เรื่อง/ภาพ : ลุงพร เกษตรก้าวไกล
วันนี้ได้ดูคลิปของ คุณปา ไชยปัญหา ที่ส่งผ่านมาทางไลน์ กลุ่มเกษตรตามรอยพ่อ https://bit.ly/2DiHddR เป็นคลิปแนะนำกิจกรรมและความเคลื่อนไหวของไร่อรหันต์ โคราช ที่คุณปาเป็นเจ้าของ…และแจ้งข่าวประชาสัมพันธ์ว่าต่อไปนี้ทางไร่อรหันต์จะมีช่อง YouTube เป็นของตนเอง…ผมได้ชมก็เกิดแรงบันดาลใจให้เขียนเรื่องนี้ เรื่องที่ว่าเกษตรกรไทยทุกคนควรจะเปิดช่องทีวีออนไลน์ หรือช่อง YouTube เป็นของตนเอง
ทุกท่านคงทราบดีว่ายุคนี้เป็นยุค Digital Disruption คือดิจิทัลทำลายล้างทุกอย่าง โดยเฉพาะคนหรือธุรกิจที่ปรับตัวไม่ทันการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าคนนั้นจะตัวใหญ่หรือธุรกิจนั้นจะเคยมั่นคงแค่ไหน เจอพายุดิจิทัลลูกเดียวพังระเนระนาด แต่จะร้ายแค่ไหนก็ถือว่าเป็นโอกาสอย่างมากสำหรับคนตัวเล็กหรือธุรกิจขนาดเล็ก เพราะยิ่งเล็กยิ่งปรับตัวได้เร็วกว่า ที่เคยบอกว่าปลาใหญ่กินปลาเล็ก กลายเป็นว่าปลาเร็วกินปลาช้า…
สำหรับผมถือว่าเป็นยุคที่จะได้เกิดใหม่ คนตัวเล็กตัวใหญ่เท่าเทียมกันอีกครั้ง ทุกอาชีพไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบกันมาก และโอกาสเป็นของทุกคนอีกครั้ง “ไม่ควรที่จะปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือ” โดยเฉพาะการนำอาวุธดิจิทัลมาเป็นเครื่องมือ หรือทำให้เป็นสมุนรับใช้ ใครสามารถนำมาใช้ได้ก่อนกันก็จะได้เปรียบทันที (ยุคที่อินเตอร์เน็ตเข้าถึงทุกบ้าน นั่นหมายถึงมันพร้อมจะรับใช้เรา)
ผมจึงเห็นด้วยอย่างยิ่งที่คุณปา แห่งไร่อรหันต์ จะเปิดช่อง YouTube รวมทั้งเพื่อนๆของผมคนอื่นๆ ที่หันมาเปิดกันหลายรายแล้ว ที่เห็นด้วยนั้นก็เพราะว่าสมัยนี้คนชอบดูคลิปวิดีโอมากกว่าการอ่านตัวหนังสือ และเป็นสื่อที่เข้าถึงได้ง่าย ทั้งคนทำหรือคนผลิตก็สามารถทำได้ง่าย ผลิตได้ง่าย ที่สำคัญต้นทุนในการทำหรือผลิตนั้นต่ำมาก โดยเฉพาะช่อง YouTube ไม่ต้องเสียค่าเช่าพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเหมือนเว็บไซต์และใช้เวลาหรือขั้นตอนในการอัฟโหลดง่ายกว่ากันมาก แถม LIVE Streaming ถ่ายทอดสดได้ทุกเมื่อที่ต้องการ จึงถือว่าทรงประสิทธิผลมากกว่าเป็นไหนๆ
ช่อง YouTube ยังสามารถทำเป็นช่องทางสร้างรายได้ นอกเหนือจากการทำช่องเพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของสินค้าของกิจการ เรียกว่าเป็นการทำตลาดออนไลน์ด้วยวิดีโอ ส่วนถ้าจะทำเป็นช่องสร้างรายได้ ก็จำเป็นที่จะต้องทุ่มเท หรือเป็นมืออาชีพ เรียกว่า YouTuber แต่ก็ไม่ยากที่จะเรียนรู้
