ข่าว ปุ๋ยยารา/เกษตรก้าวไกล—บริษัท ยารา (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายปุ๋ยธาตุอาหารคุณภาพสูงจากประเทศนอร์เวย์ และเป็นผู้นำในระดับโลกมากว่า 113 ปี เปิดกลยุทธ์ประเทศไทยขานรับก้าวย่างสำคัญของการพัฒนาประเทศไปสู่ยุค “ไทยแลนด์ 4.0” พร้อมออกโฆษณาและจัดกิจกรรมสนับสนุนฤดูเก็บเกี่ยวต้นฝน มั่นใจพืชเศรษฐกิจ 5 ตัวหลัก ทุเรียนมีแนวโน้มดีที่สุด https://www.facebook.com/kasetkaoklai/videos/2000156750303023/
นาย เมดิ เซนท์-อังเดร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยารา (ประเทศไทย) จำกัด และรองประธานกลุ่มธุรกิจโภชนาการพืช หรือ Crop Nutrition กล่าวกับคณะสื่อมวลชนที่มาเยี่ยมชมโรงงานบรรจุปุ๋ยยาราที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเมื่อเร็วๆนี้ ถึงเป้าหมายและวิสัยทัศน์ ที่ขอเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนภาคเกษตรกรรมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนว่า
“สำหรับยารา ประเทศไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพด้านการเกษตรและปุ๋ยสูงเป็นอันดับต้นๆทั้งในระดับโลก และภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะมีการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมอย่างไม่หยุดยั้ง แต่ภาคการเกษตรก็ยังเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนประเทศ และสนับสนุนอาหารของประชากร ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ที่มุ่งสนับสนุนภาคเกษตรกรรมไทยมาตลอด 45 ปีที่เราจำหน่ายปุ๋ยยาราในประเทศ เรามีความแข็งแกร่งทั้งทางความรู้และเทคโนโลยีที่จะช่วยสนับสนุนเกษตรกรไทย เรามีประสบการณ์และการพัฒนามาอย่างยาวนาน ยาราเป็นบริษัทปุ๋ยแห่งแรกของโลก ที่ดึงเอาไนโตรเจนจากอากาศ มาอยู่ในรูปแบบเม็ดปุ๋ยธาตุอาหาร จนได้รับยกย่องให้เป็นหนึ่งในนวัตกรรมอันยิ่งใหญ่ของโลกและประเทศนอร์เวย์ นับเป็นจุดเปลี่ยนก้าวใหม่ที่สำคัญของโลกเมื่อ 113 ปีที่แล้ว และเราได้นำเทคโนโลยีและองค์ความรู้ต่างๆเหล่านี้มาต่อยอดจนทุกวันนี้”
“อย่างที่ทราบกันดีว่า ประเทศไทยได้ก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ตามแผนยุทธศาสตร์และนโยบายแห่งชาติ หรือ “ไทยแลนด์ 4.0” เป็นยุคเศรษฐกิจแบบล้ำหน้า ซึ่งสอดคล้องกับปณิธานของยารา ที่ต้องการร่วมขับเคลื่อนเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจชาติ ในปี 2561 นี้เองที่ทางบริษัทฯ ก็ได้ตั้งแนวทาง “YARA Thailand 4.0” เน้นการนำเทคโนโลยีและสื่อดิจิทัลเข้ามาช่วยสื่อสารและให้ความรู้กับเกษตรกร ติดอาวุธทางปัญญา ให้พึ่งพาตัวเองได้ และเติบโตไปพร้อมๆกับเรา”
นาย เมดิ เซนท์-อังเดร์ ยังได้กล่าวต่ออีกว่า “ยาราเราเป็นบริษัทปุ๋ยรายแรกในอุตสาหกรรมเกษตรไทย ที่ลงทุนกับการสื่อสารทางเฟคบุ๊ก และเริ่มสร้างสังคมออนไลน์ในรูปแบบคอมมูนิตี้อย่างจริงจัง และในปีนี้เองที่ทางบริษัทฯ จะเน้นกิจกรรมเสริมสร้างองค์ความรู้ เทคนิคต่างๆ เผยแพร่ผ่านช่องทางโซเชียล เน็ตเวิร์กอย่างจริงจังมากขึ้น เช่น ไลน์ หรือยูทูป เพื่อให้เกษตรกรได้รับความรู้ วิธีใช้ เทคนิคต่างๆ สามารถปรึกษาปัญหากับผู้เชี่ยวชาญ เพื่อนำไปต่อยอดได้ทันท่วงที และนอกจากนี้ ยารายังมีแอพพลิเคชั่นทางไอแพ็ดที่จะเป็นเครื่องมือให้เกษตรกรได้เข้าใจปัญหาของพืช และได้รับคำแนะนำการเลือกใช้ปุ๋ยอย่างถูกต้องด้วยตัวเองอีกด้วย”
