22 สิงหาคม 2561 ณ กรุงเทพฯ ประเทศไทย – เริ่มต้นอย่างเป็นทางการกับ อะกริเทคนิก้า เอเชีย และ ฮอร์ติ เอเชีย 2018 งานแสดงนวัตกรรม เทคโนโลยีด้านเครื่องจักรกลการเกษตร และ งานแสดงปัจจัยการผลิตทางการเกษตรและนวัตกรรมด้านการปลูกพืชผัก ไม้ผล และดอกไม้แห่งภูมิภาคเอเชีย เวทีเจรจาธุรกิจการค้าสำคัญที่เปรียบเสมือนจุดเริ่มต้นสำหรับนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเกษตรเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนสำหรับอุตสาหกรรมการเกษตรของภูมิภาคเอเชีย
ตลอด 3 วันของการจัดงาน จะเป็นศูนย์รวมเกษตรกร ผู้ปลูก ผู้ค้า ผู้ซื้อรายสำคัญ และบริษัทชั้นนำจากทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มารวมตัวกัน ณ กรุงเทพฯ ประเทศไทย ซึ่งงานนี้จะก่อให้เกิดการกระตุ้นการค้า การลงทุนจากนานาประเทศ และอัตราการเติบโตทางธุรกิจการเกษตรอย่างเด่นชัด ไม่ว่าจะเป็นภาคนวัตกรรม บุคลากรและเทคโนโลยี นอกจากนี้ ทั้งสองงานจะแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการทำเกษตรในยุคอนาคตทั้งในพื้นที่เปิดและปิด กระตุ้นความท้าทายระดับโลกที่สหประชาชาติผลักดันให้อุตสาหกรรมนี้มุ่งสู่แนวทางใหม่ ๆ ในการรักษาสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยทางอาหาร ซึ่งงานในครั้งนี้จะจัดระหว่างวันที่ 22-24 สิงหาคม 2561 ณ ฮอลล์ 98 ไบเทค กรุงเทพฯ ตั้งแต่เวลา 10:00 – 18:00 น. โดยได้รับเกียรติจาก นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติจากหลายหน่วยงานร่วมงานกันอย่างคับคั่ง โดยมีไฮไลท์การจัดงานดังนี้
- เทคโนโลยีการเพาะปลูกจากบริษัทชั้นนำกว่า 300 บริษัท 29 ประเทศ
- พาวิลเลี่ยนนานาชาติจาก 7 ประเทศ ได้แก่ จีน ฟินแลนด์ เยอรมัน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน และเนเธอร์แลนด์
- การประชุมและสัมมนาวิชาการ โดยวิทยากร 138 ท่าน จาก 20 ประเทศ และ 52 องค์กร
- Agrifuture Forum หรือ เวทีแลกเปลี่ยนความรู้ทางด้านวัตกรรมเกษตรแห่งอนาคต
- สัมมนาเรื่อง “เครื่องจักรเกษตรกรรมความแม่นยำสูงในการผลิตข้าว” โดยสถาบันวิจัยข้าวนานาชาติ (IRRI)
- พบนักวิจัยระดับโลกในงานสัมมนาจากสมาคมพืชสวนนานาชาติ (ISHS)
- การอภิปรายเกี่ยวกับการค้าและการลงทุนเครื่องจักรกลการเกษตรของภูมิภาค โดยสภาภูมิภาคของสมาคมเครื่องจักรกลการเกษตรแห่งภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (ReCAMA)
- การประชุมเรื่อง เรือนกระจกสำหรับเพาะปลูกพืชและการทำการเกษตรในเขตเมืองโดยการเพาะปลูกในร่ม
- ระบบและส่วนประกอบพิเศษในการบำรุงรักษาเครื่องจักรขั้นพื้นฐาน
- งานสัมมนาในหัวข้อ “ใครกำหนดอนาคตทุเรียนไทย” และ “กัญชา พืชผลังชีวิตที่คนไทยใกล้จะเอื้อมถึง” จัดโดยนิตยสารเคหการเกษตร
