กรมส่งเสริมฯขีดเส้นชาวนาเร่งแจ้งปรับปรุงทะเบียน ผู้เข้าร่วมโครงการปลูกพืชหลากหลายและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทดแทนการทำนาปรังปี 61 ภายใน 31 ม.ค. 61 เพื่อรักษาสิทธิรับเงินอุดหนุนไร่ละ2พัน
นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า ตามที่กรมส่งเสริมการเกษตรรับสมัครเกษตรกรเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการปลูกพืชหลากหลาย ฤดูนาปรัง ปี 2561 และโครงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฤดูแล้งหลังนาปี 2560/61 โดยรัฐสนับสนุนเงินเป็นค่าใช้จ่ายการปลูกพืชทางเลือกอื่นไร่ละ 2,000 บาท แต่ไม่เกิน 15 ไร่ ขณะนี้ได้มอบหมายให้แต่ละจังหวัดเร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรที่เข้าโครงการฯ แจ้งปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร หลังการเพาะปลูกแล้ว 15 วัน ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่งใกล้บ้าน เพื่อรักษาสิทธิ์ในการสนับสนุนเงินช่วยเหลือจากภาครัฐ
สำหรับความคืบหน้าในการดำเนินโครงการส่งเสริมการปลูกพืชหลากหลาย ฤดูนาปรัง ปี 2561มีเกษตรกรจาก 53 จังหวัดเป้าหมาย เข้าร่วมจำนวน 40,635 ราย คิดเป็นพื้นที่ 342,678.25 ไร่ จากเป้าหมาย 450,000 ไร่ คิดเป็น 76.15 % โดยเงื่อนไขในการปรับเปลี่ยนการปลูกข้าวไปปลูกพืชที่หลากหลาย กรมส่งเสริมการเกษตรจะเน้นส่งเสริมการปลูกพืชตามความต้องการของเกษตรกร ยกเว้น หญ้าเลี้ยงสัตว์ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ อ้อย เผือก พืชปุ๋ยสด ไม้ดอกไม้ประดับ ไม้ผลไม้ยืนต้นและพืชที่มีอายุเก็บเกี่ยวมากกว่า 120 วันและพื้นที่ดังกล่าวต้องไม่ปลูกข้าวในช่วงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 – 30 เมษายน 2561 ทั้งนี้ยกเว้นพื้นที่รับน้ำที่มีประกาศให้ทำนาปีเร็วขึ้น โดยเกษตรกรสามารถเลือกช่วงระยะเวลาปลูกพืชหลากหลายได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 60- 28 กุมภาพันธ์ 61
ส่วนโครงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฤดูแล้งหลังนา ปี 2560/61 ครอบคลุมพื้นที่ 31 จังหวัด มีพื้นที่เป้าหมายรวม 700,000 ไร่ เกษตรกร 47,000 ราย มีเกษตรกรเข้าร่วม 84,581 ราย คิดเป็นพื้นที่รวม 615,313.31 ไร่
สำหรับคุณสมบัติของเกษตรกรที่เข้าโครงการจะต้องเป็นผู้ที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว (นาปี) ภายใน 4 ปีที่ผ่านมา (ปี 2557 – 2560) อย่างน้อยหนึ่งปี และพื้นที่เข้าร่วมโครงการต้องเป็นพื้นที่นาที่ทางราชการออกเอกสารสิทธิ์ให้ราษฎรตามกฎหมาย ตั้งแต่ 1 ไร่ขึ้นไปแต่ไม่เกิน 15 ไร่ ในเขตชลประทาน หรือนอกเขตชลประทานที่มีแหล่งน้ำธรรมชาติหรือแหล่งน้ำอื่นๆที่มีน้ำเพียงพอเหมาะสมกับการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฤดูแล้งหลังนาตลอดฤดูปลูก และจะต้องไม่เป็นพื้นที่ซ้ำซ้อนกับพื้นที่ที่เข้าร่วมโครงการอื่นที่มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับเปลี่ยนพื้นที่ปลูกข้าวในฤดูนาปรังและจะต้องไม่ใช่พื้นที่ที่เข้าร่วมโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับเปลี่ยนพื้นที่ปลูกข้าวไปประกอบกิจกรรมอื่นเป็นการถาวรแล้ว โดยเกษตรกรจะต้องรีบมายืนยันการปลูกภายใน 31 มกราคม 2561 เท่านั้น
ส่วนกรณีเกษตรกรที่มีการเพาะปลูกพืชตามโครงการที่ตนเองเลือกแล้ว 15 วันแต่ไม่เกิน 60 วัน ให้รีบมาแจ้งยืนยันการเพาะปลูกพืชกับเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอทราบ เพื่อทำการตรวจสอบพื้นที่ และบันทึกข้อมูลลงระบบว่าได้ทำการเพาะปลูกแล้ว เพื่อรอรับเงินสนับสนุนจาก ธ.ก.ส ไร่ละ 2,000 ต่อไป ซึ่งหากพ้นช่วงดังกล่าวจะถือว่าเกษตรกรปฏิบัติผิดเงื่อนไขก็จะต้องถูกตัดสิทธิเข้าร่วมโครงการในทันที
“นอกจากการที่รัฐให้งบสนับสนุนนการปลูกพืชหลากหลายและข้าวโพดไร่ละ 2,000 แทนการทำนาปรังแล้ว กรมส่งเสริมการเกษตรได้มอบหมายให้ทุกจังหวัดเร่งลงไปถ่ายทอดองค์ความรู้ในการผลิตพืชทดแทน ตลอดจนจัดหาตลาดรองรับเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ชาวนา รวมทั้งจัดการเรียนรู้ให้ชาวนามีความรู้ความเข้าใจในสถานการณ์การผลิตข้าว ประโยชน์ของการลดรอบการปลูกข้าว และความรู้ในการผลิตพืชที่ชาวนาเลือก ให้มีความสามารถในการผลิตพืชทางเลือก และใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจ ปรับเปลี่ยนพื้นที่การปลูกข้าวไปปลูกพืชอื่นในระยะยาวต่อไปอีกด้วย” นายสมชาย กล่าว