ภาพ/เรื่อง : สิริพร เกษตรก้าวไกล
เลี้ยงกุ้งก้ามแดงแบบง่ายๆ ราคาแตะหมื่นยันแสน จากเมืองหลวง ก้าวสู่สมาร์ทฟาร์มเมอร์ คุณอิงณภัสร์ วงษ์สิทธิชัย หรือ คุณขวัญ อายุ 33 บ้านสวนขวัญ 58 ม. 6 ต. มหาสอน จ. ลพบุรี ที่ปัจจุบันมีดีกรีพ่วงท้ายหลายตำแหน่งมาก ไม่ว่าจะเป็นปราชญ์ชาวบ้าน และ ศูนย์การเรียนรู้ กศน. ประจำต. มหาสอน อีกทั้งยังมีความถนัด ในการนำเทคโนโลยีในการสื่อสารมาทำการตลาด และท่องเที่ยววิถีชีวิตชุมชนเชิงเกษตร นอกจากนี้ ยังมีการกสิกรรมแบบธรรมชาติ โดยเน้นการพึ่งพาตนเอง ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ใช้วิถีแบบพอมี พอกิน พอใช้ พอร่มเย็น
วันนี้ “เกษตรก้าวไกล” จะพาไปรู้จักกับ คุณขวัญ เจ้าของสวนแสนใจดี ที่ทำเกษตรกรรมแบบพอเพียง ตามหลักคำสอนของพ่อหลวง ร.9 จริงๆ
คุณขวัญ เล่าว่า “ตนไม่มีความรู้ด้านเกษตร เพราะว่าทำงานในเมืองหลวง อยากกลับมาอยู่บ้าน ซึ่งยึดอาชีพเกษตรอยู่แล้ว จึงมาสานงานต่อให้เกิดมั่นคงโดยไปอบรม พัฒนา เรียนรู้จากหน่วยงานต่างๆของอำเภอ หรือผู้ที่มีประสบการณ์ตอนนี้ที่สวนขวัญได้ทำเกษตรผสมผสานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเลี้ยงกุ้งก้ามแดง เป็นฟาร์มซึ่งต้องยอมรับว่า ก็สามารถสร้างอาชีพหลักได้ ปลูกพันธุ์กล้าข้าวขาย การทำการท่องเที่ยวแบบวิถีชุมชน เชิงเกษตรของ ต.มหาสอน ซึ่งถือว่าเป็นอาชีพเสริมให้ชาวบ้านด้วย โดยจัดโปรแกรมทัวร์ พานักท่องเที่ยว ทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การทำพิซซ่าเตาถ่าน การทำบะหมี่มะรุม การดูฟาร์มกุ้งก้ามแดง ในราคาที่ไม่แพง นักท่องเที่ยวที่ชอบธรรมชาติสามารถพักผ่อน นั่งเรือล่องแม่น้ำ ดูบรรยากาศวิถีชีวิตของชาวบ้านแถวนี้ได้”
คุณขวัญเล่าต่อว่า “ อาชีพหลักที่สำคัญอีกอาชีพหนึ่งคือ การเลี้ยงกุ้งก้ามแดงที่รายได้เหยียบแสน ซึ่งวิธีการเลี้ยงกุ้งนั้นเป็นบ่อปูนมีทั้ง บ่อขุน บ่อผสม บ่ออนุบาล และบ่อดินกับ แปลงนาขนาดเล็ก เลี้ยงควบคู่กับนาข้าว สำหรับอาหารที่ใช้เลี้ยงกุ้งก้ามแดงนั้น จะให้ทั้งอาหารสด คือไส้เดือน กุ้งฝอยต้ม สาหร่าย เศษปลา ไรแดง และ อาหารสำเร็จโปรตีนตั้งแต่ 45% -50%สำหรับขุน แต่สำหรับ พ่อแม่พันธุ์ จะให้อาหารที่โปรตีนไม่เกิน 35% ไม่เน้นขุน และให้อาหารไก่ไข่บ้างไม่มาก เพราะน้ำจะเน่าได้ ในส่วนของน้ำนั้นจะใช้น้ำมูลไส้เดือน ผสมด้วย ถ้าเป็นบ่อดินที่แดดแรง จะใส่ทั้งน้ำมูลไส้เดือน และ จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงด้วย ส่วนน้ำในบ่อปูนถ้าเร่งขุนจะถ่ายน้ำ 10 วันครั้ง แต่ปกติเดือนละ 1 ครั้ง น้ำที่ถ่ายจะลงบ่อดิน ทางบ้านสวนขวัญไม่ได้ผลิตเป็นจำนวนมาก แต่เน้นในการผลิตร่วมกันของเกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียง ที่นี่นอกจากจะเป็นที่รวบรวมกุ้งก้ามแดงแล้ว ยังเป็นแหล่งเรียนรู้การเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามแดงอีกด้วย ”
