เรื่อง/ภาพ : น้ำปิง เกษตรก้าวไกล

ปลูกต้นกาแฟเสริมต้นยางพารา
ปลูกต้นกาแฟเสริมร่องต้นยางพารา

การปรับแนวคิดจากพืชเชิงเดี่ยว มาสู่เกษตรผสมผสานนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่เรามีความเชื่อและความรักในการเกษตรกร พร้อมทั้งต้องศึกษาหาความรู้อยู่ตลอด การทำเกษตรที่ยั่งยืน ควรที่จะเริ่มจากตัวของเกษตรกรก่อน จากนั้นจึงค่อยๆปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์และพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ไม่หวังพึ่งผลผลิตจากพืช ชนิดใด ชนิดหนึ่งเท่านั้น เพราะว่าการทำเกษตรที่ได้ผลผลิตหมุนเวียนตลอดปี จะทำให้เกิดรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน“ นี่คือเสียงของคุณสมจิตร์ บรรณจักร์ เจ้าของสวนยางเกษตรผสมผสาน  ต.สันทราย อ. ฝาง จ.เชียงใหม่ “เกษตรก้าวไกล” วันนี้พาทุกท่าน บุกสวน คุณสมจิตรไปดูสิว่า เค้ามีแนวคิดอะไร ที่อยากจะแบ่งปันพวกเราบ้าง

คุณสมจิตร์ บรรณจักร์ เจ้าของสวนยางพาราที่เชียงใหม่ กับมุ้งกันฝนให้ยาง
คุณสมจิตร์ บรรณจักร์ เจ้าของสวนยางพาราที่เชียงใหม่กับมุ้งกันฝนให้ยาง

เดิมทีคุณสมจิตร์ปลูกลิ้นจี่บนพื้นที่ 60 ไร่ แต่ประสบปัญหาราคาตกต่ำมาตลอด ประกอบกับช่วงปี 2547มีโครงการ ส่งเสริมการปลูกยางพารา 1 ล้านไร่  ทำให้เขาปรับปรุงพื้นที่ส่วนหนึ่ง ปลูกยางพารา 4,000 กว่าต้น และปลูกไม้สัก ไม้ผล(มะม่วง) รวมทั้งเลี้ยงไก่ไข่และขุดบ่อเลี้ยงปลาด้วย

หลังจากทำเกษตรผสมผสานดังกล่าวได้ผลดีระดับหนึ่ง ทำให้แนวคิดว่า ใต้ต้นยางพาราระหว่างแถวหรือต้นว่างเยอะ น่าจะมีพืชหรืออื่นเสริมรายได้เพิ่ม จึงเกิดแปลงกาแฟในสวนยาง เนื่องจากพืชชนิดนี้ชอบแสงอาทิตย์ไม่มากนัก แถมได้ราคารับซื้อดีด้วย“ คุณสมจิตร์กล่าวถึงจุดเริ่มต้นการปลูกกาแฟในสวนยาง

กาแฟที่ปลูกเป็นพันธุ์อาราบิก้า
กาแฟที่ปลูกเป็นพันธุ์อาราบิก้า

กาแฟที่ปลูกเป็นพันธุ์อาราบิก้าเริ่มให้ผลผลิตมาแล้ว 2 ปี ขณะนี้รอบการเก็บผลิตเฉลี่ย 4 เดือนต่อครั้ง เก็บได้ครั้งละประมาณ 800-900 กิโลกรัม

ตลาดที่นำไปขายผลผลิตกาแฟ จะเป็นนิวช็อปที่แม่แตง และมีบริษัทเข้ามารับซื้อด้วย  ซึ่งจะขายราคาอยู่ประมาณ 110-120 บาทต่อกิโลกรัม  ในส่วนของผลผลิตยางพารา จะส่งขายทุกๆ 7 วัน ปริมาณผลผลิตที่ขาย 2 ตัน/ครั้ง  รายได้ต่อเดือนจากการปลูกยางพาราประมาณ 60,000 บาท” คุณสมจิตรกล่าว

คนงานดูแลสวนเกษตรแห่งนี้มีทั้งหมด 5 คน โดยรับผิดชอบเรื่องกรีดยาง กาแฟ เลี้ยงไก่ไข่และอื่นๆรวมๆกันแล้วมีต้นทุนหลายหมื่นบาทเหมือนกัน

จริงๆแล้ว เราเริ่มต้นจากเลี้ยงไก่มาก่อนหน้าแล้ว 500 ตัว จากนั้นจึงค่อยๆเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆไม่ได้ลงทุนทีเดียวจำนวนเยอะๆ ค่อยๆหมุนขึ้นมา คือไม่ได้มีเงินทุน เงินก้อนไปลง ค่อยๆโตต่อยอด ค่าใช้จ่ายในสวนต่อเดือน เฉพาะค่าอาหารไก่ เยอะเหมือนกัน แต่เราลงทุนไปเท่าไรกำไรก็เพิ่มเป็นอีกหนึ่งเท่าตัว”

ไก่ไข่ ที่นี่มีจำนวนทั้งหมด 20,000 ตัว ให้ผลผลิตประมาณ 14,000 -15,000 ฟองต่อวัน
ไก่ไข่ ที่นี่มีจำนวนทั้งหมด 20,000 ตัว ให้ผลผลิตประมาณ 14,000 -15,000 ฟองต่อวัน

ไก่ไข่ ที่นี่มีจำนวนทั้งหมด 20,000 ตัว ให้ผลผลิตประมาณ 14,000 -15,000 ฟองต่อวัน  ซึ่งมีระยะการให้ไข่ได้ 18 เดือน ส่วนมูลไก่ก็จะขายได้อีกวันละ 40-50 กระสอบ

 “พื้นที่ที่เหลือส่วนหนึ่ง ได้ขุดบ่อเลี้ยงปลา 2 บ่อ ปล่อยไปนับ แสนตัว ได้แก่ บ่อแรกจะเป็นปลาสวายและปลานิล บ่อที่สองจะเป็นกลุ่มปลาเบญจพรรณโดยใช้เวลาเลี้ยงรอบละ 6 เดือน จากนั้นจึงให้พ่อค้ามารับซื้อได้ “

ขุดบ่อเลี้ยงปลา 2 บ่อ จำนวนแสนตัว ได้แก่ บ่อแรกจะเป็นปลาสวายและปลานิล บ่อที่สองจะเป็นกลุ่มปลาเบญจพรรณ
ขุดบ่อเลี้ยงปลา 2 บ่อ จำนวนแสนตัว ได้แก่ บ่อแรกจะเป็นปลาสวายและปลานิล บ่อที่สองจะเป็นกลุ่มปลาเบญจพรรณ

ข้อดีของการปลูกพืชผสมผสานแบบนี้ สามารถมีรายได้หมุนเวียนตลอด ระหว่างรออันนั้น ก็เก็บอันนี้ขายได้ ระหว่างรอ พืชชนิดนี้ ก็กรีดอันนี้ขาย เก็บไข่ไก่ขายได้ตลอดทุกวัน มีปลา มีกาแฟมาคอยเอื้ออยู่ รายได้มันจึงมีหมุนเวียนตลอด” คุณสมจิตร์กล่าวทิ้งท้าย

เกษตรกรท่านสนใจข้อมูลเพิ่มเติม หรือต้องการเข้าไปศึกษาดูงาน สามารถติดต่อที่ คุณสมจิตร์ บรรณจักร์ 376หมู่ 5 ต.สันทราย อ. ฝาง จ.เชียงใหม่ 080- 677- 9988

SIMA_webbanner_468x90_TH_animated