สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงให้ความสำคัญกับการพัฒนาเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะ “กิจกรรมสหกรณ์นักเรียน” ที่จะทำให้เด็กๆ ได้ฝึกหัดทักษะในหลากหลายด้าน และทรงให้ความสำคัญในด้านการบัญชี ที่ถือเป็นการฝึกให้เด็กมีความละเอียดถี่ถ้วน โดยฝึกให้เด็กและเยาวชนมีความรู้ด้านการจัดทำบัญชี ให้รู้จักการคิดคำนวณ รู้จักการวางแผนผลิตและจำหน่ายสินค้า ปลูกฝังให้รู้จักการจดบันทึกบัญชี รายรับ รายจ่ายส่วนตัว อันเป็นพื้นฐานสำคัญในการดำเนินชีวิตของตนเองและถ่ายทอดความรู้สู่ครอบครัวและชุมชน จึงทรงโปรดเกล้าฯ ให้ดำเนินโครงการตามพระราชดำริในโรงเรียนถิ่นทุรกันดาร เพื่อช่วยเหลือเด็กนักเรียนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีความรู้และทักษะในการทำงานจากการฝึกปฏิบัติจริง เกิดการเรียนรู้ต่างๆอย่างเป็นขั้นตอน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการเรียนรู้ สามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพในอนาคตต่อไปได้ ดังในใจความตอนหนึ่งของการบรรยาย ในการสัมมนาความสัมพันธ์ไทย-จีน “การพัฒนาพลังแห่งเยาวชน : สร้างพื้นฐานคุณภาพชีวิตร่วมกันเพื่ออนาคต” เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2550 ณ ธนาคารกสิกรไทย สำนักงานใหญ่ กรุงเทพฯ ว่า…
“….เมื่อทำกิจกรรมสหกรณ์ เด็กจะรู้จักการทำบัญชีฟาร์ม บัญชีครัวเรือน บัญชีส่วนตัว แต่ก่อนนักเรียนทำบัญชีลงในสมุด ปัจจุบันมีบางแห่งใช้คอมพิวเตอร์ช่วย แต่ก็ยังให้ตรวจสอบด้วยการคำนวณด้วยตนเองและลงบัญชี ในสมุดอย่างเดิมด้วย การออมทรัพย์เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะช่วยให้มีการวางแผนชีวิต ไม่ให้ใช้จ่ายเกินกว่าที่ตนเองมี เพื่อให้มีพอใช้เมื่อจำเป็น เช่น เวลาเจ็บไข้ เป็นต้น…”
กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมสนองงานในโครงการส่งเสริมกิจกรรมสหกรณ์ในโรงเรียน ตามพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาโดยตลอด โดยให้คำแนะนำการวางระบบบัญชี และให้ความรู้ด้านการบัญชีที่เหมาะสมแก่ครูและนักเรียนในโครงการฯ สอดแทรกสอนแนะการจัดทำบัญชีไว้ในกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อฝึกให้เด็กและเยาวชนมีความรู้ด้านการบัญชี พร้อมปลูกฝังให้รักการจดบันทึกบัญชี สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันของตนเอง ครอบครัว และชุมชนได้ และยังมุ่งให้รู้จักใช้บัญชีเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน
โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านนายาว จ.ฉะเชิงเทรา เป็นเป้าหมายหนึ่งในการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามโครงการในพระราชดำริ โดยจัดให้มีโครงการกิจกรรมสหกรณ์และการเรียนรู้การจัดทำบัญชี สอดแทรกเข้าไปในสาระการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นให้เด็กและเยาวชนมีวินัยในตนเอง ใช้จ่ายอย่างประหยัด และสามารถเป็นกลไกสำคัญในการสอนและแนะนำผู้ปกครอง รวมทั้งคนในชุมชนของตนเองโดยมีโรงเรียนเป็นศูนย์กลางสำคัญในการพัฒนา ซึ่งในแต่ละปีการศึกษามีการจัดการเรียนการสอนวิชาสหกรณ์และการจัดอบรมการจัดทำบัญชีต้นกล้าเศรษฐกิจพอเพียงให้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ประจำทุกภาคเรียน
ร้อยตำรวจเอกพชรเดช ไชยทะ ครูใหญ่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านนายาว กล่าวถึงการสอนการทำบัญชีให้เด็กที่เข้าร่วมกิจกรรมสหกรณ์ว่า ได้บูรณาการหลักการบันทึกบัญชี การบริหารจัดการระบบบัญชี การจดรายงานการประชุม ลงไปในกิจกรรมสหกรณ์และในกลุ่มสาระการเรียนรู้ ด้วยมุ่งหวังให้นักเรียนได้มีความเข้าใจการ จดบันทึกบัญชี สามารถคิดระบบตัวเลข รายรับ รายจ่าย รายได้สุทธิ เงินทอนต่างๆ และสามารถนำความรู้นี้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดี เด็กให้ความสนใจเรียนรู้การทำบัญชี สังเกตได้ว่าเด็กที่ทำบัญชีเก่ง จะเป็นเด็กที่ ตัดสินใจได้เร็ว แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมากในการทำบัญชีสหกรณ์ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาโรงเรียน มีการขยายการเรียนรู้ไปสู่ชุมชน เช่น โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน