กยท. จัดพิธีเปิดงานสถาปนา ก้าวสู่ปีที่ 3 “RAOT on The Move : นวัตกรรมการแปรรูป จุดเปลี่ยนยางพาราไทย” ภายใต้แนวคิดส่งเสริมนวัตกรรมยางสู่มิติการแปรรูปผลิตภัณฑ์ เพิ่มมูลค่ายางพาราไทย ขับเคลื่อนการพัฒนายางในยุคไทยแลนด์ 4.0 พร้อมจัดแสดงผลิตภัณฑ์ยางที่ในชีวิตประจำวัน รวมถึงนวัตกรรมจากยางพารา ซึ่งมีการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทต่างๆ พลาดไม่ได้กับการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ยางพารากว่า 50 ร้าน จากทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 16 กรกฎาคม ณ ศูนย์การค้าโชว์ ดีซี พระราม 9
พลเอกฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานในพิธีเปิดงาน เผยว่า ตามวิสัยทัศน์การยางแห่งประเทศไทย คือ การก้าวไปสู่การเป็น “องค์กรชั้นนำระดับโลกในการบริหารจัดการยางพาราทั้งระบบ” ดังนั้นการดำเนินงานต่างๆ จึงต้องบูรณาการและประสานความร่วมมือร่วมกับหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเกษตรกร สถาบันเกษตรกร รวมถึงผู้ประกอบกิจการยางพารา เพื่อวางแผนกำหนดแนวทางการดำเนินงานให้ครอบคลุมทุกมิติ ให้เหมาะสมกับบทบาทของยางพาราที่เป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญต่อการรักษาระดับเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน จึงต้องมีการส่งเสริมให้เกิดการแปรรูปโดยใช้นวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่ายาง ที่ผ่านมารัฐบาลสนับสนุนการจัดตั้งเมืองยางพาราและกระตุ้นให้มีการใช้ยางภายในประเทศมากขึ้นแทนการพึ่งพารายได้จากส่งออก ซึ่งแนวทางนี้ประเทศไทยจะได้เปรียบเพราะเป็นแหล่งผลิตวัตถุดิบ จึงมีโอกาสที่จะต่อยอดพัฒนาและสร้างนวัตกรรมแปรรูปยางพาราเป็นผลิตภัณฑ์ได้ ประกอบกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการนำพาประเทศไปสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 โดยการปรับโครงสร้างให้ภาคเศรษฐกิจขับเคลื่อนด้วย “นวัตกรรม” เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าภายในประเทศ ทำให้แผนดำเนินงานยางพาราในปัจจุบันสอดรับกับนโยบายของรัฐบาล จึงส่งผลดีต่อการบริหารจัดการ
พลเอกฉัตรเฉลิม กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งสำคัญ คือ ต้องแสดงให้เห็นเป็นรูปธรรมด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาช่วยเพิ่มผลผลิต พร้อมกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นในวงการยางพาราไทย โดยเฉพาะผู้วิจัยผู้คิดค้นนวัตกรรมยางต่างๆ อีกทั้งต้องยกระดับศักยภาพของเกษตรกรชาวสวนยางให้สามารถพัฒนามาตรฐานคุณภาพผลผลิต และรักษามาตรฐานให้ต่อเนื่อง เพื่อให้การพัฒนาในภาคอุตสาหกรรมยางพารามีมาตรฐานได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม ประชาชนทั่วไปควรมีส่วนช่วยสนับสนุนการใช้ยางในประเทศให้เพิ่มมากขึ้นด้วย โดยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ยางพารา เช่น ของเล่นเด็ก สินค้าตกแต่ง หมอน กระเป๋า รองเท้า เฟอร์นิเจอร์ เครื่องสำอาง ฯลฯ เพราะหากได้รับการสนับสนุนจากทุกคน ประเทศไทยจะไม่ใช่แค่ประเทศผู้ขายวัตถุดิบยางเพื่อให้ประเทศอื่นนำไปแปรรูป แต่จะเป็นแหล่งผลิตผลิตภัณฑ์ยางสำคัญส่งออกสินค้าสู่ตลาดสากล ซึ่งจะช่วยกระตุ้นภาคเศรษฐกิจ และการลงทุนของประเทศโดยรวมได้
“การจัดงานครบรอบสถาปนาการยางแห่งประเทศไทยในครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสในการสร้างเวทีให้ กยท. และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับยางพารา ได้บูรณาการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และถ่ายทอดแนวคิดเชิงนวัตกรรมการแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางพาราให้แก่ผู้สนใจร่วมกัน โดยเฉพาะผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกระดับเพื่อพัฒนายางพาราทั้งระบบให้เข้าสู่ยุคของการพัฒนาแบบยั่งยืน ภายใต้แนวคิด Today Life’s Rubbers” พลเอกฉัตรเฉลิม กล่าวทิ้งท้าย