พูดถึงการเรียนรู้ “เกษตรก้าวไกล” (เว็บไซต์ข่าวเกษตรประเทศไทย) มีข่าวดีดีแจ้งให้ทราบว่า ในปี 2562 เราได้ร่วมมือกับพันธมิตรจัดโครงการเกษตรคือประเทศไทย ปี 2 คือไม่เพียงออกเดินทางค้นหาสุดยอดเกษตรกรประเทศไทย (Thailand Super Farmers) แต่เราจะเสริมด้วยกิจกรรมต่างๆ หนึ่งในนั้นคือ ห้องเรียนกลางสวน (Course for Farmers) ซึ่งได้มีการแนะนำไปบ้างแล้ว และอีกกิจกรรมหนึ่งที่จะเดินคู่กันคือ โครงการอบรมติดอาวุธความรู้(ดิจิทัล)ให้เกษตรกรไทยพร้อมรบในโลกออนไลน์ ชื่อโครงการอาจจะยาวไปหน่อย แต่ชื่อสั้นๆ เป็นภาษาอังกฤษว่า “Digital for Farmers” (ฟังชื่อแล้วพอได้ไหมครับ) เพราะต้องยอมรับอาวุธดิจิทัลทรงพลังในเรื่องการตลาดสมัยใหม่มาก หรือเรียกว่า เป็นเครื่องมือเดียวที่จะทำให้เกษตรกรทัดเทียม มีอิสระในโลกการค้าเสรีมากขึ้น ขอเพียงใช้เครื่องมือให้เป็น ใช้โทรศัพท์มือถือให้คุ้มประโยชน์ แค่นี้ก็จะลงสนามรบได้
เราจึงขอป่าวประกาศว่าเราจะออกเดินสายจัดอบรมทั่วประเทศ ประมาณ 10 ครั้ง โดยสถานที่กำหนดไว้เบื้องต้น เช่น ที่จังหวัดชุมพร จังหวัดอุตรดิตถ์ ฯลฯ แต่ละสถานที่นั้นจะอยู่ในชุมชน เพื่อให้เกษตรกรรายย่อยมีโอกาสเข้าถึงให้มากที่สุด และวิธีการกำหนดสถานที่ของเรานั้นจะเปิดโอกาสให้ชุมชนเป็นผู้กำหนดเอง คือชุมชนใดที่รวบรวมสมาชิกได้ประมาณ 30 คน เราก็จะเดินทางไปเปิดอบรมให้
สำหรับหัวข้อการอบรม จะเน้นเรื่องการทำตลาดออนไลน์ (Digital Marketing) การตลาดที่จะเชื่อมต่อกับคนทั้งโลก “ตลาดทะลุโลก” เน้นการตลาดออนไลน์แบบที่เกษตรกรทำได้ง่ายๆ เช่น การซื้อขายผ่านโซเชียลมีเดีย การเปิดช่องยูทูป การ LIVE สดขายสินค้า การใช้แอปพลิเคชั่นมาเป็นตัวช่วยในเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงการตัดต่อวิดิโอ การถ่ายภาพ ฯลฯ (สรุปคือว่า เน้นการใช้เครื่องมือให้เป็น และใช้โทรศัพท์มือถือให้คุ้มประโยชน์…รายละเอียดกำหนดการและหัวข้ออบรม จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง)
สิ่งที่อยากย้ำคือ…ในเบื้องต้นนี้ชุมชนไหนที่ประสงค์จะให้ทีมงานของเราไปเปิดอบรม ขอให้รีบแจ้ง โดยการอบรมทั้งหมดไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ จะเป็นการจัดร่วมกันกับชุมชนนั้นๆ โดยที่ชุมชนอาจจะจัดหาเรื่องสถานที่และเตรียมสมาชิกในชุมชนมาเข้าอบรม สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.ไอดีไลน์ 0813090599 (ลุงพร) หรืออีเมล์ kasetkaoklai@gmail.com โดยโครงการของเราจะเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน-ตุลาคม …อย่าลืมแจ้งความประสงค์เข้ามาตั้งแต่เนิ่นๆ นะครับ
หมายเหตุ : ขอเชิญชวนมายังหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมสนับสนุนโครงการนี้ เพราะนี่คือโอกาสของเกษตรกรไทยที่จะได้เกิดในเรื่องการตลาดนำการผลิต ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งในทางปฏิบัติจะต้องให้เกษตรกรทำการตลาดได้ด้วยตนเอง โดยเฉพาะ Digital Marketing ดังกล่าวแล้ว