ลุ้นกันมาแรมปีกับการค้นหาสุดยอด “เกษตรกรรักบ้านเกิด” จนในที่สุดก็ได้ครบทั้ง 10 คน และมีการมอบรางวัลไปเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2560 ท่ามกลางความดีใจของคนที่ได้รับรางวัล เรามาดูเบื้องหน้าเบื้องหลัง…มาดูว่า งานนี้ผู้จัดงานมีแนวคิดต่อภาคเกษตรอย่างไร คนที่รับรางวัลเป็นใครมาจากไหน เขามีดีอะไรจึงได้รับรางวัล…
ฟังวิสัยทัศน์ผู้จัดงาน…
การประกวดโครงการเกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิด ประจำปี พ.ศ. 2560 นับเป็นครั้งที่ 9 ได้จัดขึ้น ณ ดีแทคเฮ้าส์ ตึกจามจุรี ชั้น 32 ผู้จัดงานประกอบด้วย ดีแทค กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และมูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้าน โดยมีบุคคลสำคัญที่มาร่วมงาน เช่น นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารดีแทค นางสาวภาณี บุณยเกื้อกูล ผู้อำนวยการกองพัฒนาเกษตรกร นายบุญชัย เบญจรงคกุล ประธานกรรมการ มูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด ฯลฯ
นายลาร์ส นอร์ลิ่ง กล่าวถึงแนวโน้มสำคัญของเกษตรไทยยุคใหม่ โดยแบ่งออกเป็น 3 เทรนด์ ได้แก่ 1. เกษตรเชิงข้อมูล (Data-driven farming) เกษตรกรควรนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาปรับใช้ในการวางแผนการทำงาน เพื่อทำให้เกิดความแม่นยำในการทำการเกษตร ลดต้นทุน เพิ่มคุณภาพของผลผลิต และสอดคล้องต่อความต้องการของตลาด 2. พลังงานหมุนเวียน (Renewable energy) ต้องคิดค้นนวัตกรรมเครื่องมือที่ทำให้เกิดการนำพลังงานมาใช้อย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดประสิทธิภาพในการผลิต และ 3. ควบคุมศัตรูพืชด้วยชีววิธี (Bio-pesticides) ใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านร่วมกับงานวิจัยที่เกษตรกรคิดค้นขึ้น ทำให้ได้ผลผลิตที่มีความปลอดภัยและลดต้นทุนจากสารเคมีได้
ทางด้าน นายบุญชัย เบญจรงคกุล กล่าวว่า โครงการประกวดเกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิด ได้ดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 9 ปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิดเกษตรแบบครบวงจร โดยเน้นการใช้นวัตกรรมเป็นตัวขับเคลื่อนภาคเกษตรกรรม สอดคล้องกับยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศ Thailand 4.0 เกษตรกรต้นแบบที่เข้ารอบทั้ง 10 คนในปีนี้ มีคุณลักษณะโดดเด่นในเรื่องทักษะการบริหารจัดการทรัพยากรที่ดิน แรงงาน ทุน ตลอดจนการเพาะปลูกและแปรรูปสินค้าที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค อยู่บนพื้นฐานการใช้องค์ความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ ตลอดจนการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ามาประยุกต์ใช้กับนวัตกรรมสมัยใหม่ เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์การเกษตรให้มีคุณภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีทักษะความเป็นเกษตรกรมืออาชีพ สามารถใช้เทคโนโลยีเพื่อเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และนำมาใช้ในการบริหารจัดการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ เปลี่ยนการเกษตรแบบดั้งเดิมสู่เกษตรสมัยใหม่ รู้จักการวางแผนธุรกิจ ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมสร้างการตลาดนำการผลิต พร้อมทั้งแบ่งปันบทเรียนและถ่ายทอดประสบการณ์แก่เกษตรกรทั่วไป
