เรื่องการต้มข้าวโพดขาย เป็นความสนใจของผู้เขียนมาเนิ่นนาน เพราะมองว่าเป็นอาชีพที่ไม่ยุ่งยากและชอบรับประทาน เจอที่ไหนก็มักจะอุดหนุน พูดคุยกับพ่อค้าแม่ขายอยู่ตลอด อยู่มาวันหนึ่งได้ไปเจอข้าวโพดเจ้าหนึ่งที่มาต้มขายในงานวันเส้นทางเศรษฐีเทคโนโลยีชาวบ้านที่ห้างเดอะมอลล์ บางกะปิ จัดแจงถ่ายรูปอย่างดีว่าจะมาลงให้ผู้อ่านรับทราบทั่วกัน แต่ไปๆมาๆก็ไม่ได้ลง…
จนเมื่อวันก่อน (18 พ.ค.60) ได้รับเชิญจาก บริษัท แปซิฟิคเมล็ดพันธุ์ จำกัด ผู้จำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดชื่อดัง บอกว่าจะพาไปดูแม่ค้าต้มข้าวโพดขายและพาไปดูแปลงปลูกข้าวโพดที่จังหวัดชลบุรีก็ตอบรับทันที
ไปถึงที่บ้านแม่ค้าขายข้าวโพดก็เห็นผู้คนกว่า 10คน กำลังนั่งปอกข้าวโพดขมวดเปลือกทำเป็นจุกเป็นคู่ๆเรียงไว้ในเข่ง ทราบว่าเจ้าของบ้านผู้เป็นแม่ค้าขายข้าวโพดชื่อคุณชดาภา วรอมราคุณ หรือ “คุณโบว์” และคุณสมชาย วรนาม ผู้เป็นสามีที่ช่วยกันทำมาหากิน “ดูหน้าตาละม้ายคล้ายกับแม่ค้าที่ไปต้มขายที่ห้างเดอะมอลล์เมื่อปลายปี” คิดอยู่ในใจสักครู่ก็ถามไปว่าใช่หรือไม่ ปรากฏว่าใช่จริงๆ การพูดคุยจึงได้รสชาติขึ้นมาทันที
คุณโบว์ เล่าว่าประกอบอาชีพค้าขายข้าวโพดมานานประมาณ 10ปีแล้ว หลักๆคือส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกข้าวโพดและเมื่อปลูกได้ผลผลิตก็รับซื้อ (รายละเอียดธุรกิจตรงนี้จะนำมาเล่าอีกตอนหนึ่ง)
ผลผลิตที่รับซื้อมานั้น วันหนึ่งๆประมาณ 3 ตัน (3,000 กิโลกรัม) หลักๆก็จะขายต่อให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่ซื้อข้าวโพดฟักสดเพื่อไปต้มขาย แต่อีกส่วนหนึ่งก็นำมาต้มขายเองที่หน้าห้างแปซิฟิคศรีราชาทุกวันพฤหัสและวันจันทร์ และตลาดอื่นๆอีก 2 ตลาด โดยวันที่ผมได้ไปดูนั้นก็คือที่หน้าห้าง โดยจะเริ่มต้มขายตั้งแต่บ่ายๆจนประมาณ 2-3 ทุ่มก็ขายหมด
ที่ร้านขายข้าวโพดต้มของคุณโบว์ ซึ่งได้เกณฑ์พ่อแม่พี่น้องมาช่วยกันทำมาหากินพบว่าร้านโดดเด่นพอสมควร ติดป้ายข้าวโพดของบริษัทแปซิฟิคและแขวนข้าวโพดโชว์ไว้ตรงราวเหล็กที่ทำเหมือนม่านหน้าร้าน มีหม้อต้มข้าวโพดขนาดใหญ่ 4 หม้อ วางเรียงกัน ซึ่งก็มีลูกค้ามาอุดหนุนกันไม่ขาดสาย
“ข้าวโพดต้มรับประทานได้ทุกเพศทุกวัยทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะคนญี่ปุ่นที่มาทำงานอยู่ย่านศรีราชา-ชลบุรีชอบมาก” คุณโบว์ บอกให้ฟัง
มีเคล็ดลับในการต้มข้าวโพดให้อร่อยอย่างไร? “ก็ไม่มีเคล็ดลับอะไรมาก ขอเพียงให้เป็นข้าวโพดที่สด เก็บได้ระยะเวลาที่ต้องการ(ต้องไม่แก่มาก) เรียกว่าเก็บใหม่ๆจากแปลงปลูกก็มาถึงหม้อต้ม และข้าวโพดที่มาต้มขายธรรมชาติของมันมีความเหนียวนุ่มอร่อยอยู่ในตัว แถมฟักสวยงามเป็นที่ต้องใจ และเวลาต้มจะมีกลิ่นหอมเชิญชวน ซึ่งจะมีอยู่ 3 ชนิด คือฟักเหลืองเรียกว่าข้าวโพดหวาน ฟักที่มีสามสี (เหลือง ม่วง ขาว)เรียกว่าข้าวเหนียวสามสี และสีขาวล้วนเรียกว่าข้าวโพดข้าวเหนียว”
การต้มข้าวโพด “วิธีการต้มนั้นเราจะต้องต้มในน้ำเดือด คือเอาน้ำใส่หม้อต้มจนเดือดไม่ต้องใส่เกลือและอะไรทั้งนั้น จากนั้นให้ใส่ข้าวโพดลงไปวางเรียงตามความยาวของฟักให้เต็มหม้อและน้ำในหม้อต้องท่วม ต้มไปนานประมาณ 10 นาทีก็สุกดี แต่ถ้าเป็นข้าวโพดข้าวเหนียวต้องใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพราะสุกยากกว่า”
