“ปัจจุบันมีกฏหมายควบคุมภาคการผลิต ทั้ง อาหาร น้ำตาล น้ำแข็ง น้ำเชื่อม นม ยา ฯลฯ ต้องเป็นท่อสเตนเลส เพราะไม่เป็นสนิม เนื่องจากสนิมเป็นเชื้อโรคอย่างหนึ่ง ด้านการบำรุงรักษา ทำความสะอาดก็ง่าย เอาน้ำล้างเอาผ้าเช็ดออก และแบคทีเรียไม่เกาะ ฯลฯ เราอยู่ในธุรกิจนี้มีกว่า 40 ปี ตั้งแต่แต่รุ่นอากง เป็นโรงงานผลิตท่อและแผ่นสเตนเลสโรงแรกในไทย ปัจจุบันยังเป็นโรงงานเดียวในอาเซียนที่สามารถผลิตท่อสเตนเลสคุณภาพสูงได้หลายขนาด ส่งป้อนทุกอุตสาหกรรม ปัจจุบันเรามีลูกค้ากว่า 600 ราย ทั้งที่อยู่ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี อาหารและยา ก่อสร้าง เกษตร กระดาษ และเครื่องดื่ม” คุณรชต ลีลาประชากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย-เยอรมัน โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) (TGPRO) ให้สัมภาษณ์ในงานเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ ท่อเกลียวสเตนเลส EXTUBA ซึ่งทนทานความร้อนได้ดีเยี่ยม เหมาะใช้กับอุตสาหกรรมโรงงานที่มีการเผาผลาญพลังงงานสูงอยู่ตลอด เช่น โรงงานน้ำตาล โรงงานน้ำแข็ง ฯลฯ ท่อชิ้นนี้ผ่านการทดลองจากนักวิชาการ และส่งไปประกวดได้รับรางวัลเหรียญทองเกียรติยศ ผลงาน “Enhanced Tubes for Improving the Thermal Performance” ในงานนิทรรศการสิ่งประดิษฐ์ใหม่ของโลก ชื่องาน “44th International Exhibition and Invention of Geneva 2016” ณ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์, โครงการวิทยาศาสตร์สู่ความเป็นเลิศ ของวุฒิสภาการันตี พร้อมอีกหลากหลายรางวัล
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่สินค้าที่พัฒนาโดยโนฮาวของคนไทยจะได้รับรางวัลในระดับโลก ยิ่งในแวดวงอุตสาหกรรมยิ่งแล้วใหญ่ ย้อนเส้นทางที่มาของการสร้างนวัตกรรมชิ้นนี้ การดัดแปลงท่อสเตนเลสแบบเรียบเป็นรูปแบบเกลียวให้ได้มุมและองศาที่ทนทานต่อความร้อนได้มากกว่าเดิมเกิน 20% ให้ได้ “จีนก็ผลิต ไต้หวันก็ผลิต มีมาตั้งโรงงานในไทย เราคงทำราคาเหมือนเขาไม่ได้ หันมาพัฒนานวัตกรรมดีกว่า ให้สินค้าเป็นตัวพูด” ที่มาข้อแรกของการพัฒนาสินค้าท่อสเตนเลสอย่างไม่หยุดนิ่ง แม้จะเป็นเจ้าเดียวในตลาดเมืองไทย แต่ด้วยระบบทุนที่เปิดกว้าง ทำให้บริษัทฯ คนไทยเพียงหนึ่งเดียวในแวดวงนี้ต้องแข่งขัน
“เรายังมองไม่เห็นว่าอนาคตจะมีอะไรที่ดีกว่ามาทดแทนท่อสเตนเลส จึงพัฒนาออกมาเป็นรูปแบบอื่นๆ โดยร่วมกับนักวิชาการ ศ.ดร.สมชาย วงศ์วิเศษ ภาควิชาวิศวเครื่องกล คณะวิศวกรรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้ผลวิจัยว่าท่อสเตนเลสแบบใหม่ คือ แบบเกลียว มีคุณสมบัติแลกเปลี่ยนความร้อนได้ดีกว่าและช่วยเพิ่มอัตราการผลิตได้มากกว่า 20% (เมื่อเทียบกับท่อสเตนเลสแบบเรียบ)
กว่าจะเป็น_ที่หนึ่งเรื่องสเตนเลส
ย้อนหลังไปกว่า 40 ปี ด้วยวิสัยทัศน์ของ คุณประชา ลีลาประชากุล ชวนเพื่อนวิศวะชาวเยอรมัน เข้ามาตั้งโรงงานผลิตท่อสเตนเลส สมัยนั้นนำเครื่องจักรจากเยอรมันมาร้อยเปอร์เซ็นต์ พร้อมผลิตท่อสเตนเลสขายโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ด้วยชื่อเสียงและคุณสมบัติเฉพาะของ “สเตนเลส” เมื่อนำมาทำเป็นท่อ ทำให้การตอบรับไม่ยาก สมัยนั้นไม่มีคู่แข่ง แต่จะแข่งคือตัวเอง เพราะลงทุนเครื่องจักรสูง บริษัทฯ ยิ่งใหญ่ เงาที่เปรียบเสมือนกับหนี้ก็ใหญ่ตามตัว ปี 2516 บริษัทฯ ถือกำเนิดขึ้น, ปี 2538 ได้จดทะเบียนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์, ปี 2540 ได้รับผลกระทบจากวิกฤตต้มยำกุ้ง ต้องยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางในเดือนสิงหาคม 2542 ช่วงปลายปี 2549 บริษัทได้ออกจากแผนฟื้นฟูกิจการเหมือนทุกอย่างจะดีขึ้น แต่แล้วในปี 2551 บริษัทประสบกับปัญหาขาดทุน จากการดิ่งลงของราคาสเตนเลสต่อเนื่อง 2 ปีติดต่อกัน ต้องกลับเข้าสู่ขบวนการฟื้นฟูกิจการเป็นครั้งที่ 2
“อาจกล่าวได้ว่า 15 ปีแรก ตระกูลลีลาประชากุล มีเวลาฟื้นตัวช่วงสั้นๆ ขณะที่ระยะเวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้” รชต ทายาทรุ่นที่ 2 เจ้าของวลี “ทะเลเลือดสาด” กล่าว กระนั้นในช่วงที่เขาบริหาร ยังแอบตั้งเป้าเบาๆ ว่า จะทำให้บริษัทมีรายได้ตามเป้าหมาย (5,000 ล้านบาท) คือ
- เราจะขายสินค้ามากขึ้นให้ลูกค้ารายเก่าที่มีอยู่กว่า 600 ราย และ
- จะเพิ่มสัดส่วนลูกค้าต่างประเทศมากขึ้นเป็น 50% จากปีนี้ ที่คาดจะมียอดส่งออก 30% เน้นตลาดอาเซียน เช่น ลาว พม่า และเวียดนาม เป็นต้น ส่วนตลาดแถบยุโรปก็เล็งอยู่ สำหรับตลาดสหรัฐอเมริกาบริษัทส่งออกอยู่แล้ว แต่ตลาดสหรัฐจะยังไม่ให้น้ำหนักในตอนนี้ “การมุ่งตลาดส่งออกทั้งที่อัตรากำไรขั้นต้นต่ำเพียง 10% ตลาดในประเทศ 15-20% แต่จำเป็นต้องหาตลาดใหม่เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ปัจจุบันไต้หวัน และจีน เป็นคู่แข่งรายใหญ่ของไทยแต่เราไม่กลัว สู้ด้วยคุณภาพ ท่อสเตนเลสของเรา ทำจากสเตนเลสแท้ 100% ไม่เป็นสนิม ของที่อื่น ไม่รู้”
วิวัฒนาการท่อสเตนเลส
ย้อนตามวิวัฒนาการสินค้า ในช่วง
- 1-10 ปีแรกของการเปิดกิจการ ทีจีโปร เริ่มต้นจากการพัฒนาท่ออุตสาหกรรม เพื่อรองรับอุตสาหกรรมเกือบทุกประเภท อาทิ ท่ออุตสาหกรรมทั่วไป A-312 ท่อแลกเปลี่ยนความร้อน A-249, A-269
- 11-20 ปี จากนั้น บริษัทเริ่มขยายตลาดไปสู่กลุ่มงานตกแต่ง จึงเริ่มพัฒนาผลิตท่อสำหรับงานตกแต่ง A-554 ที่มีทั้งท่อกลม ท่อเหลี่ยมจัตุรัส ท่อเหลี่ยมผืนผ้า มีผิวให้เลือกทั้งท่อเงา และท่อผิว Hairline
- 21-30 ปี ผลิตท่อสำหรับอุตสาหกรรมอาหารและยา A-270 และเมื่อตลาดกลุ่มงานตกแต่งเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงนั้น จึงมีการพัฒนาท่อตกแต่งประเภทมีลวดลายทั้งเส้น ครั้งแรกในโลกออกมา ในชื่อ Twitter และ Hartsfield
- 31-40 ปี ในช่วงที่ เทรนของการประหยัดพลังงาน กำลังมาแรง TGPro จึงพัฒนาท่อ EXTUBA ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
ผลิตภัณฑ์ของ TGPRO และนวัตกรรมใหม่ ท่อเกลียวสเตนเลส Extuba
ปัจจุบัน TGPRO ยังเป็นบริษัทฯ เดียวผลิตที่สามารถผลิตท่อสเตนเลสได้ครบทุกหมวด ทุกขนาด สินค้าปัจจุบันประกอบด้วย ท่อสเตนเลสสำหรับอุตสาหกรรมทั่วไป ASTM A-312 ,ท่อสเตนเลสอุตสาหกรรมอาหารและยา ASTM A-270, ท่อสเตนเลสอุตสาหกรรมแลกเปลี่ยนความร้อน ASTM A-249, A-269, ท่อสเตนเลสสำหรับงานตกแต่ง ASTM A-554, แผ่นสเตนเลส ฯลฯ
ด้านนวัตกรรมใหม่ ท่อเกลียวสเตนเลส Extuba ศ.ดร.สมชาย วงศ์วิเศษ ภาควิชาวิศวเครื่องกล คณะวิศวกรรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ให้สัมภาษณ์ว่าจากการทดลองและวิจัยสมรรถนะการถ่ายเทความร้อน ของภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี พบจุดเด่นและคุณสมบัติของท่อสเตนเลสแบบเกลียว EXTUBA ตามลำดับดังนี้