งาน ฮอร์ ติ เอเชีย 2018 มุ่งเน้นที่จะนำเสนอเทคโนโลยีการปลูกพืชอัจฉริยะสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกทุกประเภท ส่วนงาน อะกริเทคนิก้า เอเชีย 2018 จะมุ่งเน้นที่การนำเสนอเทคโนโลยีเครื่องจักรกลเพื่อการเกษตรในพื้นที่เพาะปลูกรูปแบบใหม่ ๆ เพื่อแก้ปัญหาการทำเกษตรในเมืองมากกว่าชนบท และนำเสนอทางออกใหม่ๆ สำหรับการผลิตอย่างยั่งยืน ผ่านทางคูหาจัดแสดงสินค้ามากกว่า 300 บริษัทชั้นนำจาก 29 ประเทศ รวมทั้ง 7 พาวิลเลี่ยนนานาชาติ อาทิ ประเทศจีน ฟินแลนด์ เยอรมนี ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวันและประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่จะมานำเสนอเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดบนพื้นที่การจัดงานกว่า 11,000 ตารางเมตร คาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 10,000 คน
นายแอนโตเนียส อ็อตเธิร์น กรรมการผู้จัดการ บริษัท วีเอ็นยู เอ็กซิบิชั่นส์ เอเชีย แปซิฟิค จำกัด กล่าวว่า “งานแสดงสินค้าทั้งสองงานนี้ มุ่งมั่นที่จะกระตุ้นภาคการเกษตรและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างอนาคตการเกษตรที่ยั่งยืน แม้จะพบความท้าทายใหม่ๆ ตลอดเวลา แต่เราก็มั่นใจว่าอุตสาหกรรมเกษตรจะต้องมีความเป็นเอกภาพและมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในอนาคต ดังที่นานาชาติขนาดนามว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใจ้ของเราเปรียบเสมือนตระกร้าอาหารของโลก”
ในฐานะเจ้าภาพร่วมอย่างเป็นทางการของงาน นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดงานพร้อมกล่าวสนับสนุนการจัดงานในครั้ง ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อาทิ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมวิชาการเกษตรและกรมส่งเสริมสหกรณ์ว่า “กระทรวงมีความเชื่อมั่นว่าการตัดสินใจร่วมเป็นเจ้าภาพจะช่วยเพิ่มการพัฒนาเกษตรไทยอย่างมีนัยสำคัญ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายขอประเทศที่จะเป็นศูนย์กลางการผลิตทางการเกษตรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และบรรลุความต้องการด้านคุณภาพระดับโลก นับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับชาวไร่ ชาวนา และเกษตรกรผู้ปลูกในภูมิภาคนี้ ที่จะสามารถเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ จากผู้ให้บริการ และบริษัทชั้นนำจากนานาชาติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและผลผลิต”
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร นายสมชาย ชาญณรงค์ กล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของงานว่า “เป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้และเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ร่วมผู้เชี่ยวชาญทั้งวงการเข้าด้วยกัน โดยมีเป้าหมายหลัก คือ การส่งเสริม Smart Farmer หรือเกษตรกรยุคใหม่ ซึ่งเกษตรกรทุกคนจะมีความรู้ในการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีอัจฉริยะ ที่จะสามารถแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคเกษตรได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนั้นกรมสงเสริมการเกษตรยังเชิญกลุ่มเกษตรรุ่นใหม่ หรือ Young Smart Farmer มากกว่า 1,000 คน จาก 77 จังหวัดเพื่อมาร่วมชมงานในครั้งนี้ด้วย”
