วันที่ 7 มีนาคม 2561 เวลา 11.00 น. นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า ตามที่กรมฝนหลวงและการบินเษตร ได้รับแจ้งการขอรับบริการสนับสนุนฝนหลวง ในพื้นที่ภาคตะวันออก บริเวณพื้นที่ปลูกลำไยนอกเขตชลประทาน จำนวน 200,000 ไร่ บริเวณอำเภอสอยดาว อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี พื้นที่ปลูกพืชผักและผลไม้ จำนวน 1,000 ไร่ บริเวณอำเภอเมือง จังหวัดระยอง และพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง 2,250 ไร่ อ้อยโรงงาน 1,000 ไร่ และหญ้าเนเปียร์ 1,000 ไร่ บริเวณอำเภอ อรัญประเทศและอำเภอวังสมบูรณ์ จังหวัดสระแก้ว จึงได้สั่งการให้หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดจันทบุรี ปฏิบัติการให้กับพื้นที่ดังกล่าว และได้ทำการแจ้งประชาสัมพันธ์จังหวัด และสำนักงานป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยจังหวัด ของจังหวัดจันทบุรีและสระแก้วล่วงหน้าก่อนการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่เป้าหมาย เพื่อให้ประชาชนและเกษตรกรได้รับทราบ
โดยหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจันทบุรี ปฏิบัติภารกิจตามตำราฝนหลวงพระราชทาน 3 ขั้นตอนจำนวน 9 เที่ยวบิน 12.30 ชั่วโมงบิน โดยเครื่องบินชนิด CARAVAN จำนวน 3 ลำ คือ ภารกิจที่ 1 ขั้นตอนก่อกวน ใช้สารฝนหลวงสูตร 1(4/1) จำนวน 2,100 กิโลกรัม บริเวณแนวชายแดนของจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดสระแก้ว ภารกิจที่ 2 ขั้นตอนเลี้ยงให้อ้วน ใช้สารฝนหลวงสูตร 1(4/1) จำนวน 1,400 กิโลกรัม สูตร 8 จำนวน 700 กิโลกรัม บริเวณทิศใต้ อำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว ถึงอำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี และภารกิจที่ 3 ขั้นตอนโจมตี ใช้สารฝนหลวงสูตร 1(4/1) จำนวน 700 กิโลกรัม สูตร 4 จำนวน 1,000 กิโลกรัม และสูตร 3 จำนวน 500 กิโลกรัม บริเวณพื้นที่อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว โดยผลปฏิบัติการฝนหลวงพบว่า มีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลางคลอบคลุมเต็มพื้นที่อำเภอโป่งน้ำร้อนและอำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี บริเวณอำเภอวังสมบูรณ์ คลองหาด วังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว และบริเวณพื้นที่ลุ่มรับน้ำอ่างเก็บน้ำคลองพระพุทธ ซึ่งส่งผลให้เกษตรกรได้รับน้ำเพื่อใช้ในการเกษตรเพิ่มขึ้น ลดปัญหาการขาดแคลนน้ำของพืชได้เป็นอย่างดี
นายสุรสีห์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตามกรมฝนหลวงและการบินเกษตรจะติดตามสถานการณ์ปัญหาภัยแล้งทุกภูมิภาคทุกวัน เพื่อปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่ประสบปัญหาภัยแล้ง ทั้งนี้ ประชาชนหรือเกษตรกร สามารถแจ้งขอรับบริการฝนหลวงได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงทั้ง 5 ภูมิภาค (จังหวัดเชียงใหม่ นครสวรรค์ ขอนแก่น ระยอง และสุราษฎร์ธานี) หรือติดตามข้อมูลข่าวสารได้ทางเพจเฟซบุ๊กกรมฝนหลวงและการบินเกษตร และเว็บไซต์กรมฝนหลวงและการบินเกษตร