เรื่อง/ภาพ : จตุพล เกษตรก้าวไกล
ทีมงานเกษตรก้าวไกล…มาเรียนรู้นอกห้องเรียน “กลางคอกควาย” กับ “ดร.ต๋อง คนเลี้ยงควาย” หรือ ดร.สมจิตร กันธาพรหม อาจารย์มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ ในหัวข้อ “หัวใจของการเลี้ยงควาย….ทำอย่างไรให้ได้เงินล้าน” (ข้อมูลเพิ่มเติมอ่านที่ https://bit.ly/2JBE7Ew)
ดร.ต๋อง กล่าวว่า หัวใจการเลี้ยงควายให้ได้เงินล้านอันดับแรก คือมีแปลงหญ้า ในส่วนของตนปลูกหญ้าแพงโกล่า ซึ่งเป็นหญ้าที่ปลูกง่ายเพียงแต่ไถพรวนแล้วถอนไปหว่าน เขาก็จะขึ้นเองและตัดได้ทั้งชีวิต เราปลูกเพียงครั้งเดียว แต่หญ้าชนิดนี้ไม่ชอบการเหยียบย้ำหรือแทะเล็ม เราต้องตัดหญ้าไปให้ควายกิน ตนเลิกงานมาแล้วจะตัดหญ้าไปให้ควายกินในช่วงเย็น หัวใจสำคัญขอให้มีแปลงหญ้า 1 ไร่ ต่อ 1ตัว ต่อปี ตนทำมา 12 ปี หญ้าแพงโกล่าเหมาะสมที่สุดในการให้ควายกิน เราทำด้วยตัวเองจึงรู้รายละเอียดดี เราต้องลงมือทำเกษตรด้วยตัวเอง เราลงทุนเองต้องทำเอง อย่าส่งเงินมาให้ญาติเลี้ยง เขาไม่มีความรักต่อควาย จะไปไม่รอด คนที่ทำเกษตรด้วยตัวเองไม่มีใครจน ตนทำมา 10 กว่าปี ไม่เคยขาดทุน
สำหรับคุ้มควายกาฬสินธุ์ตรงนี้(เราคุยกันที่คุ้มควายกาฬสินธุ์)เป็นของส่วนตัว อยู่บ้านน้ำโจก ต.นิคม อ.สหัสขันธ์ อยู่ข้างศูนย์ฝึกอบรมภูสิงห์ ตอนนี้มีแปลงหญ้าอยู่ 12 ไร่ เลี้ยงควายได้ 12 ตัว (ได้เงินมาจากการเลี้ยงควายจึงสามารถซื้อที่ดินปลูกหญ้าได้) บางช่วงไม่มีเวลาก็ปล่อยให้ไปกินหญ้าขน ซึ่งเป็นหญ้าที่ตอบโจทก์ได้ดี ส่วนการปล่อยควายไปให้กินหญ้าทั่วไป ตนไม่เป็นห่วง เพราะตนเลือกปล่อยควายไปในแปลงหญ้าธรรมชาติ ทำเลที่อยู่เหนือเขื่อน เป็นทำเลที่ชาวบ้านส่วนใหญ่เลี้ยงปศุสัตว์ เราเป็นมิตรกับชาวบ้านจึงไม่มีการใช้ยาฆ่าหญ้า หรือยาดูดซึมใดๆ ฉีดแปลงหญ้าเลย
สำหรับ คอกควาย เราใช้วัสดุที่อยู่ตามธรรมชาติมาสร้าง มีรางหญ้า พื้นไม่ต้องเทคอนกรีต ถ้าเทพื้นมันจะแข็ง เวลาควายตัวเล็กๆ นอน แล้วโดนแม่ไปเหยียบหางขาด ทำให้เสียราคา บางตัวเขามัดจำไว้แล้ว ทำให้เสียราคาเหลือไม่กี่บาท คอกของตนลงทุนเพียง 4 หมื่นบาท การออกแบบด้านหน้าควรจะอยู่ด้านตะวันตก เมื่อบ่ายแสงแดดจะฆ่าเชื้อได้ดี ของเราคอกจะแห้งตลอด ขี้ควายก็เป็นฝุ่นมันจะนุ่ม ทำให้การลุกของควายไม่มีปัญหา อากาศที่คอกโปร่งจึงไม่ต้องกางมุ้ง หากพื้นที่ใดคอกอยู่ใกล้ป่าก็ควรมีมุ้งให้ควาย เพื่อให้เขานอนหลับได้เต็มที่
“สำหรับขี้ควายเราขายกระสอบละ 50-60 บาท ควายเราไม่ได้มองแค่การขายเนื้อ แต่เรามองถึงมูลค่าของมันเช่นขายขี้ควาย และเป็นตัวดึงดูดการท่องเที่ยว เช่นที่ จ.อุดรธานี เปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว แต่ดึงแขกให้ไปขี่ควาย” ดร.ต๋อง กล่าวและว่า คอกที่เห็นนี้ตนใส่ไว้ 10 แม่ ไม่เคยมีปัญหาเบียดเสียดกัน ควายเป็นสัตว์สังคม เวลานอนแล้วเขาจะนิ่ง ไม่รบกวนกัน