ดร.ธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย เผยว่า งาน “RAOT on The Move : นวัตกรรมการแปรรูปจุดเปลี่ยนยางพาราไทย” จัดขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อพัฒนายางพาราไทย ผ่านการบูรณาการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับวงการยางพาราของไทย มุ่งเน้นนวัตกรรม การพัฒนาและต่อยอดยางพาราตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง โดยงานนี้ กยท. ได้จัดกิจกรรมมอบรางวัล Rubber Awards 2017 ให้แก่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการพัฒนาวงการยางพาราไทยให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ได้แก่ รางวัลเกษตรกรชาวสวนยางดีเด่น รางวัลสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางดีเด่น รางวัลผู้ประกอบกิจการยางดีเด่น และรางวัลสื่อมวลชนดีเด่น ซึ่งนับว่า ครอบคลุมการบริหารจัดการยางพาราของไทยทั้งระบบ รวมถึงการแปรรูปและสามารถต่อยอดเชิงพาณิชย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
“อีกหนึ่งไฮไลท์ที่สำคัญในงานนี้ คือ การจัดเสวนาแลกเป็นความคิดระหว่างภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในวงการยางพารา ทั้งภาคเกษตรกร สถาบันเกษตรกร ผู้ผลิต หน่วยงานภาครัฐ ฯลฯ เพื่อเป็นการบูรณาการความคิดร่วมกัน ภายใต้หัวข้อ “จุดเปลี่ยนยางพาราไทย ก้าวสู่อนาคตที่มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” “จุดเปลี่ยนยางพาราไทย กับธุรกิจเพื่อสุขภาพ” และ “นวัตกรรมจากงานวิจัย ถึงมือผู้บริโภค” นอกจากนี้ยังมีการสนทนากับกูรูการแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางพารา ในหัวข้อ“แปรรูปผลผลิตเกษตรกร ก้าวสู่ผลิตภัณฑ์ยางล้อประชารัฐ TH-TYRE” “การแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางพารา Fashion Rubber Trend” “การแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางพารา Good Goods” “การแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางพารา 2GO Inter” และ “การแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางพารา Health & Beauty” ทั้งหมดนี้ผู้เข้าร่วมงานจะได้รับความรู้ และข้อมูลที่มีประโยชน์ตลอด 3 วันของการจัดงาน” ดร.ธีธัช กล่าว
ผู้ว่าการ กยท กล่าวถึงการการนิทรรศการและรูปแบบการจัดกิจกรรม ว่า ภายในงาน “RAOT on The Move” จะแบ่งพื้นที่จัดงานออกเป็น 4 โซนสำคัญ ได้แก่ โซนเทิดพระเกียรติ ต้นกล้าของพ่อ จัดแสดงนิทรรศการเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหา ภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร โซน Rubber Showcase ซึ่งจัดแสดงข้อมูลความรู้ พร้อมกิจกรรมร่วมสนุก 3 ส่วน ได้แก่ “ยางสามัญประจำบ้าน” เป็นโซนของใช้ใกล้ตัวที่มีส่วนผสมหรือส่วนประกอบของยางพาราที่อยู่รอบตัวในชีวิตประจำวัน “ยางแห่งอนาคต” นำเสนอนวัตกรรมจากยางพารา อาทิ อุปกรณ์การแพทย์ แบบจำลองสำหรับฝึกซ้อมยุทธวิธี เป็นต้น ซึ่งผลิตภัณฑ์ต่างๆ เหล่านี้ จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถต่อยอดงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์ต่อไปได้ในอนาคต “ยาง…ยืดชีวิต” โซนนี้ จะสร้างความเข้าใจให้ผู้เข้าชมว่า ยางพาราสามารถสร้างความปลอดภัย สร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายได้
สำหรับผู้โซน “Rubber Garden” พื้นที่ถูกตกแต่งด้วยอุปกรณ์ที่ทำจากยางพาราในรูปแบบต่างๆ อย่างสวยงาม จึงพื้นที่หนึ่งสำหรับนั่งพักผ่อนและสนุกกับกิจกรรมถ่ายภาพ แชะ & แชร์ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบการถ่ายรูปและโซน “Rubber Shop” ซึ่งรวบรวมเอาผลิตภัณฑ์จากยางพารากว่า 50 ร้านทั่วประเทศ มาวางจำหน่ายให้แก่ผู้เที่ยวชมงาน นอกจากนี้ ในงานยังมีการแสดงร่วมสมัยและกิจกรรมการที่เกี่ยวกับยางพารา อาทิ การกระโดดเชือก (ยาง)ลีลา Thailand’s Slam Dunk, Juggling Ball เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการแสดงดนตรีจากนักดนตรีมืออาชีพ ศิลปิน ดารา นักร้อง ตลอดทั้ง 3 วันของการจัดงาน
“งาน RAOT on The Move นวัตกรรมการแปรรูป จุดเปลี่ยนยางพาราไทย กำหนดจัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ ถึง 16 กรกฎาคม 2560 ณ โซนเอเทรียม ชั้น 1 และ โชว์ อาร์ต ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าโชว์ ดีซี พระราม 9 ในเวลา 10.00-21.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การยางแห่งประเทศไทย โทร. 02 433 2222 ต่อ 512 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.raot.co.th หรือ เฟสบุ๊คแฟนเพจ การยางแห่งประเทศไทย RAOT” ดร.ธีธัช กล่าว