ข้าวโพดที่ต้มขายจะต้องอุ่นให้ร้อนอยู่เสมอ “พอข้าวโพดสุกก็หยิบขึ้นมาวางในกระด้ง เพื่อให้สะเด็ดน้ำ ซึ่งจะต้องวางเหมือนอุ่นอยู่ด้านบนหม้อ(ตามภาพ) และในหม้อก็จะต้มชุดใหม่ไปเรื่อยๆ”
เวลาที่ลูกค้าสั่ง…จะถามว่าแช่น้ำเกลือหรือไม่ “บางคนไม่ชอบเค็มเราก็เลยแยกน้ำเกลือไว้ต่างหาก” ถ้าลูกค้าต้องการก็จะไปแช่น้ำเกลือแป๊บหนึ่ง ซึ่งในน้ำเกลือนั้นมีวิธีทำง่ายๆคือใช้น้ำต้มสุกใส่เกลือลงไปให้ละลายดี พร้อมกับใส่ใบเตยลงไปประมาณ 10ใบ (ตามภาพ)
ได้ถามคุณโบว์ว่าในการไม่ใส่เกลือลงไปเวลาต้มจะช่วยไม่ให้ข้าวโพดเหี่ยวหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่าอาจจะมีผลอยู่บ้าง และทราบอีกว่าเวลาต้มเสร็จแล้วที่มาวางในกระด้งบนหม้อต้มต้องพลิกกลับไปมาบ้าง ไม่งั้นถ้าวางไว้นานๆจะทำให้ข้าวโพดเหี่ยวได้ (ความเต่งตึงของเมล็ดข้าวโพดสำคัญมาก)
สงสัยว่าทำไมข้าวโพดที่นำมาต้มขายจะต้องขมวดเป็นจุก ไม่ปอกทั้งหมดแล้วต้มเหมือนร้านทั่วไป…ได้รับคำตอบว่านอกจากจะทำให้หยิบจับสะดวกแล้ว สิ่งสำคัญคือจะโชว์ให้ลูกค้าเห็นว่าใบยังสดเขียวสดอยู่ (เป็นข้าวโพดที่สดจริงๆ) ซึ่งถือว่าเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของร้านนี้
มาถึงคำถามที่ทุกคนอยากรู้…ถามคุณโบว์ว่า “ขายได้วันละกี่ฟัก” ก็ได้รับคำตอบถ้าคิดเป็นฟักก็วันละหลายร้อยฟัก แต่จะคิดเป็นกิโลกรัมคือวันละ 500-700 กิโลกรัม (ข้าวโพดหวานสีเหลืองเฉลี่ยประมาณ 2 ฟักต่อกิโลกรัม/ข้าวโพดข้าวเหนียวประมาณ 3 ฟักต่อกิโลกรัม)
สำหรับราคาขายข้าวโพดต้มจะขายคู่ละ 20,25,30 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของฟัก รวมแล้ววันหนึ่งๆจะขายได้เฉลี่ย 15,000 บาท (ต้นทุนข้าวโพดจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 8-10 บาท (1 กิโลกรัม มี 2-3 ฟัก ก็ลองคำนวณดู) และเมื่อหักค่าแรง ค่าสถานที่แล้วก็ถือว่ายังมีกำไรที่ดีทีเดียว)
“สิ่งที่ได้ไม่ใช่กำไรจากขายข้าวโพดต้มเพียงอย่างเดียว แต่ที่เราภูมิใจก็คือว่าช่วยสร้างอาชีพให้กับญาติพี่น้องตลอดจนเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะเกษตรกรร่วม 100 ครอบครัว ที่เราเข้าไปส่งเสริมให้ปลูกและรับซื้อผลผลิต ทุกคนดีใจมากค่ะ”
หากว่าใครจะมาขายข้าวโพดต้ม คุณโบว์บอกว่าเป็นอาชีพที่ทำไม่ยาก ลงทุนไม่สูง หลักๆมีแค่หม้อต้ม เตาแก๊ส ฯลฯ แต่จะต้องมีทำเลที่เหมาะสม มีคนเยอะพอสมควร และไม่ต้องใช้ถึง 4 หม้อต้มแบบตนเอง แค่หม้อเดียวก็ได้แล้ว หรือจะใช้กะละมังต้มก็ได้ (หม้อต้มของคุณโบว์ เป็นสแตนเลสอย่างดี ราคาสั่งทำใบละ 4,000 บาท)
ก่อนจบได้รับฟังความคิดเห็นจากคุณพาโชค พงษ์พานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท แปซิฟิคเมล็ดพันธุ์ จำกัด ซึ่งได้นำทีมผู้สื่อข่าวมาถึงร้านขายข้าวโพดต้ม บอกว่า “รู้สึกดีใจที่คุณโบว์สามารถสร้างรายได้จากอาชีพรับซื้อข้าวโพดและมาเพิ่มมูลค่าด้วยการนำมาต้มขายเป็นการช่วยให้เกษตรกรผู้ปลูกมีตลาดในท้องถิ่นและในฐานะที่บริษัทเกี่ยวข้องอยู่ในห่วงโซ่อุปทานก็จะทำหน้าที่ให้การส่งเสริมอาชีพที่ดีต่อไป”
ใครที่อ่านแล้วอยากมีอาชีพแบบคุณโบว์คือรับซื้อข้าวโพดและต้มข้าวโพดขาย ลองพูดคุยขอคำแนะนำได้ที่โทร. 080 0998910 ครับ