ที่ได้มีการเชิญชุมชนเข้ามาเรียนรู้การทำเกษตร เลี้ยงสัตว์ การปลูกผักปลอดสารพิษลดรายจ่ายในครอบครัว และการฝึกอาชีพของโรงเรียนทั้งกลุ่มแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร และกลุ่มตัดเย็บเสื้อผ้า รวมไปถึงในส่วนของสหกรณ์ ที่มีการจัดอบรมให้ความรู้กับผู้ปกครองและนักเรียน ในเรื่องการบันทึกบัญชีรายรับ รายจ่าย การบันทึกการประชุม การจำหน่ายสินค้า และหลักการสหกรณ์ โดยเชื่อมโยงกับกิจกรรมสหกรณ์ของนักเรียน เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ เป็นการสร้างวินัยและความรับผิดชอบ โดยใช้บัญชีเป็นสื่อในการเรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ ที่สำคัญคือ การปลูกฝังให้เด็กมีจิตอาสา มีวินัย ซื่อสัตย์สุจริต รู้จักการทำงานร่วมกันและทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ตามหัวใจหลักของการสหกรณ์
ด.ต.หญิง ยลลดา โพธิ์สาพิมพ์ ครูผู้รับผิดชอบโครงการส่งเสริมกิจกรรมสหกรณ์ กล่าวว่า ดูแลรับผิดชอบการดำเนินโครงการส่งเสริมกิจกรรมสหกรณ์มาอย่างต่อเนื่อง โดยให้นักเรียนเป็นคณะกรรมการสหกรณ์ รับผิดชอบงานในส่วนต่างๆ ตามความถนัดและสนใจ ทั้งกิจกรรมร้านค้าซึ่งมีสหกรณ์เป็นศูนย์กลางในการซื้อขายผลผลิตทางการเกษตร นำไปจำหน่ายให้กับโรงอาหารเพื่อประกอบอาหารให้นักเรียน รวมทั้งให้ผู้ปกครองนำอาหารมาฝากขายในร้านค้าสหกรณ์ เพื่อเพิ่มรายได้ ช่วยให้มีเงินหมุนเวียนในชุมชน อีกกิจกรรมคือ กิจกรรมออมทรัพย์ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ในการให้คำแนะนำการทำบัญชีและนำไปต่อยอดในการสอนบัญชีต้นกล้าเศรษฐกิจพอเพียงให้กับเด็กนักเรียน ซึ่งเป็นผลดีในระยะยาว เด็กให้ความสนใจและมีการออมอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ เสียงตอบรับจากนักเรียนที่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมสหกรณ์ ล้วนมีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในจิตอาสา แม้ต้องเสียสละเวลาส่วนตัว เพื่อช่วยเหลืองานส่วนรวมของโรงเรียน
ด.ญ.จุฑามาศ นิ่มนวล (น้องชมพู่) นักเรียน ชั้น ป.6/1 รับหน้าที่ประธานสหกรณ์โรงเรียน เล่าว่า ด้วยหน้าที่ที่ต้องมีความรับผิดชอบมาก ทั้งการทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม บันทึกบัญชีลงในสมุดเล่มใหญ่ รวมถึงตรวจตราความเรียบร้อยของการดำเนินงานในสหกรณ์ จึงมีเวลาพักน้อยกว่าเพื่อนคนอื่นๆ แต่มีความเต็มใจที่จะเสียสละและทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และพร้อมส่งมอบหน้าที่ให้กับน้องๆ รุ่นถัดไป ซึ่งจากการได้ร่วมทำกิจกรรมในสหกรณ์ ทำให้ได้เรียนรู้การทำบัญชี ได้ฝึกคิดคำนวณเลข ฝึกการทำงานช่วยเหลือกัน ฝึกการขายของเป็นอาชีพเสริม และนำไปลงบันทึกบัญชีของตนเอง ทำให้รู้ค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นและลดค่าใช้จ่ายลง เพื่อมีเงินเก็บออมไว้เป็นค่าเทอมในอนาคต
เช่นเดียวกับ ด.ญ.เมธาพร อุดมศิลป์ (น้องแกงเขียวหวาน) ชั้น ป.6/1 ที่ได้รับประโยชน์จากการดำเนินกิจกรรมในสหกรณ์และการทำบัญชี โดยเล่าว่า เริ่มต้นมาทำกิจกรรมในสหกรณ์ เพราะอยากรู้จักการทำบัญชี ออมทรัพย์และอยากช่วยเพื่อนขายของ หลังจากได้เข้ามาเรียนรู้จึงได้เห็นประโยชน์ของการทำบัญชีและเริ่มทำบัญชีมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้ฝึกการคิดคำนวณ ฝึกความมีวินัย ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย รู้จักอดออม เงินออมก็จะเก็บไว้เป็นทุนในการประกอบอาชีพในอนาคต และอยากเห็นสหกรณ์พัฒนาขึ้น มีสินค้าที่หลากหลายมาจำหน่าย สมาชิกมีการออมเงินเพิ่มขึ้น และยังทิ้งท้ายด้วยว่า โตขึ้นอยากเป็นครูโรงเรียน ตชด.เพื่อช่วยพัฒนาเด็กๆ ให้เติบโตอย่างมีคุณภาพเช่นเดียวกับที่ตนเองได้รับโอกาส
ปัจจุบันสหกรณ์นักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านนายาว ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดการบันทึกบัญชี กิจกรรมสหกรณ์นักเรียน ประจำปี 2562 นับเป็นแบบอย่างการพัฒนาเด็กและเยาวชนที่มีโรงเรียนเป็นศูนย์กลางไปสู่ครอบครัวและชุมชน ผ่านการดำเนินกิจกรรมสหกรณ์และการเรียนรู้การทำบัญชี เพื่อสร้างความเข้มแข็งทางการเงินการบัญชี สามารถพึ่งพาตนเองได้ นำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นต่อไป.