กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย กรมการข้าว กำหนดจัดงาน “วันข้าวและชาวนาแห่งชาติ” 2561 ชูแนวคิด “มหัศจรรย์ข้าวพื้นเมือง คุณค่าจากทุ่งนา เพิ่มมูลค่าด้วยนวัตกรรม”
วันนี้ ( 1 มิ.ย.61) นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมการข้าว พร้อมด้วยนายอัษฎางค์ สีหาราช ประธานคณะกรรมการกลางศูนย์ข้าวชุมชนระดับประเทศ ร่วมแถลงข่าวการจัดงาน “วันถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตข้าว ระดับประเทศ ภายใต้โครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ (นาแปลงใหญ่) ปี 2561 เนื่องในวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 – 9 มิถุนายน 2561 ณ บริเวณกรมการข้าว ภายใต้แนวคิด “มหัศจรรย์ข้าวพื้นเมือง คุณค่าจากทุ่งนา เพิ่มมูลค่าด้วยนวัตกรรม” ณ ห้องประชุม 115 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า จากการที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2552 เห็นชอบให้ วันที่ 5 มิถุนายน ของทุกปี เป็น “วันข้าวและชาวนาแห่งชาติ ” เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทย และพระราชวงศ์ทุกพระองค์ที่ทรงให้ความสำคัญต่อกิจการด้านข้าว และเพื่อให้ประชาชนได้รำลึกถึงความสำคัญของข้าว อีกทั้งยังเป็นการเชิดชูเกียรติชาวนาในฐานะกระดูกสันหลังของชาติ รวมทั้งเผยแพร่องค์ความรู้เทคโนโลยีด้านการผลิตข้าวครบวงจร ในปี 2561 นี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมการข้าว จึงได้กำหนดจัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตข้าวระดับประเทศ ภายใต้โครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ (นาแปลงใหญ่) ปี 2561 เนื่องในวันข้าวและชาวนาแห่งชาติขึ้น ซึ่งรัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะยกระดับรายได้ และคุณภาพชีวิตชาวนาไทย เพื่อก้าวสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 ด้วยการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ และใช้แนวทางประชารัฐเพื่อให้ประเทศไทยมีความมั่นคงทางอาหารและมีศักยภาพเป็นผู้นำข้าวในตลาดโลก
อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า ปีนี้ ได้กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 4 – 9 มิถุนายน 2561 ตั้งแต่เวลา 09.00 -18.00 น. ณ กรมการข้าว รวม 6 วัน ภายใต้แนวคิด “มหัศจรรย์ข้าวพื้นเมือง คุณค่าจากทุ่งนา เพิ่มมูลค่าด้วยนวัตกรรม” เนื่องจากข้าวเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของภาคการเกษตร และก่อให้เกิดอุตสาหกรรมต่อเนื่องเป็นจำนวนมาก ซึ่งโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ด้านข้าว เป็นโครงการตามนโยบายที่สำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้การสนับสนุนชาวนามีการรวมกลุ่มมีการบริหารจัดการร่วมกันในการผลิตและจำหน่ายโดยมีตลาดรองรับที่ชัดเจน อีกทั้งยังสามารถให้ชาวนาลดต้นทุนการผลิตเพิ่มศักยภาพการผลิตทำให้ผลผลิตได้มาตรฐาน ซึ่งในปีนี้ จะได้มีการส่งเสริมการปลูกข้าวพันธุ์พื้นเมืองในนาแปลงใหญ่ เพื่อนำไปสู่การยกระดับอาชีพชาวนาไทยและสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชาวนา
นายอนันต์ กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ นิทรรศการสนองโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ นิทรรศการวิชาการจากหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ 1) การจัดแสดงพันธุกรรมข้าวพื้นเมืองและการใช้ประโยชน์ เช่น ข้าวพันธุ์ขะสอ ลืมผัว พญาลืมแกง ซิวเกลี้ยง เหลืองใหญ่ 48 หอมนางนวล ดอกข่า หอมกระดังงา 2) การผลิตข้าวทันสมัยเพื่อยกระดับคุณภาพและรายได้แก่ชาวนา 3) การแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า เช่น ผลิตภัณฑ์ป้องกันผมร่วงที่มีสารสกัดจากข้าวสังข์หยด แผ่นปิดแผลจากสารสกัดข้าว ผลิตภัณฑ์น้ำนมข้าวยาคู 4) การตลาด การสร้างแบรนด์ และ 5) คลินิกเกษตรข้าวเคลื่อนที่ พร้อมทั้งจัดแสดงเครื่องจักรกลการเกษตร การสาธิตใช้โดรนเพื่อการเกษตร เครื่องจักรกลและรถดำนาแบบเดินตาม 4 แถว ฯลฯ
นายอนันต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ยังมีการแสดงผลงานขององค์กรชาวนา ประกอบด้วย ผลงานเชิดชูเกียรติชาวนา 4 สาขา การรวมตัวกันแสดงผลงานความสำเร็จขององค์กรชาวนากว่า 10 องค์กร และการแสดงผลงานกลุ่มนาแปลงใหญ่ทั่วประเทศ ตลอดจนการแสดงศิลปวัฒนธรรม 4 ภาค และความสนุกสนานจากการแข่งขันต่างๆ เช่น การทำเมนูอาหารจากข้าวพื้นเมือง การแข่งขันดำนา การแข่งขันสกีบกชิงธงในนาข้าว ฯลฯ ชมความน่ารักของควายไทยแสนรู้ และวิถีชีวิตชาวนาไทย พร้อมชม “ปราสาทข้าวจำลอง” ซึ่งประดับตกแต่งด้วยรวงข้าวอย่างสวยงาม และพลาดไม่ได้กับกิจกรรมชม ชิม ช้อป ประกอบด้วย การสาธิตเมนูอาหารที่รังสรรค์จากข้าวพันธุ์พื้นเมือง ชิมข้าวเหนียวมูนหลากสี หลากพันธุ์ หลายหน้า และไอศกรีมจากข้าวพื้นเมือง พร้อมทั้งเลือกซื้อสินค้าหลากหลายภายในงาน โดยเฉพาะข้าวคุณภาพดี ข้าวพื้นเมือง ผลิตภัณฑ์ข้าวคุณภาพดีจากกลุ่มชาวนา ศูนย์ข้าวชุมชน และนาแปลงใหญ่ทั่วประเทศ จำนวนมากกว่า 100 ร้านค้า