วันที่ 23 สิงหาคม 2562 ที่บริเวณบึงแท่น หมู่ที่ 7 ตำบลสำพะเนียง อำเภอโนนแดง จังหวัดนครราชสีมา ได้มีการจัดกิจกรรมโครงการ ปั่น ปล่อย ปลูก เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งจัดขึ้นภายใต้ความร่วมมือของ 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานประมงจังหวัดนครราชสีมา และองค์การบริหารส่วนตำบลสำพะเนียง โดยมี ว่าที่ ร.ต.อภินันท์ เผือกผ่อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีเปิด ท่ามกลางแขกผู้เกียรติจากส่วราชการต่างๆ และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมงานกว่า 1,000 คน
นายนรินทร์ สุวรรณบริรักษ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า การปลูกป่าในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการปั่น ปล่อย ปลูก เป็นการดำเนินกิจกรรมตามโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา ระยะที่ 4 เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทั้งนี้ สำนักงานธ.ก.ส. จังหวัดนครราขสีมา ได้เริ่มดำเนินโครงการฯ มาตั้งแต่ปี 2554 ในพื้นที่ทั้งหมด 1,200 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ที่อยู่ในความดูแลของ องค์การส่วนตำบลสำพะเนียง ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณจาก ธ.ก.ส.
“ธ.ก.ส.ได้ดำเนินโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติฯมาแล้วรวม 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ปี 2554 ดำเนินการปลูกต้นไม้ในพื้นที่ 184 ไร่ คิดเป็นต้นไม้จำนวน 36,800 ต้น ได้แก่ ไม้แดง ยางนา ประดู่ กระถิน เทพา พยุง มะค่าโมง สัก สะเดา นนทรี และหญ้าแฝก การดำเนินโครงการในระยะที่ 1 มุ่งหวังเพื่อเพิ่มพื้นที่ป่าและเป็นแหล่งอาหาร รวมถึงไม้ใช้สอยให้กับชุมชน สอดคล้องกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ระยะที่ 2 ปี 2555 ดำเนินการปลูกต้นไม้ทั้งสิ้น 1,100 ต้น โดยในระยะที่ 2 นี้ เป็นการปลูกซ่อมแซมในพื้นที่เดิมที่ต้นไม้ไม่เติบโต และขยายพื้นที่ป่าเพิ่มขึ้นเป็นเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ และระยะที่ 3 ปี 2556 ได้ดำเนินการ 2 กิจกรรมคือ กิจกรรมที่ 1 การมอบพันธุ์ไม้ที่มีคุณสมบัติทนต่อดินเค็มจำนวน 26,000 ต้น ได้แก่ ขี้เหล็ก แคนา สะเดา และมะพร้าวน้ำหอม เพื่อปลูกในพื้นที่ 130 ไร่ และกิจกรรมที่ 2 การก่อสร้างลานกีฬาเอนกประสงค์ เรือนเพาะชำกล้าไม้ และศาลาอเนกประสงค์ รวมสองกิจกรรมใช้งบประมาณจำนวน 2,810,500 บาท”
“ตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา โครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษาฯ ได้ก่อประโยชน์ให้เกิดขึ้นแก่ชุมชนในหลาย ๆ ด้าน ได้แก่ การสร้างความมั่นคงทางอาหาร ชุมชนสามารถนำผลผลิตจากป่าไปประกอบอาหารประเภทต่าง ๆ เช่น ขี้เหล็ก สะเดา ลูกตาล และไข่มดแดง นอกจากนั้นต้นไม้ที่เติบโตขึ้น ยังสามารถนำมาเป็นไม้ใช้สอยในครัวเรือนได้ด้วย เช่น ต้นไผ่ ต้นตาล ก่อให้เกิดความเข้มแข็งในชุมชน ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ตลอดจนช่วยสร้างจิตสำนึกในการปลูกป่าและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม” นายนรินทร์ กล่าว