คุณขวัญเล่าต่อว่า “ ที่บ่อจะมีลูกกุ้งปล่อยเลี้ยงอยู่ 2,000 ตัว ลูกกุ้งไซส์ขุนอยู่ 1,000 ตัว พ่อแม่พันธุ์ พร้อมไข่ 100 แม่ แม่กุ้งขุน 200 แม่ ซึ่งถือว่าไม่มากสำหรับการผลิตกุ้งเนื้อ ด้วยการเลี้ยงแบบเกษตรผสมผสาน ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง สำหรับผู้ที่จะเลี้ยงกุ้งชนิดนี้นั้น ให้เริ่มต้นการเลี้ยงที่ต้นทุนต่ำ โดยนำภาชนะที่มีอยู่ในบ้านว่ามีอะไรบ้าง เช่นกะละมัง บ่อปลาเก่า แต่จะแนะนำให้ลองเลี้ยงกะละมัง แล้วทดลองลูกกุ้งไซส์ 1 นิ้ว สัก 50 ตัวดูก่อน สัก 2 สัปดาห์ เพื่อศึกษาพฤติกรรมและ ดูว่าเหมาะสมกับวิถีชีวิตผู้เลี้ยงหรือไม่ ถ้าเลี้ยงรอดอัตราเหลือสัก 30 ตัวขึ้นไป ก็ค่อยลงทุนเพิ่ม หรือขยายพื้นที่เลี้ยงต่อไป ”
สำหรับตลาดรับซื้อนั้น ที่ฟาร์มจะเน้นการส่งเสริม การกินกุ้งเนื้อในรูปแบบการท่องเที่ยว และมีร้านอาหาร โรงแรม ซึ่งถือว่าธุรกิจนี้ยังเหนียวแน่นอยู่ ราคาที่เคยขายบูมสุดๆ ก็จะเป็นช่วงแรกๆที่เค้าเริ่มเลี้ยงกินใหม่ เคยขายได้มากสุด เดือนละ 1 แสน 2 หมื่นบาท ปัจจุบันก็ได้ เดือนละ 2-3 หมื่น แต่ต้องบอกก่อนว่าที่นี่ ก็จะมีบ่อเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ด้วย ลูกกุ้งด้วย ราคาก็จะได้ไม่เท่ากัน พ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ จะขายคู่ละ 650 บาท ปัจจุบัน ราคาคู่ละ 450 บาท ราคากุ้งที่ฟาร์มส่วนใหญ่จะขาย เริ่มจาก 400, 600, 1,200, 1,500 บาท ราคาที่ขายประจำ คือ จะเป็น 9 ตัว กิโลกรัม อยู่ที่ 1,500 บาท
เทคนิคสำคัญของทางฟาร์ม
การที่จะเน้นขุนกุ้งให้ตัวโต อุปนิสัยในการกินของกุ้ง เขาจะหากินตอนกลางคืน เพราะฉะนั้น ที่ฟาร์มจะหาอะไรมาปิดฝาให้มันมืด กุ้งเขาจะได้เข้าใจผิดว่า เป็นเวลากลางคืน เขาก็จะได้กินอยู่ตลอดเวลา อาหารที่ให้ในการเร่งก็จะเป็นอาหารไก่ไข่ ซึ่งมันจะแคลเซียม ช่วยเสริมสร้างเปลือก เราจะให้สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ส่วนการแยกเพศ เมื่อกุ้งได้ 2 นิ้ว เราจึงจะทำการแยกเพศเขา
สำหรับมือใหม่หัดเลี้ยง
คุณขวัญเริ่มจากมีทุน 10,000 บาท หักขายอุปกรณ์ ไปนิดหน่อย เพราะว่าเราใช้ของที่มีอยู่ เช่น พวกกะละมัง ลองเลี้ยงดูถ้ารอดก็ค่อยซื้อเพิ่ม คือเราจะให้ทดลองเลี้ยง แล้วขายพ่อพันธุ์ก่อน แล้วค่อยมาขายลูกกุ้ง เนื่องจากพ่อพันธุ์ เลี้ยงแค่ 3 เดือนก็สามารถขายได้แล้ว แต่ถ้าเป็นลูกกุ้ง เราจะต้องมีความชำนาญขึ้นมาอีกนิดก่อน อีกทั้งบริเวณในการเลี้ยง ก็ต้องมีมากกว่า
เกษตรกรท่านใดสนใจ อยากที่จะเลี้ยงไว้เป็นอาชีพหลัก หรือ อาชีพเสริม สามารถติดต่อคุณขวัญเลยจ้า ไม่เพียงแค่มีการเลี้ยงกุ้งเท่านั้น ที่นี่ยังการปลูกข้าว ขายต้นพันธุ์ ล่องเรือเที่ยวชมแม่น้ำ หรือจะพาเด็กๆทำกิจกรรม ตามวิถีชีวิตท้องถิ่นได้ สามารถติดต่อเพิ่มเติมได้ที่ คุณอิงณภัสร์ วงษ์สิทธิชัย( คุณขวัญ ) เจ้าของฟาร์มบ้านสวนขวัญ เบอร์ศัพท์ 084-775-1435
