กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ สนองนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำระบบบัญชีสร้างความเข้มแข็งให้กับสถาบันเกษตรกรและกลุ่มเกษตรกร ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศ ให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน
นายโอภาส ทองยงค์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เปิดเผยว่า ยุทธศาสตร์ที่สำคัญประการหนึ่งของกระทรวงฯ คือ การสร้างความเข้มแข็งให้กับสหกรณ์ สถาบันเกษตรกร และเกษตรกร เพื่อช่วยแก้ปัญหาและพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนผ่านระบบสหกรณ์ อันจะส่งผลต่อการพัฒนาประเทศชาติทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม ช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนในการประกอบอาชีพ และช่วยส่งเสริมการออม เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย มีวินัยทางการเงินที่ดี สร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชน
ซึ่ง นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะกำกับดูแลกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้เน้นย้ำให้บุคลากรผู้ปฏิบัติงานทุกภาคส่วนของกรมฯ ได้ร่วมกันบูรณาการในการนำพาสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรให้ก้าวเดินอย่างมั่นคงสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน และเน้นย้ำความสำคัญของงานด้านการถ่ายทอดองค์ความรู้ทางบัญชีสู่พี่น้องเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ และประชาชน ให้มีความเข้มแข็ง พึ่งพาตนเองได้ สามารถนำระบบบัญชีไปใช้ในการบริหารจัดการสู่ความสำเร็จ นอกจากนี้ ยังได้มอบนโยบายด้านการสอบบัญชีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร เน้นย้ำให้ผู้สอบบัญชีเป็นผู้ตรวจแนะนำสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรให้มีการปฏิบัติงานที่ถูกต้อง ทั้งการทำบัญชีและการทำงบการเงิน เพิ่มความถี่ในการเข้าตรวจเยี่ยมสหกรณ์ให้มากขึ้น ปลูกฝังทัศนคติการไม่ทุจริต รวมถึงการสร้างความเข้าใจระหว่างผู้สอบบัญชีด้วยกันเองและผู้สอบบัญชีกับสหกรณ์โดยสม่ำเสมอผ่านระบบ Video Conference เพื่อให้เข้าใจแนวทางในการทำงาน พัฒนาความรู้ ความสามารถของผู้สอบบัญชี ให้เท่าทันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและธุรกิจของสหกรณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยฯ ยังเน้นย้ำให้กรมฯ สร้างความเข้าใจถึงนโยบาย คุณธรรม จริยธรรม กฎระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ รวมไปถึงวิธีการทำบัญชีว่าทำอย่างไร ให้แก่สมาชิกสหกรณ์ โดยวางระบบการทำบัญชีให้เป็นรูปแบบเดียวกันด้วย
“ตลอดระยะเวลา 67 ปี กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้นำนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาสู่การปฏิบัติ โดยก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยต่างๆ และเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ยุคแรกที่มีการส่งผู้สอบบัญชีจากส่วนกลางไปตรวจบัญชีให้กับสหกรณ์ต่างๆ จนถึงปัจจุบันที่มีการพัฒนาตนเองสู่ความเป็นมืออาชีพ รวมทั้งเตรียมพร้อมสู่การปรับเปลี่ยนเป็นองค์กรดิจิทัล เพื่อให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และรูปแบบการดำเนินธุรกิจสหกรณ์ที่มีความสลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น จึงเป็นการดำเนินงานที่ต้องอาศัยความละเอียดรอบคอบ ความเอาใจใส่ ซึ่งบุคลากรของกรมฯ จะยังคงมุ่งมั่นทำหน้าที่ตรวจสอบระบบการเงิน การบัญชี การควบคุมภายใน และการดำเนินงานของสหกรณ์ ให้เป็นไปอย่างโปร่งใส ปราศจากการทุจริต และเป็นไปตามมาตรฐาน เพื่อให้สถาบันเกษตรกรและกลุ่มเกษตรกร เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตของพี่น้องเกษตรกรไทย”อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าว