นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยถึง การส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ที่ได้ดำเนินการมาในตั้งแต่ช่วง 3 ปี ปัจจุบัน (ปี 2559 – 2561) ดำเนินการได้ถึง 3,029 แปลง พื้นที่ 3,724,607 ไร่ จำนวนเกษตรกร 277,127 ราย ใน 11 กลุ่มสินค้า ผลการดำเนินการที่ผ่านมาทำให้สามารถลดต้นทุน และ เพิ่มผลผลิตโดยเฉลี่ยได้ตามเป้าหมาย ปี 2560 จาก 1 ฤดูกาลผลิต สร้างมูลค่าเพิ่มจาก ลดต้นทุน 3,007.83 ล้านบาท
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตลาดผลไม้ที่ดำเนินการโดยกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ ทุเรียน จากผลการดำเนินงานรวม สะสม 2 ปี ทำให้สามารถคิดเป็นมูลค่า ลดต้นทุนรวม 58.64 ล้านบาท ผลผลิตเพิ่ม 497.90 ล้านบาท
ปัจจุบันเกษตรมีแปลงใหญ่ผลไม้ ทั้งสิ้น 277 แห่ง ในหลากหลายชนิดพืช เช่น ทุเรียน , มะม่วง , มังคุด เป็นต้น โดยเฉพาะ ในพื้นที่ จ.ตราด ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา มีแปลงใหญ่ ทุเรียน จำนวน 7 แปลง แบ่งเป็น คิดเป็นพื้นที่ 2,943 ไร่ สมาชิก 305 ราย และเกษตรกรสนใจเข้าร่วมผลิตสินค้าพรีเมี่ยมกว่า ร้อยละ 20 ของพื้นที่ และนอกจากนี้ยังสามารถจำหน่ายผลผลิตจำนวน 1,040 ตัน คิดเป็นมูลค่า 87.6 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นทั้งตลาดบน เกษตรกรแปลงใหญ่สามารถผลิต ทุเรียนเกรดส่งออก สินค้าพรีเมี่ยมได้ จำนวน 220 ตัน คิดเป็นมูลค่า 22 ล้านบาท โดยจำหน่ายไปยังห้างสรรพสินค้าชั้นนำต่าง ๆ นอกจากนี้ยังสามารถ จำหน่ายผลผลิตในตลาดล่าง ทุเรียนเกรดรอง จำนวน 820 ตัน คิดเป็นมูลค่า 65.6 ล้านบาท โดยจำหน่าย ผ่านกลุ่มสหกรณ์ไปยัง ต่างประเทศ เช่น จีน เวียดนาม
“สำหรับการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่วันนี้ มั่นใจ เดินมาถูกทาง เริ่มเห็นผลกับเกษตรกรอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากมูลค่าของการลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตจะมากขึ้น เกษตรกรแปลงใหญ่เองยังเรียนรู้ในการผลิตสินค้าให้ได้คุณภาพ มองเห็นประโยชน์ในการรวมกลุ่มกันผลิต รวมกันขาย เกษตรกรมีอำนาจในการต่อรองกับ กลุ่มผู้จำหน่ายสินค้า และเลือกที่จะผลิตสินค้าให้มีคุณภาพมากขึ้น ซึ่งจากการลงพื้นที่ อ.เขาสมิง จ.ตราด ทำให้มั่นใจเพิ่มขึ้นว่า เกษตรกรแปลงใหญ่วันนี้ เข้าใจสถานการณ์ทางการเกษตร และพร้อมที่จะปรับตัวให้ผลไม้ของตัวเองเป็นผลไม้ที่มีคุณภาพ เพิ่มความมั่นใจให้กับผู้บริโภค และสามารถจำหน่ายได้ในราคาสูง ไม่กังวลกับการขายผ่านพ่อค้าคนกลาง เพราะมีตลาดแน่นนอนสามารถจำหน่ายให้กับสหกรณ์ที่รับซื้อผลผลิตได้” นายสมชาย กล่าว