25 กุมภาพันธ์, สิงคโปร์ – ไบเออร์ และ XAG ประกาศความร่วมมือในการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อส่งเสริม และดำเนินธุรกิจเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการเกษตรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และปากีสถาน (Southeast Asia and Pakistan, SEAP) ด้วยการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่าง Andre Kraide หัวหน้าประจำภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ และปากีสถาน บริษัทไบเออร์ และ Justin Gong ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท XAG
ความร่วมมือดังกล่าวจะทำให้เกษตรกรรายย่อยในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ และปากีสถาน เข้าถึงองค์ความรู้ในการจัดการฟาร์มดิจิทัลและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรก้าวข้ามอุปสรรคด้านการเกษตร รวมไปถึงปัญหาการขาดแคลนแรงงาน น้ำ การดูแลผลผลิต และการทำการเกษตรอย่างปลอดภัย และที่สำคัญยังช่วยให้ได้ผลผลิตมากขึ้น โดยใช้วิธีการที่สะดวกยิ่งขึ้น
“เป็นที่คาดการณ์ว่าปริมาณอาหารกว่าร้อยละ 80 ที่บริโภคในประเทศกำลังพัฒนานั้นมาจากการผลิตโดยเกษตรกรรายย่อยประมาณ 500 ล้านราย” Andre Kraide หัวหน้าประจำภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้และปากีสถาน ของบริษัทไบเออร์กล่าว “เรารู้ว่าเราต้องเพิ่มผลผลิตทางด้านอาหารเป็นสองเท่าเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของจำนวนประชากรกว่าหมื่นล้านคนภายในปีพ.ศ. 2593 ในขณะที่เราไม่สามารถเพิ่มที่ดินหรือทรัพยากรที่ใช้ในภาคการเกษตร และนั่นคือที่มาของการทำฟาร์มดิจิทัล”
“ในฐานะผู้นำด้านการเกษตร ไบเออร์มุ่งมั่นที่จะทำให้เกษตรกรรายย่อยเข้าถึงเทคโนโลยี และการทำฟาร์มดิจิทัล ด้วยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับ XAG ซึ่งเป็นพันธมิตรด้านธุรกิจในการจัดหาเทคโนโลยีด้านการเกษตร รวมถึงรัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องในภาคการเกษตรหลักอื่นๆ ในหลายประเทศเพื่อช่วยขับเคลื่อนการทำการเกษตรอัจฉริยะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และปากีสถาน ตั้งแต่การผลิตจากฟาร์มจนถึงโต๊ะอาหาร” Andre กล่าวเสริม
ภายใต้ข้อตกลงนี้ ไบเออร์และ XAG จะร่วมมือทางด้านการค้าในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้และปากีสถาน รวมถึงการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ XAG ผ่านช่องทางธุรกิจของไบเออร์ นอกจากนี้ยังรวมถึงการส่งเสริมและพัฒนาด้านการตลาดร่วมกัน เช่น การให้บริการผ่านช่องทางจัดจำหน่ายโดยการเป็นพันธมิตรกับธุรกิจในท้องถิ่นภายในประเทศต่างๆ
ความร่วมมือในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ เกิดขึ้นหลังจากการตกลงเป็นพันธมิตรระหว่างไบเออร์ และ XAG ที่มีขึ้นก่อนหน้านี้ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งประกาศที่กรุงโตเกียวเมื่อเดือนตุลาคมปี พ.ศ. 2562 ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว บริษัททั้งสองตกลงที่จะทำงานร่วมกันเพื่อค้นหาวิธีในการฉีดพ่นที่มีประสิทธิภาพที่สุด โดยนำระบบอากาศยานไร้คนขับ (UAS) มาประยุกต์เข้ากับเทคโนโลยีการกำหนดสูตรยาที่ล้ำสมัย
การทำให้เกษตรกรรายย่อยในภูมิภาค SEAP เข้าถึงเทคโนโลยีเป็นปัจจัยสำคัญต่อความมั่นคงทางอาหาร
ประเทศหลักๆ ในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ และปากีสถาน อย่างประเทศไทย เวียดนาม และปากีสถานเป็นผู้นำในด้านการส่งออกข้าว ในขณะที่ประเทศอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ยังคงพยายามอย่างหนักเพื่อให้ได้ผลผลิตที่เพียงพอกับการบริโภคในประเทศ
นอกจากนั้นในภูมิภาคนี้ยังมีความต้องการข้าวโพดเป็นอย่างมากสำหรับการบริโภค และธุรกิจอาหารสัตว์ ส่งผลให้มีการนำเข้าข้าวโพดเพิ่มมากขึ้นเพื่อเสริมการผลิตภายในประเทศในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ และปากีสถาน โดยที่ประเทศเวียดนามและมาเลเซียเป็นประเทศที่มีการนำเข้าข้าวโพดสูงที่สุด โดยมีสาเหตุมาจากความต้องการในการบริโภคสุกรและสัตว์ปีกที่สูงขึ้นตามลำดับ
แม้ว่าแต่ละประเทศในภูมิภาคนี้จะมีความแตกต่างกัน แต่ก็มีลักษณะร่วมกันอย่างหนึ่งคือผลผลิตด้านการเกษตรเกือบทั้งหมดในประเทศเหล่านี้มาจากเกษตรกรรายย่อย
“บริษัท XAG เติบโตขึ้นมาจากการเป็นผู้ผลิตโดรนที่มีฐานการผลิตอยู่ที่เมืองกว่างโจว ประเทศจีน จนปัจจุบันกลายเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีการเกษตรชั้นนำระดับโลกที่ช่วยปกป้องพื้นที่ทางการเกษตรถึง 125 ล้านไร่ ผลิตภัณฑ์ของเรามีตั้งแต่โดรนลาดตระเวนและโดรนพ่นยา ยานพาหนะเพื่อการเกษตร ไปจนถึงอุปกรณ์ IoT เช่น สถานีตรวจวัดสภาพอากาศ และกล้องตรวจตราในไร่” Justin Gong ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท XAG กล่าว
“เมื่อปลายปีพ.ศ. 2562 เราได้วางจำหน่ายหุ่นยนต์และซอฟต์แวร์ รวมทั้งได้ปรับปรุงระบบการทำการเกษตรแบบอัจฉริยะของบริษัท XAG เราภูมิใจและตื่นเต้นที่จะได้ร่วมมือกับบริษัทไบเออร์ เพื่อนำผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ร่วมกับโดรน ปัญญาประดิษฐ์ และ IoT มาช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และปากีสถานในการแก้ไขปัญหาทางการเกษตรที่เร่งด่วน”
หลังจากที่ได้ร่วมกันลงนามบันทึกความเข้าใจ บริษัทไบเออร์ และ XAG จะร่วมกันร่างข้อตกลงด้านการตลาดในระดับประเทศต่อไปในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