ในบทบาทของหน่วยงานรัฐบาลที่สนับสนุนการจัดงาน ตั้งแต่ครั้งแรก นางสาวกนกพร ดำรงกุล ผู้อำนวยการฝ่ายงานแสดงสินค้านานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์กรมหาชน) หรือ สสปน กล่าวว่า “สสปน. ได้ให้การสนับสนุนการจัดงานดังกล่าวผ่านทางแคมเปญการเชื่อมโยงธุรกิจและส่งเสริมการตลาด (Connect Business and Exhibiz in Market) โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มการจับคู่ทางการค้าและธุรกิจของงานแสดงสินค้าทางการเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ การสนับสนุนจากสสปน. สะท้อนให้เห็นถึงนโยบายของสำนักฯ ในการใช้งานแสดงสินค้าเพื่อผลักดันนโยบายประเทศไทย 4.0 ของรัฐบาลไทย ในขณะที่การจัดนิทรรศการทั้งสองนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนาและยกระดับอุตสาหกรรมการเกษตรและอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารซึ่งเป็นหนึ่งใน 10 อุตสาหกรรมของอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ (S-Curve) ในนโยบายประเทศไทย 4.0 สำนักฯ ยังเชื่อว่าประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสมที่สุดของภูมิภาคสำหรับความสำเร็จของธุรกิจอุตสาหกรรมการเกษตรและการแปรรูปอาหาร เนื่องจากประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกชั้นนำของโลกในทั้งสองประเภท และการมีที่ตั้งของประเทศที่อยู่ในยุทธศาสตร์ที่สำคัญของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทำให้เป็นเวทีที่สมบูรณ์แบบในการก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจเกิดใหม่ของภูมิภาคนี้ ”
นายปีเตอร์ กรูเทิร์น กรรมการผู้จัดการ องค์กรการเกษตรแห่งเยอรมัน (DLG International GmbH – German Agricultural Society) กล่าวรายการการจัดงานว่า “ในปีนี้ อะกริเทคนิก้า เอเชีย จะเปิดตัว เวทีเกษตรแห่งอนาคต (Agrifuture Forum) เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ทางด้านวัตกรรมเกษตรแห่งอนาคต โดยมีการแบ่งปันถึงแนวทางปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพ เทคนิคการใช้เทคโนโลยีโดรนในภาคเกษตร และเครื่องมือทางการเกษตรที่มีความแม่นยำสูง อีกทั้งยังนำมานำเสนอโมเดลเกี่ยวกับการแบ่งปันเครื่องจักรกลการเกษตร และสัมมนาวิชาการอีกมากมาย อาทิ “การทำเกษตรแบบดิจิตอล” (Farming goes Digital) ซึ่งเป็นวิธีการในการทำการเกษตรสมัยใหม่ด้วยเทคโนโลยีดิจิตอล “เครื่องจักรเกษตรกรรมความแม่นยำสูงในการผลิตข้าว” และ “One for All, All for One” และ ความสำเร็จการโมเดลการใช้เครื่องจักรร่วมกัน เป็นต้น ซึ่งเป็นการกล่าวถึงหัวข้อที่ทันสมัยที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการเกษตรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อีกหนึ่งไฮไลท์ของการประชุมคือ งานสัมมนาระดับโลกเกี่ยวกับ Horticultural Product Quality ที่จะเน้นถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์จากพืชสวน โดยระบุถึงความท้าทายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกี่ยวกับคุณภาพผลผลิตในห่วงโซ่อุปทานช่วงหลังการเก็บเกี่ยว ซึ่งจัดโดย สมาคมพืชสวนนานาชาติ (ISHS) ในวันที่ 22 สิงหาคม ในวันต่อมาเกษตรกรผู้ปลูกผักและผลไม้จะได้เรียนรู้จากนักวิจัยและผู้จัดแสดงสินค้า เพื่อใช้เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยวในการเพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์จากพื้นที่เพาะปลูกไปสู่ผู้บริโภค”