- การสร้างครีบร่องเกลียว การสร้างครีบร่องเกลียวภายในท่อ ส่งผลให้ผนังท่อนั้นมีพื้นที่ผิวสำหรับแลกเปลี่ยนความร้อนสูงขึ้นกว่า 30% ทำให้จำนวนท่อที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนความร้อนนั้นน้อยลง ขณะที่สมรรถนะในการถ่ายเทความร้อนนั้นเท่าเดิม ทำให้ขนาดของอุปกรณ์แลกเปลี่ยนความร้อนนั้นเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด มีความกะทัดรัดมากขึ้น นอกจากนั้นยังส่งผลให้ต้นทุนการผลิตอุปกรณ์แลกเปลี่ยนความร้อนนั้นลดลงได้
- สัมประสิทธิ์การถ่ายเทความร้อนที่เพิ่มขึ้น ลักษณะของครีบร่องเกลียวที่หมุนไปในทางเดียวกันตลอดทั้งท่อ ช่วยเพิ่มอัตราการไหลวนและความปั่นป่วนของของไหลที่บริเวณผนังท่อด้านใน ทำให้ชั้นของ Thermal Boundary Layer นั้นบางลง ส่งผลให้ความต้านทานความร้อนลดลง ทำให้สมรรถนะการถ่ายเทความร้อนสูงขึ้น โดยค่าสัมประสิทธิ์การถ่ายเทความร้อน (Heat transfer Coefficient) นั้นสูงขึ้นประมาณ 50% เมื่อเปรียบเทียบกับท่อธรรมดาทั่วไป
- ความแข็งแรงได้มาตรฐาน การสร้างครีบร่องเกลียวนั้น ส่งผลให้ท่อมีความแข็งแรงมากขึ้น ขณะเดียวกัน ผนังท่อในส่วนที่บางลงนั้นกลับส่งผลดีต่อการถ่ายเทความร้อนจากผนังท่อไปสู่ของไหล เพราะความต้านทานความร้อนผ่านผนังท่อจะลดลง ทำให้สามารถถ่ายเทความร้อนได้ดียิ่งขึ้น
- ผ่านการทดสอบมาตรฐานสากล ท่อทุกเส้นที่ผลิตขึ้นมานั้นจะต้องผ่านการทดสอบ โดยใช้แรงดันลมและแรงดันน้ำ ตามมาตรฐานสากล อาทิ ASTM (American Society of Testing Materials), PED (Pressure Equipment Directive) จากสถาบัน BUREAU VERTA’s
(มีเอกสารการทดลองประกอบแนบ)
เป้าหมายในอีก 3 ปีข้างหน้า
TGPRO มีแผนที่จะขยายกำลังการผลิตให้ได้ 4,000 ตันต่อเดือน ภายใน 3 ปีข้างหน้า เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดที่คาดว่าจะมีอย่างต่อเนื่องทั้งใน และต่างประเทศ โดยหลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) มีโอกาสจากการซื้อขายสินค้าได้โดยไม่ต้องเสียภาษี โดยคู่แข่งต่างๆ เช่น โรงงานสเตนเลสในประเทศพม่า กัมพูชา และลาว ส่วนใหญ่จะผลิตเพื่อใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ ไม่ได้มีขนาดใหญ่ ผลิตสินค้าได้ไม่ครบ ไม่ครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม จึงเป็นโอกาสของ TGPRO ที่จะผลิตท่อสเตนเลสสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมส่งเข้าไปจำหน่าย เพราะพบว่าปริมาณความต้องการสเตนเลสในภูมิภาคนี้ยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก
ปัจจุบัน TGPRO มีสัดส่วนรายได้การส่งออกต่างประเทศ และในประเทศ อยู่ที่ 30% และ 70% ซึ่งสินค้าใหม่ ท่อเกลียวสเตนเลส EXTUBA จะอยู่ใน กลุ่มสินค้าท่อสเตนเลสเพื่ออุตสาหกรรมแลกเปลี่ยนความร้อน ในหมวดนี้คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 30% ของรายได้รวมทั้งหมด ขณะที่ส่วนที่เหลือแบ่งเป็น กลุ่มสินค้าท่อสเตนเลสเพื่อตกแต่ง 30-40% ท่อสเตนเลสเพื่ออุตสาหกรรม 30% และท่อสเตนเลสเพื่ออุตสาหกรรมอาหาร และเครื่องดื่ม 30% และจากเทรนด์ของมาตรฐาน ความปลอดภัย และความคุ้มค่า ในอนาคตคาดว่าท่อชนิดใหม่แบบเกลียวจะเป็นความต้องการของตลาด
“ปรบมือและรอเชียร์สินค้าไทย นวัตกรรมที่คิดค้นและพัฒนาโดยคนไทย#คนไทยเก่งไม่แพ้ชาติใดในโลก”