บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ดำเนินมาตรการเชิงรุกป้องกันไวรัสโคโรน่าให้ลูกค้าสมาชิกและพนักงานทุกสาขาทั่วประเทศ เพิ่มความถี่ในการดำเนินการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรค วางเจลล้างมือฆ่าเชื้อให้บริการในจุดสัมผัสต่างๆ ทั้งรถเข็น จุดชั่งสินค้า ทางเข้าทางออก คุมเข้มเน้นย้ำความปลอดภัยในอาหาร สร้างความมั่นใจผู้ประกอบการ
นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เนื่องด้วยมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าในขณะนี้ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) มีความห่วงใยในกลุ่มลูกค้าสมาชิกที่มาใช้บริการที่สาขาของแม็คโคร รวมถึงพนักงานที่ปฏิบัติงานอยู่ทั่วประเทศ จึงได้ออกมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดในทุกมิติ ทั้งการเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรค ในจุดสำคัญที่มีการสัมผัสบ่อยครั้งในสาขา ไม่ว่าจะเป็น รถเข็น จุดชั่งสินค้า ห้องน้ำ ทางเข้าออกลูกค้าและพนักงาน โดยเราได้ดำเนินการป้องกันอย่างเต็มที่และเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจให้กับผู้มาใช้บริการ
บริษัท สยามแม็คโคร ได้ดำเนินมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันไวรัสโคโรน่า ดังนี้
- จัดให้มีแอลกอฮอล์เจลฆ่าเชื้อที่จุดต่างๆ อาทิ จุดบริการลูกค้า จุดชั่งสินค้า แผนกอาหารสด เนื้อสัตว์ อาหารทะเล ประตูทางเข้า-ออก
- ทำความสะอาดพื้นที่ที่มีการสัมผัสบ่อย โดยเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ไม่ว่าจะเป็น รถเข็นสินค้า ,เคาท์เตอร์บริการต่างๆ ,โทรศัพท์ ,ตู้เอทีเอ็ม,รถวิลแชร์สำหรับลูกค้า เป็นต้น
- รณรงค์ให้ลูกค้าสวมถุงมือ ใช้ที่คีบ ในการเลือกซื้อสินค้าประเภทเนื้อสัตว์ทุกครั้ง
- ติดตั้งป้ายข้อความประชาสัมพันธ์บริเวณทางเข้าสาขา ให้ความรู้เรื่องไวรัสโคโรน่า แนะข้อควรปฏิบัติเพื่อป้องกัน และการปฎิบัติตนเมื่อพบว่ามีไข้ไม่สบาย
- ตรวจตราสบู่และกระดาษสำหรับล้างมือในทุกห้องน้ำให้มีเพียงพอ
- ทำความเข้าใจกับพนักงานเรื่องไวรัสโคโรน่าและติดตามเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง กรณีพนักงานมีอุณหภูมิร่างกายสูง หรือมีอาการเข้าข่าย ให้หยุดปฏิบัติงานและพบแพทย์ทันที
“ด้วยความห่วงใยต่อลูกค้าสมาชิกและพนักงาน บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด(มหาชน) ได้ดำเนินมาตรการในด้านความปลอดภัยอย่างเข้มข้นในทุกสาขาและทุกประเทศที่แม็คโครไปเปิดสาขาอยู่ โดยจะคงมาตรการดังกล่าวไว้ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยยังมุ่งเน้นนโยบายด้านความปลอดภัยในอาหารเป็นสำคัญ” นางศิริพร กล่าว