นอกจากนั้นยังมีการเปิดโซนใหม่ “Systems & Components Asia” โดย บริษัทชั้นนำอย่าง Maschio Gaspardo และ องค์กรการเกษตรแห่งเยอรมัน ภายในโซนนี้จะมีการจัดสาธิตเกี่ยวกับการบำรุงรักษาเครื่องจักรกลการเกษตรชั้นสูงขั้นพื้นฐานที่แสดงให้เห็นถึงการใช้งานที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพสูงสุด และการบำรุงรักษา ปรับปรุงคุณสมบัติของดินและการทำฟาร์ม ดร. เวอเนอร์ คลูส (Dr. Werner Kloos) รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร กระทรวงอาหารและการเกษตรแห่งสหพันธรัฐเยอรมนี ได้ยืนยันถึงความสำคัญของหัวข้อนี้ว่า “ไม่เพียงแต่เกี่ยวกับการซื้อเครื่องจักรที่เหมาะสม แต่ยังมีการจัดให้มีการฝึกอบรมการจัดการ และการบำรุงรักษาในภายหลังด้วย” เกษตรกรและตัวแทนจำหน่ายสามารถดูการสาธิตมัลติมีเดียได้ในแต่ละวันของการจัดงาน
การจัดงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเกษตรระดับเอเชีย พบปะเพื่อนร่วมอุตสาหกรรม และการอัพเดทเทคโนโลยีใหม่ๆ ในภาคเกษตร โดยมีบริษัทในภาคเกษตรชั้นนำมากกว่า 500 ราย อาทิ Satra, TH Milk, Greenfields, VINAFRUIT และ Mitr Phol ได้ยืนยันการมาเยี่ยมชมในครั้งนี้
“ความสนใจของ บริษัท VINAFRUIT คือการช่วยเกษตรกรผู้ปลูกและผู้ค้าเวียดนามในการส่งออกผลไม้เวียดนามไปยังประเทศอื่น ๆ” Mr.Dinh Van Houng ประธานบริษัท VINAFRUIT กล่าว และกล่าวเสริมมาว่า “เกษตรกรผู้ปลูกของเราเข้าร่วมงานแสดงสินค้าระดับภูมิภาค ฮอร์ติ เอเชีย เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมจากการประชุมระดับโลกและจากผู้นำในอุตสาหกรรมที่มาแบ่งปันความเชี่ยวชาญกับเกษตรกรผู้ปลูกของเราเพื่อบรรลุมาตรฐานสากล นอกจากนี้เรายังได้เรียนรู้จากเพื่อนเกษตรกรรายอื่น ๆ จากประเทศอื่น ๆ เกษตรกรผู้ปลูกเวียดนามรู้สึกยินดีที่ได้เข้าร่วมงาน ฮอร์ติ เอเชีย ในกรุงเทพฯ เพื่อร่วมตอบสนองอุตสาหกรรมทั้งมวลนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ”
Dr.Chris Aurand ผู้เชี่ยวชาญอาวุโส ด้านนวัตกรรมและศูนย์วิจัยมิตรผล เห็นว่า “งานแสดงสินค้าครั้งนี้เป็นเวทีที่ดีเยี่ยมในการทำความรู้จักและเชื่อมต่อกับคู่ค้าต่างประเทศ สถาบันวิจัยและพัฒนามิตรผล ได้ร่วมมือกับ ทั้งสองงาน ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ทีมงานได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับเราในการกำหนดหัวข้อที่น่าสนใจสำหรับโครงการวิจัยและพัฒนาของเราและมีบทบาทสำคัญในการแนะนำมิตรผล กับ บริษัทที่มีนวัตกรรมที่เป็นโซลูชั่นสำหรับโครงการวิจัยของเรา เราได้เชื่อมต่อกับผู้ให้บริการเทคโนโลยีหลายอย่างที่เราไม่รู้จักมาก่อน มิตรผลกำลังวางแผนที่จะสร้างความสัมพันธ์อันดีกับ ทั้งสองงาน ต่อไปในอนาคต
อะกริเทคนิก้า เอเชีย และฮอร์ติเอเชีย 2018 งานแสดงนวัตกรรม เทคโนโลยีด้านเครื่องจักรกลการเกษตร และ งานแสดงปัจจัยการผลิตทางการเกษตรและนวัตกรรมด้านการปลูกพืชผัก ไม้ผล และดอกไม้แห่งภูมิภาคเอเชีย ระหว่างวันที่ 22-24 สิงหาคม 2561 ณ ฮอลล์ 98 ไบเทค กรุงเทพฯ ตั้งแต่เวลา 10:00 – 18:00 น. **แจ้งรหัส VMB 20014 เพื่อลงทะเบียนรับบัตรเช้าชมงานที่หน้างาน ฟรี!