นายนรินทร์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการปลูกป่าในกิจกรรมโครงการ ปั่น ปล่อย ปลูก ครั้งนี้ เป็นการดำเนินกิจกรรมต่อเนื่องในระยะที่ 4 ซึ่งธ.ก.ส. สาขาโนนแดง และ สำนักงาน ธ.ก.ส. จังหวัดนครราชสีมา ได้สำรวจพื้นที่ป่าร่วมกัน พบว่า พื้นที่ป่าส่วนใหญ่เติบโตได้ดี แต่มีพื้นที่บางส่วนที่ต้นไม้หักโค่นเองตามธรรมชาติ และบางส่วนต้นไม้ไม่เติบโตเนื่องจากเกิดความแห้งแล้ง จึงทำให้เกิดพื้นที่ว่างเป็นหย่อม ๆ ในผืนป่า หากได้มีการปลูกป่าเสริมเพิ่มเติมในพื้นที่ว่างดังกล่าว ก็จะช่วยให้ผืนป่าเฉลิมพระเกียรติแห่งนี้ มีต้นไม้เติบโตเต็มโครงการ ตรงตามวัตถุประสงค์และเจตนารมณ์ของโครงการฯอย่างแท้จริง ดังนั้น ธ.ก.ส.สาขาโนนแดง และสำนักงาน ธ.ก.ส. จังหวัดนครราชสีมา จึงได้จัดทำโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา ระยะที่ 4 ขึ้นเพื่อทำการปลูกป่าเสริมในพื้นที่ดังกล่าว รวมทั้งซ่อมแซมอาคารอเนกประสงค์ ให้อยู่ในสภาพดีสามารถใช้งานได้ในระยะยาว โดยโครงการการในปีนี้ได้รับความร่วมมือจากองค์การบริหารส่วนตำบลสำพะเนียง และชุมชนอุดมสุขสาขาโนนแดง
ขณะที่ นายจักรภพ ศรีสุวรนันท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการธ.ก.ส. สำนักงานจังหวัดนครราชสีมา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับในการดำเนินการตามระยะที่ 4 นั้นจะเน้นกิจกรรมปลูกต้นไม้ซ่อมเสริมพื้นที่ป่าเดิมที่ไม่เจริญเติบโตและปลูกเพิ่มในพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อให้เป็นป่าผืนเดียวกัน จำนวน 1,000 ต้น อาทิ ต้นยางนา ขี้เหล็ก สะเดา ไผ่ ฯลฯ พร้อมกันนี้ยังมีการปลูกต้นไม้ใหญ่ความสูงประมาณ 3 เมตร บนถนนที่เข้าสู่โครงการจำนวน 150 ต้น และยังมีกิจกรรมบูรณะอาคารอเนกประสงค์อีกด้วย
“หลังเสร็จสิ้นการดำเนินการในระยะที่ 4 แล้ว ทางธ.ก.ส.จะส่งมอบผืนป่าให้ชุมชนดูแลรักษาต่อไป ดังนั้นจึงขอฝากประชาชนในพื้นที่ได้ช่วยกันดูแลรักษาผืนป่าแห่งนี้ไว้ ให้ก่อประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของโครงการไม่ว่าในด้านการฟื้นฟูสภาพป่าที่เสื่อมโทรมและเพิ่มพื้นที่ป่าให้แก่ชุมชนท้องถิ่น รวมถึงการเป็นแหล่งอาหารให้กับชุมชน และการปลูกฝังจิตสำนึกให้แก่ชุมชนในท้องถิ่นให้มีความรักความหวงแหนต่อทรัพยากรป่าไม้และสิ่งแวดล้อม” นายจักรภพ กล่าว
ด้าน นายวรากรณ์ พุฒิพงศ์พยอม นายกอบต.สำพะเนียง กล่าวว่า การที่ ธ.ก.ส. เข้ามาจัดทำโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษาที่บึงแท่นมาอย่างต่อเนื่อง จนถึงระยะที่ 4 ในวันนี้ ได้สร้างประโยชน์ให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก สำหรับการดูแลรักษาป่าแห่งนี้ต่อไปนั้น ทาง อบต.สำพะเนียงจะทำหน้าที่รับผิดชอบดูแลอย่างเต็มที่ ภายใต้มาตรการที่เป็นข้อตกลงของชุมชน เช่นการปลูกป่าเพิ่มเติมให้มากขึ้นด้วยการใช้นโยบายปลูกป่า 1 ต้น ตกปลาได้ 1 วัน โดยประชาชนที่จะเข้ามาตกปลาในบึงแท่น ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานประมงจังหวัดนครราชสีมาในการมอบพันธุ์ปลามาปล่อยเลี้ยง จะต้องนำต้นไม้มาปลูกคนละ 1 ต้น จึงจะสามารถเข้ามาตกปลาเพื่อนำไปทำเป็นอาหาร และมาตรการอื่นๆ เพื่อสร้างประโยชน์และความยั่งยืนจากโครงการที่หน่วยงานต่างๆได้เข้ามาดำเนินการในครั้งนี้