“มูลนิธิฯ มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก เพราะปีนี้ นอกจากเราจะได้เกษตรกรต้นแบบ 10 ท่านที่เป็นคนเก่งแล้ว เรายังได้เกษตรกรที่มีความภูมิใจในการเป็นเกษตรกรอย่างยิ่ง รวมทั้งเป็นผู้ที่มีจิตสำนึกที่ดีในการคำนึงถึงคุณภาพสินค้า ความปลอดภัยของผู้บริโภค ตลอดจนความใส่ใจในการมีส่วนร่วมสร้างสรรค์สังคมและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย” ประธานกรรมการ มูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด กล่าว
ผู้ได้รับรางวัล ใครเป็นใคร
ในการจัดประกวดครั้งนี้ ได้คัดเลือกเกษตรกรเข้ารอบสุดท้ายทั้งหมด 10 คน โดยในวันที่มีการประกาศมอบรางวัลได้มีการตัดสินรางวัลเป็น 2 ประเภท คือรางวัลเกษตรกรดีเด่น จำนวน 7 คน ประกอบด้วย 1.น.ส. สิรินุช ฉิมพลี จ.นครปฐม เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากัดชื่อดังระดับโลก ในนาม Sirinut Betta Farm เน้นผลิตปลากัดทุกสายพันธุ์ที่ตลาดนิยม เน้นตลาดนำการผลิต พัฒนาสีปลากัดตามความต้องการของตลาดทั้งไทยและต่างประเทศ มีการต่อยอดผลิตภัณฑ์ เช่น เสื้อ กระเป๋าลายปลากัด ฯลฯ และโครงการเปิดโรงเรียนปลากัด เพื่อแบ่งปันความรู้แก่ผู้สนใจ 2. น.ส. สุภิสาข์ มัยขุนทด เกษตรกรจาก จ.เพชรบุรี ผู้ทำท่องเที่ยวเชิงเกษตร ในนาม “เกาะเกษตรอินทรีย์” ปลูกพืชผักแบบผสมผสาน อีกทั้งผลไม้ ทั้งยังนำผักผลไม้มาเสิร์ฟให้นักท่องเที่ยวทีมาพักในรีสอร์ทได้รับประทาน 3. นายนิธิภัทร์ ทองอ่อน เกษตรกร จ.ระยอง ในนามทานาทผู้สืบทอด “สวนทุเรียนลุงแกละ” ผู้มีนวัตกรรมทำทุเรียนนอกฤดูและผลไม้เกรดพรีเมี่ยม มีเทคโนโลยีการจัดการสมัยใหม่ และนำผลผลิตในช่วงล้นตลาดมาแปรรูปสร้างรายได้ 4. นายอภิวรรษ สุขพ่วง เกษตรกร จ.ราชบุรี ในนาม “ไร่สุขพ่วง” ศูนย์เรียนรู้ Eart Safe อินทรีย์วิถีไทย โดยการทำไร่นาสวนผสมทั้งการปลูกพืชที่ปฏิเสธเคมีทุกชนิด และเลี้ยงสัตว์แบบอินทรีย์ ไม่กักขัง ไม่ใช่ยาปฏิชีวนะและฮอร์โมนเร่งในสัตว์ มีทั้งไก่ไข่ เป็ด หมูป่า ปลา ฯลฯ 5. น.ส. นวลลออ เทอดเกียรติกุล เกษตรกร จ.ราชบุรี ผู้ผลิตมะพร้าวน้ำหอมสดและแปรรูป ในนาม “Aromatic Farm” เน้นการบริหารจัดการความเสี่ยงแบบองค์รวม คือการรวมกลุ่มเครือข่ายในอุตสาหกรรมมะพร้าว (Cluster มะพร้าวน้ำหอมดำเนินสะดวก) มีการจัดการที่ตอบสนองความต้องของผู้บริโภคที่ต้องการสินค้าจากเกษตรกรโดยตรง ด้วยความใส่ใจ ได้มาตรฐาน สดใหม่ 6. นายเฉลิมพงษ์ ชาติวัฒนา เกษตรกร จ.สงขลา ผู้ปลูกพืชผสมผสานและสร้างชื่อด้วยการเลี้ยงแพะนม โดยนำมามาแปรรูปเป็นไอศกรีมนมแพะ “บายใจ” วางจำหน่ายในร้านเซเว่น 5 สาขา ในจังหวัดสงขลา 7. น.ส. นาริน พวงทอง เกษตรกร จ.สมุทรปราการ ผู้เพาะเห็ดถั่งเช่าสีทอง “Gody G” จุดเด่นสามารถเพาะเห็ดได้ตลอดปี มีรายได้สูง เพราะทำในห้องควบคุมอุณหภูมิและห้องปลอดเชื้อ ที่สำคัญแปรรูปเป็นแคปซูลเห็ดทั้งเช่า มีมาตรฐาน อย. GMP Q พร้อมทั้งเปิดศูนย์อบรมการเพาะเห็ดถังเช่าและเห็ดอื่นๆให้คนไทยและต่างชาติที่สนใจ
