เรื่อง : ลุงพร เกษตรก้าวไกล
โครงการเกษตรคือประเทศไทย ได้ดำเนินการมา 2 ปีแล้ว ปีแรกนั้น(2561)เราออกเดินทางภายใต้แนวคิดที่ว่า “เกษตรกรอยู่ที่ไหน เราอยู่ที่นั่น” และปีที่ 2 (2562) เราออกเดินทาง ภายใต้แนวคิด “ตามหายอดมนุษย์เกษตรกรไทย” (Thailand Super Farmer-TSF) และก็มาถึงปีที่ 3 ปี 2563 หรือ 2020 ที่มักเรียกกันเป็นพิเศษในปีนี้…เราจะมีแนวคิดอันใด มีโครงการอะไร…เป็นคำถามที่หลายคนมักถามไถ่เมื่อพบเจอกัน
จากประสบการณ์ของเรา 2 ปีที่ได้ลงพื้นที่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ทำให้เราได้พบเห็นความเป็นไปของอาชีพเกษตรกรรมที่พี่น้องเกษตรกรส่วนใหญ่ยังคงอยู่ด้วยความยากลำบาก แต่ก็ในความยากลำบากก็พบว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างที่บ่งบอกว่าอาชีพเกษตรกรรมเป็นทางเลือกทางรอดของประเทศไทย
เกษตรกรเริ่มตื่นตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น มีทัศนคติต่ออาชีพเกษตรกรรมที่เป็นบวก จากแต่เดิมมีความเชื่อว่าทำเกษตรมีแต่ยากจน แต่เดี่ยวนี้ทำเกษตรคืออาชีพอิสระ คือการเป็นผู้ประกอบการในชุมชน ยิ่งโลกยุคใหม่กำลังตื่นตัวในเรื่องสิ่งแวดล้อม ยิ่งทำให้ชนบทกลายเป็นความทันสมัย มีทายาทเกษตรกรจำนวนมากที่กำลังเดินทางไปพัฒนาอาชีพของพ่อแม่เป็นการสืบสานต่อยอดที่น่าติดตามมากๆ
ทางรอดเกษตรกรรมในมุมมองของเรานั้นก็คงเหมือนกับทุกท่านที่ว่าเกษตรกรรมจะต้องใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีเท่านั้นจึงจะรอดได้ นั่นหมายถึงต้องสร้างมูลค่าเพิ่มได้ ลำพังเพียงขายผลผลิตแบบเดิมๆหรือผลิตแบบเดิมๆคงไม่มีโอกาสที่จะแข่งขันกับเขาได้และไม่สามารถทำเงินได้มากพอที่จะสร้างความยั่งยืนได้
“เราจะต้องขายข้าว ขายยางกี่โล จึงจะซื้อโทรศัพท์มือถือดีๆได้สักเครื่องหนึ่ง…” เป็นคำพูดของ ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง https://youtu.be/MT8mH0jyqgI ซึ่งทำให้เห็นภาพชัดเจนมากว่ามูลค่าสินค้าเกษตรของเราไม่มีทางที่จะได้ดุลการค้ากับประเทศที่เขาผลิตเทคโนโลยีมาขายเรา ถ้ายังทำการเกษตรแบบเดิมๆ และไม่คิดค้นนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เป็นของเราเอง
ปัจจุบันเราอยู่ในยุค Disrubtion เทคโนโลยีได้ทำลายล้างให้ทุกคนได้เริ่มต้นพร้อมกันอีกครั้งหนึ่ง “เหมือนตายแล้วเกิดใหม่” จึงนับเป็นโอกาสของเกษตรกรรายย่อยที่จะมีโอกาสเข้าถึงตลาดมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันเราก็ต้องเติมนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้าไปในระบบการเกษตร ลดต้นทุนเพิ่มผลผลิต สร้างมูลค่ากิจกรรมทางการเกษตรให้มากขึ้น ถ้าเกษตรกรของเรานำเครื่องมือที่มีอยู่มาใช้ให้เต็มประสิทธิภาพเราเชื่อว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงอาชีพเกษตรกรรม เป็นโอกาสเดียวที่จะได้ตายแล้วเกิดใหม่ให้ดีกว่าเดิม…(เราจะต้องตายแล้วเกิดใหม่อีกสักกี่ครั้งจึงจะร่ำรวยได้ โอกาสของเรามาถึงแล้ว)
เมื่อมองไปรอบตัวก็พบว่าองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ได้มีการพูดถึงการเกษตรสมัยใหม่กันมาก ได้มีการคิดค้นนวัตกรรมและเทคโนโลยีกันก็มาก แต่จะมีเกษตรกรสักกี่คนที่จะเข้าถึงและนำมาใช้กับกิจกรรมทางการเกษตรของตนเองได้
บทสรุปของเราคือ ทิศทางการนำเสนอข่าวสารจะต้องมีนวัตกรรมและเทคโนโลยี ทั้งในส่วนตัวของเราที่คิดว่าจะต้องออกแรงให้หนักขึ้น และในส่วนที่จะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องเกษตรกรที่จะต้องเน้นความรู้เรื่องนวัตกรรมและเทคโนโลยีให้มากขึ้น ข่าวสารประเภทนี้อาจจะเป็นเรื่องที่น่าเบื่อหรือไม่ชวนติดตามเหมือนข่าวเกษตรทั่วไป แต่เราเชื่อว่านี้คือทางรอดของเกษตรกรรมไทย
โครงการ Mission Farmer 2020 จึงเกิดขึ้น ในฐานะสื่อมวลชนเกษตรเราจะทำภารกิจให้เต็มความสามารถ ภารกิจที่ว่าคือ ติดอาวุธความรู้ให้เกษตรกรไทย (ในปีนี้เราจะแอชแท็ก #ForFarmer #ติดอาวุธให้เกษตรกรไทย) ด้วยการนำเสนอข่าวสารความรู้ “นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อเกษตรกร” (Innovation & Technology for Farmer) (ความรู้ทุกอย่างเพื่อเกษตรกร For Farmer) แต่ก็ต้องยอมรับความจริงว่าลำพังเพียงตัวเราก็ไม่สามารถทำได้ ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้เกี่ยวข้องที่มีแนวความคิดไปในทิศทางเดียวกัน เราจึงหวังว่าจะโชคดีที่จะได้พบกับพันธมิตรของเราและเดินไปด้วยกัน
สำหรับรายละเอียดโครงการ Mission Farmer 2020 จะขอนำมาบอกกล่าวเพิ่มเติมในเร็ววัน…อย่าลืมติดตามกันนะครับ