“สำหรับยารา เกษตรกร คือหัวใจของเรา หรือเราเรียกว่า Farmer Centric เราจะศึกษาและทำความเข้าใจความต้องการและพฤติกรรมของเกษตรกรอย่างลึกซึ้ง และถ่ายทอดความรู้ตามความต้องการของเกษตรกรที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ เรายังมีมุมมองเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ปุ๋ยที่แตกต่างออกไป เราได้แบ่งกลุ่มเกษตรกรออกไปตามกลุ่มพืช เพราะเรารู้ดีว่าเกษตรกรที่ปลูกแต่ละพืชมีความต้องการและวิธีการเพาะปลูกที่แตกต่างกัน ซึ่ง 5 กลุ่มพืชที่สำคัญสำหรับยารา ล้วนแล้วแต่เป็นพืชที่มีความสำคัญในภาคเศรษฐกิจของไทย ได้แก่ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ทุเรียน ลำไย และผักใบ ทุกๆปี เราจะมีกิจกรรมลงพื้นที่ อาทิ งานประชุมเกษตรกร คลินิกพืช แปลงสาธิต ฟิลด์เดย์ และยังมีนักวิชาการเฉพาะทางพืชของยาราที่ออกไปเยี่ยมเยียนตามไร่ตามสวนของเกษตรกร โดยเราจะจัดกิจกรรมเหล่านี้เฉพาะทางตามแต่ละพืชตลอดทั้งปี ส่วนกิจกรรมการสื่อสารในปีนี้ เรายังคงใช้สื่อภาพยนต์โฆษณาที่เราทำเป็นประจำทุกปีมาช่วยประชาสัมพันธ์เหมือนเดิม เราเลือกยางพารา เป็นพืชไฮไลท์ของเราในปีนี้ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ปุ๋ยธาตุอาหาร ยารามิร่า แอดวานซ์ 21-7-14 ที่ช่วยให้น้ำยางหนัก เปอร์เซ็นต์น้ำยางสูงกว่าด้วยเช่นกัน สำหรับภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่เราได้หยิบยกเอาความสำเร็จของ Muscle Guy ที่เกษตรกรยังจดจำกันได้ มาถ่ายทำใหม่เป็นภาคต่อ เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์และสร้างภาพจำให้กับตรายาราอีกด้วย”
และเพื่อให้สมกับการเป็นบริษัทผู้นำด้านนวัตกรรม ยารายังเป็นรายแรก ที่นำเทคโนโลยีการบรรจุผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยที่สุดเข้ามาช่วยเสริมทัพ ในรูปแบบ “หุ่นยนต์อัจฉริยะ” ที่ช่วยให้ขั้นตอนการบรรจุเป็นไปอย่างต่อเนื่อง แม่นยำ และมีการกำหนดเลขหมาย (Serial number) บนกระสอบปุ๋ยทุกกระสอบ เพื่อง่ายในการตรวจเช็ค และรวดเร็วสำหรับบริการหลังการขายด้วย
สิ่งที่ยาราวางแผนและดำเนินการทั้งหมดนี้ เป็นอีกพลังหนึ่งในการสนับสนุนภาคเกษตรกรรม และเกษตรกรไทย ภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 จึงเป็นที่มาของเหตุผลทั้งหมดที่ว่า ทำไมปีนี้ ยาราจึงมุ่งมั่นตั้งใจมากเป็นพิเศษ ก็เพื่อให้สมกับสโลแกนในเวอร์ชั่นภาษาไทยใหม่ที่ว่า “ความรู้ ปลูกแรงบันดาลใจ” เพื่อให้เกษตรกรไทย สามารถเติบโตได้ด้วยตัวเองอย่างยั่งยืน
อนึ่ง ในวันเดียวกันนี้ นาย เมดิ เซนท์-อังเดร์ ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนซักถามอย่างเต็มที่ และมีประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจ โดยสื่อมวลชนได้ถามว่าในบรรดา 5 กลุ่มพืชเศรษฐกิจหลัก ที่ปุ๋ยยารามุ่งเน้นทำตลาด ได้แก่ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ทุเรียน ลำไย และผักใบ คิดว่าพืชตัวไหนน่าจะมีแนวโน้มดีที่สุด เนื่องจากในปีที่ผ่านมา ยางพาราราคาตกต่ำ เช่นเดียวกับปาล์มน้ำมัน…
“ยาราเรามองว่า ทุเรียนน่าจะมีอนาคตดีที่สุด น่าจะเป็นพืชที่ทำกำไรให้กับชาวสวนได้ดีกว่า ที่คิดว่าเป็นทุเรียนเพราะว่า ชาวสวนทุเรียนส่วนใหญ่พัฒนาสู่การเป็นสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ภาครัฐบาลก็ได้ลงทุนไปกับทุเรียนเยอะ มีการดึงอาลีบาบาเข้ามาซื้อขายก็น่าจะทำให้ตลาดขยายกว้างขึ้นดีขึ้น และคิดว่าหากทุเรียนไปได้ดี ก็จะทำให้เศรษฐกิจไปได้ดี และยาราก็จะดีไปด้วยเช่นกัน” นาย เมดิ เซนท์-อังเดร์ กล่าวในที่สุด