นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ
นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ

นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เผยว่า นับเป็นข่าวดีสำหรับพี่น้องเกษตรกรไทยทั้งประเทศ จากการได้พูดคุยหารือกันถึง 2 ครั้งกับพลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในเรื่องของการส่งเสริมการปลูกไม้เศรษฐกิจ รัฐมนตรียืนยันว่ากำลังแก้กฎหมายในมาตรา 7 ของพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 เพื่อจะให้เกษตรกรสามารถปลูกไม้ได้ทุกชนิดบนพื้นที่กรรมสิทธิ์ของตนเอง ทั้งโฉนด น.ส.3 , ส.ป.ก. , น.ค. และอื่นๆ ซึ่งจะทำให้พื้นที่เหล่านั้นได้ใช้ประโยชน์ได้หลากหลายมากกว่าพืชเกษตร 3 – 4 ชนิด เช่น ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง อ้อย ทั้งหมดมีราคาถูก ทำเท่าไหร่ก็มีแต่หนี้   ไม้ที่ปลูกในพื้นที่กรรมสิทธิ์ของเกษตรกรทั้งหมดสามารถจะใช้ประโยชน์ได้อย่างเสรี  พืชผล , ต้นไม้บนที่ทำกินของเกษตรกรต้องเป็นของเกษตรกร กฎหมายต้องละเว้นให้สามารถ ตัด ฟัน แปรรูป ทำการค้า ขายได้ โดยเจ้าหน้าที่ป่าไม้จะเข้ามาดูแลอำนวยความสะดวกให้  ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีป่าไม้เพิ่มขึ้นจำนวนมากมาย สามารถสร้างเศรษฐกิจให้ไทยโดยรวมได้มหาศาล เกษตรกรสามารถทำการผลิตในพื้นที่ของตนเองได้มั่นคงมากยิ่งขึ้น โดยในขณะนี้กำลังมีการรับฟังความคิดเห็นในการแก้ไขกฎหมายดังกล่าว   สำหรับการส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาปลูกไม้ยืนต้นโดยรัฐบาลจัดโครงสร้างสินเชื่อระยะยาวให้ เชื่อมั่นได้ว่าจะทำให้เกษตรกรหันมาปลูกไม้ยืนต้นมากขึ้น  ยังมีไม้อีกหลายชนิดให้ปลูกที่น่าสนใจ เช่น ภาคอีสาน ไม้พยุง ภาคใต้ ไม้เทพทาโร จำปาทอง ภาคเหนือ ไม้ฝาง ไม้บง ไม้สัก ไม้ชิงชัน ไม้ไผ่ หลากหลายชนิด ปลูกในอายุ 3 – 4 ปี ก็มีผลผลิตสร้างรายได้ให้ได้แล้ว และเกิดความหลากหลายในที่ทำกินของตนเอง ซึ่งจากนี้ไปจะเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อร่วมทำแผนส่งเสริมเกษตรกรร่วมกัน  อย่างไรก็ตาม ได้มีโอกาสนำเสนอเรื่องการปลูกไผ่กับนายกรัฐมนตรีในครั้งที่จัดครม.สัญจรที่ จ.พิษณุโลก ท่านเห็นด้วยในการให้เกษตรกรพื้นที่ทับซ้อนกับพื้นที่ขัดแย้ง พื้นที่ที่เกษตรกรทำกินอยู่โดยไม่มีเอกสารสิทธิ์หันมาส่งเสริมการปลูกไผ่ควบคู่ไม้ยืนต้น แล้วได้เป็นมติคณะรัฐมนตรีให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงทรัพยากรฯทำแผนร่วมกัน ซึ่งจะเข้าพบทั้ง 2 หน่วยงานเพื่ออาสาทำแผนงานอีกครั้ง

SIMA_webbanner_468x90_TH_animated