากหลายชนิดทยอยจากสวนออกสู่ตลาด ไม่ว่าจะเป็นทุเรียน “ราชาแห่งผลไม้” หรือ “ราชินีแห่งผลไม้” อย่างมังคุด ก็มาอวดโฉมให้ได้ลิ้มลอง อีกทั้งยังมีเงาะ ลองกอง ลางสาด สละ ระกำ สับปะรด แก้วมังกร องุ่น ลำไย และอีกมากมาย ตลอดจนผลิตภัณฑ์แปรรูปผลไม้อีกหลากหลายรูปแบบ ให้ท่านได้เลือกซื้อเลือกชิมกันอย่างจุใจ
ผู้เขียนได้มีโอกาสเดินทางไปกับ “คณะผู้สื่อข่าวเกษตร” ของสมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย ไปเยี่ยมชมสวนต่างๆ หนึ่งในนั้นท่าจะพลาดไม่ได้ก็คือ สวนทุเรียน ลุงเสส ใจดี อายุ 76 ปี ที่ อ.นายายอาม จ.จันทบุรี บนพื้นที่ 13 ไร่ แต่ทุเรียนสวนนี้มีผลผลิตประมาณ 12,000 ลูก ลูกละ 3-4 กิโลกรัม ลุงเสส ขายส่งล้งจีนกิโลกรัมละ 70 บาท คูณเอาเอง ปีนี้แค่สวนนี้สวนเดียวลุงเสส มีรายได้เกือบ 10 ล้านบาท…
“เดิมที่เป็นชาว ต.ทุ่งควายกิน อ.แกลง จ.ระยอง แต่งงานมีลูก 3 คน ลูกชาย 1 คน ลูกสาว 2 คน มาซื้อสวนนี้ในราคาล้านกว่าบาท เขาปลูกทุเรียนไว้ให้เรียบร้อย ปีนั้นทุเรียนราคาดี ลุงขายทุเรียนปีเดียวก็ได้ทุนค่าที่ดินคืนแล้ว นับว่าโชคดีมากๆ” ลุงเสส เปิดฉากพูดคุยกับเราด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
ลุงเสส เล่าว่า เริ่มทำสวนแค่ 2 ไร่ เป็นที่มรดก ทุกวันนี้ปลูกทุเรียนไว้หลายสวน สวนละ 10 ไร่บ้าง 20 ไร่บ้าง รวมแล้วทั้งหมดมีทุเรียนกว่า 68 ไร่ ให้ผลผลิตปีละกว่า 120 ตัน ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์หมอนทอง ล้งจีนมาเหมาถึงสวนกิโลกรัมละ 70 บาท เจ้าของรอรับเงินอย่างเดียว “เงินค่าทุเรียนจ่ายครบถ้วน ล้อรถบรรทุกขนทุเรียนถึงจะหมุนได้” ลุงไม่เคยรับเช็คหรือเงินเชื่อ ขายได้เงินสดๆ อย่างเดียว ปัจจุบันล้งจีนมาแย่งกันซื้อถึงสวน…ว่างั้น!
ครั้งแรกมาซื้อสวนแห่งนี้ไม่เคยรู้จักใครเลย แต่ด้วยจิตใจดีสมชื่อ เก็บผลผลิตอะไรได้ก็แบ่งปันให้ชาวบ้านข้างเคียง ไม่ว่าจะเป็นทุเรียน ฟักทอง มะม่วง มังคุด จนเป็นที่รักใคร่ของชาวบ้าน สวนลุงไม่เคยมีรั้วรอบขอบชิด สามารถเข้ามาได้ทุกด้าน แต่ไม่เคยมีขโมยเข้ามาวุ่นวาย มีชาวบ้านเป็นหูเป็นตา ส่งข่าวให้ลุงเสส ทราบตลอด…มีเพื่อนบ้านเป็นรั้วนั่นเอง
“วันหนึ่ง ลุงเสสกับลูกชายเข้ามาในสวนตอนมืดๆ โดยไม่ได้บอกใคร ชาวบ้านแถวนี้เขาก็ตกใจ นึกว่ามีขโมยเข้าสวนลุงเสส ต่างโทรศัพท์แจ้งถึงกัน แล้วพากันยกโขยงเข้ามาที่สวน ตะโกนถามว่าใครๆ เข้ามาในสวนลุงเสส ลุงต้องออกไปแสดงตัว ชาวบ้านเขาถึงกลับกัน นับว่าลุงโชคดีจริงๆ ที่มีชาวบ้านดูแลสวนทุเรียนให้ เปรียบเสมือนรั้วบ้านอย่างดีทีเดียว” ลุงเสส เล่าด้วยความภาคภูมิใจ
