กรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมขานรับนโยบายต่อยอด “ตลาดนำการผลิต” รัฐบาลทุกมิติ มุ่งเสริมเขี้ยวเล็บสหกรณ์ให้เกิดเข้มแข็งเป็นที่พึ่งเกษตรกร ลดต้นทุนเพิ่มผลผลิต -สร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้เกษตรกรไทย
นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลด้านตลาดนำการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งพัฒนาศักยภาพของสหกรณ์ให้มีความเข้มแข็ง เพื่อทำหน้าที่ในการช่วยเหลือเกษตรกรและเป็นกลไกเชื่อมโยงความต้องการของประชาชนในพื้นที่กับการสนับสนุนของรัฐบาลตามแนวทางประชารัฐ และเพื่อให้เกษตรกรมีความมั่นคงในการประกอบอาชีพ สามารถเพิ่มรายได้และลดรายจ่าย รวมทั้งมุ่งลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต ด้วยการขับเคลื่อนผ่านนโยบายสำคัญ เช่น ทำการเกษตรแปลงใหญ่ ศพก. การบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรม ธนาคารสินค้าเกษตร การบริหารจัดการน้ำ เป็นต้น

โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้สนับสนุนให้สหกรณ์เป็นกลไกในการขับเคลื่อนการตลาดนำการผลิต ผ่านโครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา โดยมีสหกรณ์เข้าร่วมโครงการ จำนวน 290 แห่ง สมาชิกสหกรณ์ 19,769 ราย พื้นที่ปลูก 163,383 ไร่ โดยสหกรณ์จะมีบทบาทในการวางแผนการผลิต จัดหาปัจจัยการผลิต รวบรวมและรับซื้อผลผลิตจำหน่ายให้แก่ภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง
สำหรับโครงการข้าวโพดหลังนา นับเป็นโครงการที่สนองนโยบายตลาด นำการผลิตที่ประสบความสำเร็จเชิงรูปธรรมเป็นอย่างมาก ซึ่งล่าสุดได้มีการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (แปลงนำร่อง) ในแปลงนำร่องของนายสมพร แตงน้อย เนื้อที่ 10 ไร่ เพาะปลูกเดือนสิงหาคม 2561 และเก็บเกี่ยวผลผลิตเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.61 ขายให้กับสหกรณ์การเกษตรบ้านหม้อ จำกัด ในระดับความชื้นที่ 28% ราคา 7.20 บาท/กก. ทำให้มีรายได้ 86,400 บาท และมีกำไรเฉลี่ยไร่ละ 4,850 บาท ส่วนแปลงของนายทองเหลือ มูลนิล สมาชิกสหกรณ์ มีเนื้อที่ปลูก 3 ไร่ ลงทุนไป 11,370 บาท เริ่มเพาะปลูกเมื่อวันที่ 3 กันยายน 61 เก็บเกี่ยวทั้งหมดแล้วผลปรากฏว่าได้ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ประมาณ 1,200 ก.ก. ความชื้นประมาณ 27% ซึ่งสหกรณ์จะรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 8 บาท ทำให้นายทองเหลือ มีรายได้ทั้งสิ้น 28,800 บาท เมื่อหักต้นทุนในการเพาะปลูกผลิต 11,370 บาท จะมีกำไร 17,430 บาท และได้กำไรเฉลี่ย 5,810 บาทต่อไร่
