เรื่อง/ภาพ : ต.โต้ง เกษตรก้าวไกล
กว่า 30 ปี ที่คร่ำวอดในแวดวงผู้เลี้ยงนกกระทา จากเลี้ยงใต้ถุนบ้าน จนถึงฟาร์มขนาดใหญ่ได้รับมาตรฐานสากล จนได้รับการยอมรับจากผู้ประกอบการร้านอาหารรายใหญ่ของไทย พร้อมกำลังการผลิตกว่า 17 ล้านฟองต่อเดือน ทำให้วันนี้ “เอนกฟาร์ม” ภายใต้การนำของ “เอนก สีเขียวสด” ก้าวเป็นเบอร์ 1
การประสบความสำเร็จที่เห็นนี้ ได้ทำให้เจ้าของฟาร์มนกกระทารายใหญ่แห่งเมืองอ่างทอง ต้องการคืนกำไรสู่สังคม ผ่านโครงการส่งเสริมเกษตรกรเลี้ยงนกกระทาอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “ทำได้แล้วให้คนอื่นทำได้”
“ฐานะชาติตระกูลเราด้อย ผมจบ ป.7 ไม่ได้มีความรู้ด้านนี้เลย จบมาไปเป็นช่างเคาะพ่นสี เห็นพ่อกับแม่เลี้ยงนกกระทาเลยช่วยขาย ล้มลุกคลุกคลานมาโดยตลอด แต่วันนี้เข้าสู่ 32 ปีแล้วที่ผมเดินบนเส้นทางสายนี้ จึงอยากนำความรู้ที่มีถ่ายทอดให้ผู้สนใจมาเรียนมาศึกษาเลี้ยงครอบครัวได้” คุณเอนก เกริ่นถึงที่มาของโครงการ
ส่วนรูปแบบโครงการนั้น คุณเอนก บอกว่า ผมมีคนเลี้ยงเดิมเกือบ 20 จังหวัดทั่วประเทศ ทั้งผู้เลี้ยงนกไข่ ผู้ฟักไข่ ผู้อนุบาลนก กระจายในหลายจังหวัด เพื่อกระจายความเสี่ยงหากเกิดภัยธรรมชาติ หรือโรคระบาด รายเก่าเราไม่ทิ้งแน่ หรือรายใหม่ที่เลี้ยงกับคนอื่นแล้วสนใจมาคุยกันได้
“ที่ผ่านมาการส่งเสริมเลี้ยงนกกระทามีมากหลายโครงการ แต่ว่าไม่ได้ให้ตลาดมาด้วย แต่สำหรับโครงการนี้ นอกจากจะให้ความรู้ หาตลาดให้แล้วยังสนับสนุนเงินทุนในการเลี้ยงโดยไม่คิดดอกเบี้ย” เจ้าของฟาร์มนกกระทา กล่าว
เงินสนับสนุนที่มี 3 ส่วน ส่วนแรก เป็นเงินจากมหาวิทยาลัยนานาชาติ ในรัฐฟอริด้า สหรัฐอเมริกา ที่ให้กับทางฟาร์ม เพื่อให้ส่งเสริมเกษตรกร ในระยะเวลา 3 ปี โดยไม่คิดดอกเบี้ย แต่มีเงื่อนไขเมื่อครบ 3 ปี ต้องส่งคืน ส่วนที่ 2 เป็นเงินจากสัญญาขายล่วงหน้ากับลูกค้า ส่วนที่ 3 เป็นเงินกู้จากเอสเอ็มอีแบงค์
สำหรับการสนับสนุนนั้น ทางฟาร์มจะคัดเลือกผู้สนใจก่อนจะสนับสนุนงบประมาณในการเลี้ยง 1 รอบ คือ 12 เดือน ต่อเกษตรกร 1 คน คนละตั้งแต่ 20,000 ถึง 50,000 บาท
ตัวอย่างการเลี้ยงและต้นทุน เลี้ยง 1 โรงเรือนต่อ 1 คน ประมาณ 15,000 ตัว โรงเรือนขนาด 10×20 เมตร เลี้ยงนก 4 ชั้น ลงทุนแล้วแต่วัสดุในการสร้างโรงเรือน เพื่อลดต้นทุนการผลิต
นก 1 ตัว ราคาตัวละ 13.50 บาท เลี้ยง 15 วัน ออกไข่ได้ เมื่อเลี้ยงไปประมาณ 10 เดือน เป็นนกปลดระวาง สามารถขายได้ตัวละ 6-7 บาท เฉลี่ยนกตัวหนึ่งจะมีราคาอยู่ที่ 7 บาท ปริมาณไข่ที่ออกมาจะอยู่ที่ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ของนกกระทาทั้งหมด
ส่วนค่าอาหารเฉลี่ย 1 ตัว กินประมาณ 23 กรัม วันละ 3 ครั้ง คิดเป็นเงินประมาณ 35 สต.ต่อตัวต่อวัน ราคารับซื้อไข่ร้อยละ 62 บาท ส่วนมูลนกกระทารับซื้อกิโลกรัมละ 2 บาท นก 1 หมื่นตัวจะขายได้ 300 บาทต่อวัน
นี่เป็นการคิดคำนวณแบบคร่าวๆ จากคุณเอนก สีเขียวสด เจ้าของเอนกฟาร์ม…หากท่านใดต้องการทราบรายละเอียดของโครงการทั้งหมด สามารถเข้ารับฟังได้ในงานส่งเสริมการเลี้ยงนกกระทาครบวงจรเพื่อการส่งออก ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 20 มิถุนายน 2560 ที่หอประชุม อบจ.อ่างทอง
หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 035-611-694 หรือ 081-652-5666, 081-948-9726, 092-223-5262…ยินดีที่จะให้คำแนะครับ
ขอบคุณ : ฟอร์ด เอเวอร์เรส พาหนะคู่ใจในครั้งนี้