ลุงเสส ซื้อไร่นี้มาประมาณ 2-3 ปี ก็ตัดทุเรียนพันธุ์ที่เจ้าของเดิมปลูกไว้ทิ้งหมด แล้วสุมป่าเอาไว้ 1 ปี เพื่อต้องการปุ๋ย หลายคนมาเห็นว่าลุงเสสเจ๊งแล้ว ทุเรียนพาเจ๊ง ต้องโค่นทิ้งทั้งหมด จริงๆ แล้วไม่ใช่ ลุงโค่นทิ้งเพื่อปลูกพันธุ์ทุเรียนหมอนทองทั้งหมด เต็มพื้นที่ 13 ไร่ ปลูกมาแล้ว 8 ปี ทุเรียนให้ผลผลิตดีทุกปี โดยเฉพาะปีนี้ให้ผลผลิตดกมาก ดกอย่างไม่น่าเชื่อ รวมทั้งสวน 13 ไร่ ได้ถึง 12,000 ลูก
สาเหตุที่ได้ผลผลิตมากแบบนี้ เพราะลุงเสสมีเทคนิคในการดูแลสวนทุเรียน เอาใจใส่เหมือนดูแลลูก ๆ แถมใช้แต่ปุ๋ยอินทรีย์ที่หมักขึ้นมาเองได้ผลอย่างน่าพอใจ
ไม่ต้องไปหาซื้อปุ๋ยเคมีที่ไหนให้เสียเงินเสียทอง เพียงแค่ใช้ผักบุ้งสดๆ 3 กิโลกรัมที่เก็บช่วงเช้า กับกล้วยน้ำว้าสุกปอกเปลือก 3 กิโลกรัม น้ำอ้อย 2 กิโลกรัม หมักไว้ 16 วัน เก็บไว้ในที่ร่ม ห้ามเปิดฝาเด็ดขาด จนกว่าจะครบ 16 วัน
จากนั้นเปิดฝาเติมน้ำ 20 ลิตร หมักไว้อีก 15 วัน นำน้ำที่ได้ 10 ลิตร ผสมกับน้ำ 200 ลิตร ใส่น้ำอ้อย 10 กิโลกรัม หมักอีก 6 เดือน จะได้ปุ๋ยชีวภาพเข้มข้น นำน้ำปุ๋ยอายุ 6 เดือน 1 ลิตร เทใส่บัวรดน้ำ เติมน้ำให้เต็ม เสร็จแล้วนำไปรดขณะที่ให้น้ำทุเรียน…
หลักการของลุงเสส คือ ให้ปุ๋ยแล้วรดน้ำตามนั่นเอง ระยะเวลาที่ให้นั้น ลุงเสส บอกว่า ตอนผลทุเรียนโตเท่าไข่ไก่ เหมาะสมที่สุด ปุ๋ยชีวภาพให้ปีละครั้งเท่านั้น หากต้องการฉีดพ่นทางใบ ใช้น้ำปุ๋ยอายุ 6 เดือน ผสมน้ำ 200 ลิตร ฉีดพ่นให้ในวันที่ไม่มีแดด
ลุงเสส บอกว่า “การให้ปุ๋ยชีวภาพควรให้แต่เช้าก่อนแดดออก จะได้ผลดีมาก” ใครจะนำวิธีนี้ไปใช้บ้างก็ย่อมได้
นับว่า ลุงเสส ประสบความสำเร็จในการปลูกทุเรียน เป็นปรมาจารย์ด้านทุเรียนที่ถ่ายทอดการปลูกทุเรียนและการดูแลสวนให้แก่เพื่อนๆ เกษตรกร ทุกวันนี้ที่สวนลุงเสส มีชาวบ้านทั้งใกล้และไกลเดินทางมาเยี่ยมเยือนไม่ขาดสาย ลุงก็พูดคุยและพาชมสวนด้วยความภูมิใจ ผลผลิตของลุงปีนี้รวมทุกสวนขายได้เงินหลายสิบล้าน แต่ลุงเสสก็ยังถ่อมตัว อยู่อย่างสมถะ สนใจติดต่อพูดคุยกับลุงเสสได้ โทร. (086) 144-9103…ครับผม
หมายเหตุ : ในวันที่ 3-4 มิ.ย.นี้ สมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย จัดทัวร์เกษตรช้อป ชิม ผลไม้ภาคตะวันออก 1 คืน 2 วัน ราคาท่านละ 3,800 บาท สนใจสั่งจอง โอนเงินเข้าบัญชี ธนาคารกรุงเทพ 043 7123524 ชื่อบัญชี สมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย ส่งหลักฐานการโอนเงินพร้อมบัตรประชาชนเพื่อทำประกันภัย โทร. 02-9405425-6 หรือ 086-3401713(ตา) idline:manitra หรือ 089-7835887(หนึ่ง) idline:nung0897835887 รับจำนวน 40 คนเท่านั้น…รีบตัดสินใจก่อนเต็มครับ (อ่านข่าวนี้เพิ่มเติมได้ที่ https://goo.gl/XnSaAC)