สำหรับรางวัลอีกประเภทหนึ่ง ซึ่งถือเป็นรางวัลสูงสุดของการประกวดในครั้งนี้ คือ รางวัลเกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิดประจำปี 2560 ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศ คือ น.ส.จิราวรรณ คำซาว เกษตรกรผู้เพาะเห็ดถั่งเช่าจากปุ๋ยชีวภาพ จาก จ.เชียงใหม่ โดยชูจุดเด่นด้านนวัตกรรม พัฒนาสินค้าเกษตรอินทรีย์ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน และมีแนวโน้มเติบโตในอนาคต โดยนำความรู้ที่เรียนในระดับปริญญาเอก มาต่อยอดพัฒนาปุ๋ยชีวภาพทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมี สร้างแบรนด์ของตัวเอง ทั้งยังใช้เทคโนโลยีคิวอาร์โค้ด ทำให้ผู้บริโภคตรวจสอบที่มาของสินค้าได้ นอกจากนี้ ยังรวมกลุ่มกับวิสาหกิจชุมชนกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น
ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ นายพิเชษฐ์ กันทะวงศ์ เกษตรกรผู้เพาะปลูกเมล่อน ภายใต้แบรนด์โอโซนฟาร์ม จากจังหวัดเชียงราย โดยยึดหลักเกษตรอินทรีย์ ปลูกพืชโดยไม่พึ่งสารเคมี เป็นทางเลือกใหม่เพื่อสุขภาพที่ดีกว่าของผู้บริโภค ภายใต้การบริหารจัดการและควบคุมคุณภาพผลผลิตที่ยึดมั่นตามมาตรฐานหลักการทำเกษตรที่ดีของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (GAP) นอกจากนี้ ยังสร้างแบรนด์ด้วยการตลาดออนไลน์ผ่านเฟสบุกแฟนเพจ โดยมีผู้ติดตามกว่า 42,000 คน และพัฒนาสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์หรือสินค้าใหม่ๆที่ต่อยอดจากเมล่อนอีกหลายรายการ และรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ นางสาวสิริพร เที่ยงสันเที้ยะ เกษตรกรยุคดิจิทัล ผู้ปลูกข้าวไรซ์เบอรี่จากไร่พวงทรัพย์ จังหวัดสุพรรณบุรี ที่ต้องการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำนาในอดีตที่ใช้สารเคมีอย่างหนักในการกำจัดศัตรูพืชมาเป็นการทำนาแบบปลอดสารพิษ เพราะเล็งเห็นว่าการรับประทานข้าวที่ปลูกโดยสารเคมีนั้น ไม่ต่างจาการรับประทานข้าวอาบยา ซึ่งมีอันตรายต่อร่างกายเป็นอย่างมาก โดยใช้นวัตกรรมสมัยใหม่ผสานกับภูมิปัญญาไทย โดยประยุกต์การตากข้าวแบบธรรมชาติร่วมกับเทคโนโลยีการสีและบรรจุหีบห่อด้วยเครื่องสุญญากาศ ทำให้การเก็บรักษามีอายุที่ยาวนานขึ้น
อนึ่ง ผู้ได้รับการคัดเลือกจะได้รับเงินสนับสนุนเกษตรกรพร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ กล่าวคือ 1. รางวัลชนะเลิศ จำนวน 1 รางวัล รับเงินสนับสนุน 100,000 บาท 2. รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 จำนวน 1 รางวัล รับเงินสนับสนุน 80,000 บาท 3. รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 จำนวน 1 รางวัล รับเงินสนับสนุน 60,000 บาท 4. เกษตรกรดีเด่น จำนวน 7 รางวัล รับเงินสนับสนุนท่านละ 30,000 บาท
เบื้องหลังการคัดเลือก…
สำหรับการคัดเลือกเกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิด ประจำปี 2560 มุ่งเน้นเกษตรกรรุ่นใหม่ที่ทำ “เกษตรแบบครบวงจร” ด้วยการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เหมาะสม (เกษตร 4.0) ซึ่งได้กำหนดคุณลักษณะสำคัญ ดังนี้
- มีทักษะการบริหารจัดการ พื้นที่เกษตรกรรม แรงงาน ทุน การเพาะปลูก เพาะเลี้ยง การแปรรูปที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค เป็นไปตามระบบมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหาร โดยอยู่บนพื้นฐานการใช้ทักษะ องค์ความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ ประยุกต์ภูมิปัญญาท้องถิ่นผสมผสานการใช้นวัตกรรมและมุ่งมั่นยกระดับผลิตภัณฑ์การเกษตรให้มีคุณภาพมากขึ้น
- มีทักษะความเป็นเกษตรกรมืออาชีพ เป็น Smart farmer ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ความรู้นำมาใช้ในการบริหารจัดการพื้นที่การเกษตรของตนเองให้มีประสิทธิภาพ เปลี่ยนการเกษตรแบบดั้งเดิมไปสู่การเกษตรสมัยใหม่ ที่เน้นการบริหารจัดการและใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยรู้จักวางแผนในเชิงธุรกิจ ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมสร้างการตลาดนำการผลิต ตลอดจนมีความพร้อมในการแบ่งปันบทเรียนและถ่ายทอดประสบการณ์ความสำเร็จแก่สาธารณะ
สำหรับเบื้องหลังการค้นหาเกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ มีความยากที่จะคัดเลือกว่าเกษตรกรคนใดควรจะได้รับ เนื่องจากระยะหลังๆมานี้มีเกษตรกรรุ่นใหม่เกิดขึ้นเยอะ แต่ในที่สุดคณะกรรมการก็ได้มีมติคัดเลือกดังกล่าวแล้ว
- รายชื่อคณะกรรม คัดเลือกเกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิด
- คุณยุพา อินทราเวช ผู้เชี่ยวชาญด้านส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
- คุณภาณี บุณยเกื้อกูล ผู้อำนวยการกองพัฒนาเกษตรกร กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
- ผศ.ดร.ธนิต พุทธพงษ์ศิริพร หัวหน้าภาควิชาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมเกษตร คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- คุณอรอุมา ฤกษ์พัฒนาพิพัฒน ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานสื่อสารองค์กรและการพัฒนาที่ยั่งยืน บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด
- คุณอภิรัตน์ หวานชะเอม Principle Visionary Architect KASIKORN Business-Technology Group
- คุณประพันธ์ จิวะพงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการพัฒนาอย่ายั่งยืน บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด
- คุณบุญระวี ไชยเดช Deputy CEO บริษัท รักบ้านเกิด จำกัด
- คุณศุภรัตน์ เบญจรงคกุล Deputy COO บริษัท รักบ้านเกิด จำกัด
- คุณกิตติมา เลิศสกุลทอง กรรมการและเลขานุการ มูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด
สำหรับบรรยากาศในพิธีรับมอบรางวัลถือว่าคึกคักทีเดียว “เกษตรก้าวไกล” และ “เกษตรโว้ย” ในฐานะเว็บไซต์ข่าวเกษตร ขอแสดงความยินดีกับเกษตรกรทุกคนที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ และขอบคุณผู้จัดงานที่ได้สร้างสรรค์สิ่งดีๆต่อวงการเกษตรประเทศไทย