นับเป็นครั้งที่สองของประเทศไทยและมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่วงดุริยางค์เครื่องลมแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หรือ วง KU Wind (Kasetsart University Wind Symphony) นิสิตปัจจุบัน ภาควิชาดนตรี คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ วง Nontri Orchestra Wind หรือ วง N.O.W วงดุริยางค์เครื่องลมกึ่งอาชีพวงแรกของประเทศไทย ซึ่งเป็นนิสิตเก่าของมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ พร้อมด้วย อาจารย์สุรพล ธัญญวิบูลย์ อาจารย์จิณณวัตร มั่นทรัพย์ ดร.นิพัต กาญจนหุต รวมทั้งสิ้น 75 คน
และเข้าร่วมการแข่งขันการประกวดดนตรีโลก World Music Contest 2017 หรือ WMC ครั้งที่ 18 โดยประสบความสำเร็จอันงดงามสร้างชื่อเสียงและเกียรติยศให้กับประเทศไทยและมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์อีกครั้ง จากผลงานทางดนตรีที่ออกจากหัวใจของนักดนตรีชาวไทยสู่นักดนตรีและผู้ฟังนานาประเทศ ได้รับรางวัลเหรียญทองเกียรตินิยม (Gold with distinction) ด้วยคะแนน 91.0 ประเภทนั่งบรรเลง (Concert) 1St Division จากการแข่งขันในรอบ ชิงชนะเลิศของการประกวดดนตรีโลก World Music Contest 2017 หรือ WMC ครั้งที่ 18 ณ เมืองKerkradeราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2560 เวลาประมาณ 21.00 น. (เวลาที่ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์) หรือเวลา 03.00 น.ของประเทศไทย นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลเหรียญทอง ประเภท World Division จากการประกวดวงเครื่องกระทบ (Percussion Ensemble) ด้วยคะแนน 89.4 เป็นครั้งแรกอีกด้วย ทั้งนี้การประกวดดนตรีโลก World Music Contest 2017 หรือ WMC ครั้งที่ 18 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 – 31 กรกฎาคม 2560 ณ เมือง Kerkrade ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ขณะรายงานผลนี้ การแข่งขันยังคงดำเนินอยู่ จึงทำให้ยังไม่ทราบผลการจัดอันดับโลกอย่างเป็นทางการของวงที่เข้าร่วมการประกวดทั้งหมด
อาจารย์สุรพล ธัญญวิบูลย์ หัวหน้าสาขาดนตรีตะวันตก ภาควิชาดนตรี คณะมนุษยศาสตร์และผู้ควบคุมวงดุริยางค์เครื่องลมแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ Kasetsart University Wind Symphony และ วง Nontri Orchestra Wind (N.O.W) วงดุริยางค์เครื่องลมกึ่งอาชีพวงแรกของประเทศไทย ได้โพสต์ในเฟซบุ๊ก Surapol Thanyawibool รายงานข่าวผลการประกวดดนตรีโลก รอบชิงชนะเลิศ ณ เมือง Kerkrade ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ว่า
“ขอขอบคุณเพื่อนร่วมเส้นทางดนตรี WMC.2017 ทุกๆคนที่ร่วมกันสร้างผลงานทางดนตรีที่ออกจากหัวใจของนักดนตรีชาวไทยสู่นักดนตรีและผู้ฟังนานาประเทศ พวกเรารู้สึกภูมิใจกันทุกคนเมื่อสิ้นเสียงสุดท้ายของบทเพลง ผู้ชมได้ยืนขึ้นปรบมือชื่นชมอย่างยาวนาน( Standing Ovation ) พวกเรารู้สึกอิ่มเอมในหัวใจที่พวกเราก็เป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมกันสร้างเกียรติภูมิให้แก่ประเทศและร่วมกันบรรเลงเพื่อน้อมถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ในฐานะที่เราลืมตาเกิดขึ้นมาในรัชสมัยของพระองค์ท่าน
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณนักดนตรีทุกๆคนและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกๆท่านที่ร่วมสนับสนุนและให้ความอนุเคราะห์ให้พวกเรามาแสดงผลงานในครั้งนี้ ขอบคุณครับ”