สำหรับควายที่สวยงามต้องมีเขา ไม่เหมือนกับวัวพันธุ์ การมีเขาทำให้มีราคาแพงและควายไว้ใช้ป้องกันตัวอีกด้วย ในคอกของตนจะมีแร่ธาตุก้อนไว้ให้ควายได้เลีย เพื่อเพิ่มแร่ธาตุทำให้มีความสมบูรณ์ของพันธุ์
“สิ่งสำคัญอีกอย่างคือต้องมีฟางข้าว ซื้อมามัดละ 25 บาท ถือเป็นหัวใจหลักจะช่วยในการย่อย ถ้ากินหญ้าอ่อนท้องจะเสีย เมื่อให้ฟางข้าวแล้วจะช่วยลดการท้องเสีย เราต้องเตรียมฟางไว้ 100 ก้อนต่อตัวต่อปี เราซื้อฟางจากชาวบ้านที่ไว้ใจ ซึ่งเป็นการลดเผาตอซัง ชาวบ้านมีรายได้จากการอัดฟางข้าวขาย สร้างรายได้เป็นหมื่น ถือเป็นลูกโซ่ของการสร้างรายได้จากการเลี้ยงควาย”
สำหรับเริ่มต้นการเลี้ยงควายในแต่ละวัน ตนจะตื่นประมาณหกโมงเช้าปล่อยให้ควายเดินเล็มหญ้า แล้วเดินตามควายประมาณครึ่งชั่วโมง เมื่อเจอแหล่งหญ้าแล้วก็จะผูกจ่าฝูงไว้ ลูกฝูงก็จะเล็มหญ้าอยู่ไม่ไกล ประมาณแปดโมงเช้า ตนจะจูงเข้าร่มไม้เย็นๆ ริมน้ำ จากนั้นตนก็จะไปทำงาน ประมาณ 4 โมงเย็น ตนจะปล่อยให้มันลงน้ำ จากนั้นก็ปล่อยให้หากินหญ้า ประมาณ 6 โมงเย็น มันก็จะเดินกลับคอก ควายจะรักษาเวลามาก รู้ว่าจะกลับคอกเมื่อไหร่ เราต้องฝึกมัน แล้วมันจะจำเวลาได้ดีมากกว่าคน เป็นการเลี้ยงที่ง่ายมาก ส่วนการให้อาหารเสริม ควรให้เฉพาะลูกควายที่เพิ่งหย่านม
“สิ่งสำคัญอีกอย่างเวลาเราบังคับควาย ต้องมีซองเข้า ครั้งแรกเราต้องบังคับให้อยู่ ถ้าครั้งแรกมันยอม มันจะยอมตลอด ถ้าครั้งแรกไม่ยอมเราปล่อยไป มันก็จะดื้อตลอด ตั้งแต่ผมเลี้ยงควายมา 10 กว่าปี ไม่เคยทำร้ายผมเลย เขารู้ว่าเราเป็นเจ้าของ เว้นแต่ตัวพ่อพันธุ์เราต้องระวัง มีข่าวเหมือนกันว่าเคยทำร้ายคน” ดร.สมจิตร กล่าว
นอกจากนี้เราจะมีกาละมังใส่น้ำไว้ให้ เพื่อให้ควายดื่มกินอย่างมีความสุข คอกควายอย่าให้แฉะ สุขภาพควายจะได้ดี ถ้าคอกแฉะเราก็จะตักทิ้ง ส่วนขี้ควายชาวบ้านแถวนี้จะมารับซื้อในราคากระสอบละ 50 บาท เราจ้างชาวบ้านบรรจุกระสอบละ 3 บาท
“สรุปแล้ว คนคิดจะมาเลี้ยงควาย ถ้าอยากเลี้ยงต้องเข้าหาผู้รู้ก่อน ไม่ว่าคนเลี้ยงควายที่อยู่ใกล้บ้าน หรือโทรศัพท์มาปรึกษาผมได้ที่เบอร์ 089 7155133 หรือมาหาได้ที่คุ้มควายกาฬสินธุ์ อยู่ติดกับศูนย์ฝึกอบรมภูสิงห์ บ้านแก้งนคร หรือชาวบ้านเรียกบ้านน้ำโจก อ.สหัสสขันธุ์ จ.กาฬสินธุ์ เมื่อเรามีความรู้แล้ว เราต้องมีความรักต่อควาย ต้องขยัน และมีการพัฒนาสายพันธุ์ เราต้องการพ่อพันธุ์ที่มีน้ำหนักประมาณตันครึ่ง เพื่อมาผสมกับแม่พันธุ์ ลูกควายที่ได้จะตัวโต ตลาดต้องการ แม้แต่จีนและเวียดนาม ยังต้องการควายตัวละ 800 กิโลกรัมเป็นต้นไป”
“สูตรสำเร็จเกษตรกรหรือพี่น้องที่จะมาเลี้ยงควายไม่เหมือนกัน อาชีพเกษตรกรไม่ได้จน แต่ต้องลงมือทำเอง ตนลงมือเลี้ยงควายมา มีอะไรมากมายจากวิถีควาย ไปไหนไม่กลัวอดตาย คนอีสานรู้จักผมดี เราต้องมีเครือข่ายที่ดี เราต้องรักกัน เราไม่โกรธใคร โมโหใคร เราก็จะมีแต่คนรัก วิถีควายเป็นวิถีที่พอเพียงตามแนวพระราชดำรัสของรัชกาลที่ 9 เราอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขครับ” ดร.ต๋อง กล่าวทิ้งท้ายอย่างภาคภูมิใจ