ตาก- 12 ธันวาคม 2560 – มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ร่วมกับ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เดินหน้าส่งเสริมภาวะโภชนาการที่ดีให้เด็กนักเรียนทั่วประเทศ ปีนี้ส่งมอบเพิ่มอีก 70 โรงเรียน ให้นักเรียน 16,700 คน ได้รับโปรตีนคุณภาพดี ชุมชนใกล้เคียงได้บริโภคไข่สดราคาย่อมเยา

ในปีนี้พิธีส่งมอบโครงการจัดขึ้นที่่โรงเรียนไทยราษฎร์คีรี ต.ช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก โดยมีตัวแทนของโรงเรียนเครือข่ายในโครงการฯ พร้อมด้วยผู้นำชุมชนและผู้บริหารซีพีเอฟร่วมโครงการในครั้งนี้ ซึ่งครอบคลุมโรงเรียนในพื้นที่ภาคเหนือ 25 โรงเรียน ภาคกลาง 8 โรงเรียน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 27 โรงเรียน และภาคใต้ 10 โรงเรียน พันธุ์ไก่ไข่รวม 11,000 ตัว อาหารสัตว์จำนวน 440,000 กิโลกรัม มูลค่ารวม 17 ล้านบาท

นางนงนุช ชุมภูเทพ ผู้อำนวยการโรงเรียนไทยราษฎร์คีรี กล่าวว่า “โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน” ที่ได้รับการสนับสนุนจากซีพีเอฟโดยผ่านมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท จะทำให้นักเรียนได้บริโภคโปรตีนคุณภาพดีจากไข่ไก่ได้ 2-3 วันต่อสัปดาห์ เป็นการส่งเสริมให้เด็กมีสุขภาพพลานามัยแข็งแรง ลดภาวะทุพโภชนาการในเด็ก โดยโรงเรียนตั้งใจดำเนินการและบูรณาการสู่การเรียนการสอน ต่อยอดกิจกรรมเพื่อให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้และมีทักษะในการประกอบอาชีพ หลังจากที่ได้รับการถ่ายทอดความรู้การเลี้ยงสัตว์และรับมอบโครงการแล้ว

ซีพีเอฟมอบโครงการเลี้ยงไก่ไข่ให้กับโรงเรียนไทยราษฎร์คีรี
ซีพีเอฟมอบโครงการเลี้ยงไก่ไข่ให้กับโรงเรียนไทยราษฎร์คีรี

ปัจจุบัน โรงเรียนไทยราษฎร์คีรี มีนักเรียน 622 คน เปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่1-6  ซึ่ง 80% ของจำนวนนักเรียนเป็นเด็กชาวเขาหลายชนเผ่า เช่น พม่า กะเหรี่ยง มอญ และม้งซึ่งคิดเป็น 50% ของทั้งหมด และส่วนใหญ่ผู้ปกครองมีฐานะยากจน ประกอบอาชีพด้านการเกษตร มีรายได้ไม่แน่นอน ที่ผ่านมาโรงเรียนพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้เด็กๆได้รับโภชนาการที่ดี จากการดำเนินโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน ทั้งปลูกผักตามฤดูกาล  เพาะเห็ดจิ๋ว เลี้ยงกบ และเลี้ยงปลา เพื่อใช้ปรุงอาหารกลางวันให้กับนักเรียน ทำให้ภาวะทุพโภชนาการลดลง

 “โรงเรียนได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ใจดีทั้ง 2 องค์กร ซึ่งโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน ทำให้เด็กๆได้เรียนรู้เรื่องการเลี้ยงไก่ไข่ การทำบัญชีจากผลผลิตไข่ไก่ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเด็กๆ ในอนาคตหลังจากที่จบการศึกษาไปแล้วสามารถนำไปประกอบอาชีพได้” ผู้อำนวยการโรงเรียนกล่าว

นายชุติเดช มีจันทร์ ปลัดจังหวัดตาก กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่โรงเรียนไทยราษฎร์คีรี ได้รับการคัดเลือกให้เป็นตัวแทนของ 70 โรงเรียนทั่วประเทศที่ได้รับการสนับสนุนโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน ซึ่งทุกโรงเรียนที่ได้รับการสนับสนุนโครงการในครั้งนี้ จะนำไปพัฒนาและต่อยอดโครงการไปสู่การเป็นต้นแบบแห่งการพัฒนาอย่างยั่งยืน

นายสุขสันต์ เจียมใจสว่างฤกษ์ ประธานคณะผู้บริหารธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) ซีพีเอฟ  กล่าวว่า ในฐานะผู้ผลิตอาหารชั้นนำ บริษัทให้ความสำคัญกับอาหารมั่นคงและการเข้าถึงอาหารภายใต้วิสัยทัศน์ “ครัวของโลก” เพื่อให้คนไทยและผู้บริโภคทั่วโลกได้บริโภคอาหารปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมโภชนาการที่ดีให้เด็กนักเรียนซึ่งเป็นอนาคตของชาติ รวมไปถึงการแก้ปัญหาทุพโภชนาการของคนในประเทศ

โรงเรียนไทยราษฎร์คีรี ที่ได้รับการสนับสนุนโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวัน
โรงเรียนไทยราษฎร์คีรี ที่ได้รับการสนับสนุนโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวัน

“การรับผิดชอบต่อสังคมเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของบริษัท โดยเฉพาะการส่งมอบโครงการในวันนี้แก่ 70 โรงเรียน จะทำให้นักเรียน 16,700 คน ได้รับอาหารปลอดภัยและมีคุณภาพ ซึ่งจะช่วยยกระดับโภชนาการของคนไทยอย่างยั่งยืน” นายสุขสันต์ กล่าว

ด้านนายอภัยชนม์ วัชรสินธุ์ กรรมการและเลขาธิการ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท กล่าวว่า กว่า 20 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิฯน้อมนำงานตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาสนับสนุนให้แก่โรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร ซึ่งปัจจุบันมีโรงเรียนทั่วประเทศ 660 แห่งเข้าร่วมโครงการฯ ประกอบด้วย โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) 128 แห่ง โรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และอื่นๆ 532 แห่ง ส่งผลให้นักเรียน 140,000 คน ครูกว่า 8,000 คน และชุมชน 900 ชุมชนได้รับประโยชน์  ซึ่งการดำเนินโครงการได้รับการสนับสนุนจากซีพีเอฟในการจัดสรรผู้ชำนาญการและสัตวบาลมาร่วมพิจารณาคัดเลือกโรงเรียนร่วมโครงการ ติดตามให้ความรู้ ให้คำแนะนำปรึกษาด้านการเลี้ยงการจัดการแก่ครูและนักเรียนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศมาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับปี 2561 มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบทเปิดรับสมัครโรงเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาทั่วทุกภาคเข้าร่วมโครงการ โดยมีเป้าหมายคัดเลือกโรงเรียนที่มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดของโครงการจำนวน 90 โรงเรียน จากโรงเรียนที่สมัครเข้ามาทั้งหมด 200 กว่าโรงเรียน และมีเป้าหมายภายในปี 2564 จะมีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียนจำนวน 1,000 โรงเรียน

SIMA_webbanner_468x90_TH_animated