ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการประทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานโครงการประชารัฐสร้างไทย พัฒนาปักษ์ใต้เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน ณ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านสวนจันทร์ศรี อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเยี่ยมชมกิจกรรมการผลิต ลูกค้า ธ.ก.ส.ประกอบด้วยการทำผ้าลายเพ้นท์ การแปรรูปรังนกรังแอ่น เป็นเครื่องดื่มสุขภาพ การแปรรูปอาหารทะเล การทำเครื่องประดับถมทอง การนำสมุนไพรมาแปรรูปเป็นเครื่องสำอาง และยา เป็นต้น โดยมี นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. นายกษาปณ์ เงินรวง นายเสกสรรค์ จันทร์ขวาง ผู้ช่วยผู้จัดการ ผู้บริหารและพนักงานในพื้นที่ให้การต้อนรับ ณ แหล่งเรียนรู้วิสาหกิจชุมชนบ้านสวนจันทร์ศรี อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2563
นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. ได้ขับเคลื่อนโครงการธุรกิจชุมชนสร้างไทย เพื่อสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจฐานรากที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนในชุมชน ประกอบด้วย กิจกรรมการผลิต กิจกรรมการซื้อ-ขายผลผลิต และการบริโภคของคนในชุมชนอย่างมีส่วนร่วม โดยใช้ทรัพยากรของชุมชน มีการแบ่งปันผลประโยชน์อย่างเกื้อกูลและเป็นธรรม มีแนวทางในการขับเคลื่อนที่เริ่มจากการค้นหาและศึกษาความต้องการของชุมชน ทั้งโอกาส ศักยภาพ ปัญหา แนวทางพัฒนาและแก้ไข เหมือนการระเบิดจากภายใน จากนั้นจึงเริ่มพัฒนา สร้างความเข้มแข็ง โดยยึดหลักตลาดนำการผลิตและมีการกำหนดแผนธุรกิจที่ชัดเจน ผสานความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชนในด้านการให้ความรู้ เทคโนโลยีนวัตกรรม งานวิจัย และงบประมาณ อีกทั้ง ธ.ก.ส. ยังช่วยสนับสนุนสินเชื่อให้กับ Smart Farmer ผู้ประกอบการ SMEs เกษตร วิสาหกิจชุมชน และสหกรณ์การเกษตร เพื่อทำให้เกิดผลลัพธ์ คือ ความมั่นคงของเศรษฐกิจฐานราก มีภูมิคุ้มกัน มีรายได้ สวัสดิการสังคม และโอกาสทางการตลาดที่เพิ่มขึ้น
ในส่วนของการดำเนินงาน ธ.ก.ส. ได้มีการอบรมและสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการดังกล่าวแก่พนักงานทั่วประเทศ โดยมอบหมายพนักงานพัฒนาลูกค้าดูแลรับผิดชอบธุรกิจชุมชนโดยตรง พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนระดับจังหวัดและอำเภอ จัดตั้งศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจชุมชนทั้ง 77 จังหวัด เพื่อเป็นศูนย์กลางผสานความร่วมมือจากเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคสังคมและภาคประชาชน พร้อมทั้งสนับสนุนสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย วงเงิน 50,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำที่สุดเพียงร้อยละ 0.01 ต่อปี และสินเชื่ออื่น ๆ ตามแผนธุรกิจที่เหมาะสมตามความต้องการของแต่ละชุมชน เพื่อใช้ในการลงทุนและพัฒนารวมกว่า 100,000 ล้านบาท ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมาย คือ กองทุนหมู่บ้าน กลุ่มเกษตรกร สถาบันการเงินประชาชน วิสาหกิจเพื่อสังคม วิสาหกิจชุมชน Smart Farmer SMEs เกษตรที่เป็นหัวขบวน และสหกรณ์การเกษตร
โดย ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 ธ.ก.ส. ได้ขับเคลื่อนธุรกิจชุมชนไปแล้วกว่า 502 ชุมชนทั่วประเทศ โดยในส่วนของพื้นที่ภาคใต้มีธุรกิจชุมชน จำนวน 27 ชุมชน ทั้งนี้ ภายในงาน ธ.ก.ส. ได้นำเสนอผลการพัฒนาชุมชน ได้แก่ โครงการการจัดการห่วงโซ่คุณค่าสินค้าเกษตรอย่างบูรณาการ ประกอบด้วย การจัดการยางพารา โดยสถาบันการเงินชุมชนบ้านวังไทร ตั้งแต่การผลิตน้ำยางสด การแปรรูปยางแท่งและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ จากยาง ส่งขายภายในประเทศ ซึ่งในพื้นที่ 3 อำเภอของจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยสถาบันการเงินชุมชนได้ระดมเงินทุนจากสมาชิกเพื่อลงทุนสร้างโรงงานแปรรูปยางพาราและอุปกรณ์กว่า 69 ล้านบาท คาดว่าเมื่อเปิดโรงงานแล้วจะมีเงินทุนหมุนเวียนกว่า 116 ล้านบาท โดยจะขอรับการสนับสนุนสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทยจาก ธ.ก.ส. ประมาณ 120 ล้านบาท
นอกจากนี้ ได้นำเสนอตัวอย่างการปรับเปลี่ยนอาชีพจากการปลูกยางไปสู่การปลูกไผ่ การเลี้ยงโค หรือการปลูกต้นกาแฟ การทำปาล์มคุณภาพเพื่อยกระดับชีวิตเกษตรกร ในพื้นที่จังหวัดระนอง ชุมพร พังงา สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต และกระบี่ ซึ่งมีการเชื่อมโยงเกษตรกร ผู้มีรายได้น้อย และเกษตรแปลงใหญ่ที่ปลูกปาล์มน้ำมัน ไปสู่การรวบรวมปาล์ม และนำไปแปรรูปสกัดเป็นน้ำมันปาล์มเพื่อบริโภคและน้ำมันไบโอดีเซลช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิต การผลิตมังคุดคุณภาพ รวบรวมมังคุดคุณภาพจากเกษตรกร สหกรณ์การเกษตร วิสาหกิจชุมชน ส่งตลาดที่รับซื้อทั่วประเทศและเพิ่มช่องทางจำหน่ายทางออนไลน์ ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช การจัดการห่วงโซ่คุณภาพอย่างบูรณาการของโคเนื้อ 3 จังหวัดชายแดนใต้ (ปัตตานี ยะลาและนราธิวาส) กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผ้าทอนาหมื่นศรี บ้านควนสวรรค์ ตำบลนาหมื่นศรี อำเภอนาโยง จังหวัดกระบี่