กรุงเทพฯ 22 กรกฎาคม 2563 – แตงโม หนึ่งในผลไม้ยอดนิยมของคนไทย ด้วยรสชาติที่หวานฉ่ำ ทั้งยังช่วยเพิ่มความสดชื่นคลายร้อน แตงโมจึงเป็นที่ต้องการของตลาดเสมอมา โดยช่วงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการปลูกคือช่วงปลายฝนต้นหนาวหรือประมาณเดือนตุลาคม ซึ่งผลิตผลที่ได้จะอยู่ในช่วงเดือนธันวาคม และในช่วงนี้ก็เข้าใกล้ฤดูเพาะปลูกแตงโมกันแล้ว เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องเกษตรกรและเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร เจียไต๋จึงขอชวนพี่น้องเกษตรกรมาเตรียมความพร้อมในการปลูกแตงโมเพื่อสร้างรายได้ ด้วยเคล็ด (ไม่) ลับที่จะช่วยให้การปลูกแตงโมได้ผลิตผลงาม ขายง่าย รายได้ดี
“ปลูกเร็ว ขายคล่อง” คือข้อดีของการปลูกแตงโม เพราะตั้งแต่ระยะเริ่มเพาะปลูกไปจนถึงช่วงเก็บเกี่ยวใช้เวลาน้อยเพียงประมาณ 2 เดือนก็สามารถเก็บผลส่งตลาดและได้ผลตอบแทนแล้ว โดยเฉพาะแตงโมสายพันธุ์ของเจียไต๋ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง เพราะคุณภาพผลิตผลที่ถูกใจทั้งเกษตรกรผู้ปลูกและผู้บริโภค เรียกได้ว่า “คนปลูกได้กำไรงาม คนทานได้ลิ้มรสของอร่อย” ด้วยงบลงทุนต่อไร่เฉลี่ยเพียง 10,000 บาท แต่ได้กำไรขั้นต้นสูงถึงราวๆ 35,000 บาทต่อไร่ โดยมีผลิตผลเฉลี่ยอยู่ที่ไร่ละ 4 – 6 ตัน และราคาผลิตผลเฉลี่ยสูงถึง 8 – 10 บาทต่อกิโลกรัมเลยทีเดียว (ราคาผลิตผลขึ้นกับสถานการณ์ตลาดขณะนั้น)
เมล็ดพันธุ์แตงโมเจียไต๋ที่เกษตรกรนิยมปลูก ประกอบด้วย 3 สายพันธุ์คือ ซอนญ่า พลัส เมญ่า และทัมอัพ ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ได้แก่
1. ซอนญ่า พลัส แตงโมทรงกลมรี (short oblong)
มีจุดเด่นที่เนื้อสีแดงสดใส รสชาติหวานชื่นใจ เนื้อกรอบ ผลเป็นลายคริมสันแท้ เปลือกบาง เนื้อเยอะ เมล็ดน้อย สามารถปลูกได้ทุกภาคในประเทศไทย ปลูกง่าย ทำกำไรได้มากเพราะปัจจุบันตลาดมีความต้องการสายพันธุ์นี้สูงมาก น้ำหนักผลเฉลี่ย 4-6 กิโลกรัม
2. เมญ่า แตงโมทรงหมอนยาว (oblong) จุดขายคือสีแดงสวย เนื้อละเอียด รสชาติหวานละมุน ผลสีเขียวเข้มมีลายตาข่าย เนื้อเยอะ นิยมปลูกเพราะเป็นสายพันธุ์ที่ปลูกได้ตลอดทั้งปี และเหมาะกับภูมิประเทศที่มีฝนมาก เช่น ภาคใต้ เพราะมีจุดเด่นอยู่ที่ทนฝน และสามารถไว้ลูกข้อใกล้ได้ ไส้ไม่แตก น้ำหนักผลเฉลี่ย 4-6กิโลกรัม
3. ทัมอัพ แตงโมทรงกลมรี (short oblong) ลักษณะเด่นคล้ายแตงโมญี่ปุ่น คือลูกสีเขียวเข้มจนเกือบดำ เนื้อแน่นมากให้ความรู้สึกกรอบอร่อย รสชาติหวานและมีกลิ่นหอม เป็นสายพันธุ์ใหม่ที่มาแรง เกษตรกรเริ่มปลูกมากขึ้นและได้ผลตอบรับจากตลาดดีมาก จุดเด่นคือเป็นสายพันธุ์ที่ดก แต่หากต้องการให้ได้ผลใหญ่ น้ำหนักสูง ควรเลี้ยงลูกเพียง 1-2 ลูกต่อต้น น้ำหนักผลเฉลี่ย 3-5 กิโลกรัม
หนึ่งเสียงยืนยันจากเกษตรกรผู้ปลูกแตงโมเจียไต๋ตัวจริง “ป๋าเวก” หรือคุณการะเวก ก่วยจีน
จากเกษตรกรที่ปลูกไร่อ้อยมายาวนาน คุณการะเวก ก่วยจีน ชาวกำแพงเพชร ตัดสินใจพลิกชีวิต เริ่มต้นใหม่กับธุรกิจแตงโม และหลังจากได้เปิดใจทดลองปลูกแตงโมเจียไต๋ ซอนญ่า พลัส ก็เกิดความประทับใจ เพราะเมื่อเทียบกับแตงโมสายพันธุ์อื่นๆ ที่เคยปลูก เห็นได้ชัดว่าแตงโมซอนญ่า พลัส นั้นดีกว่า ทั้งคุณภาพเมล็ดพันธุ์ ความสม่ำเสมอของขนาดและทรงผล ทำให้ได้ผลิตผลต่อไร่ที่เพิ่มขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นคุณภาพเนื้อของแตงโมซอนญ่า พลัส ยังเป็นที่ยอมรับและนิยมชมชอบจากผู้บริโภคอย่างกว้างขวาง คุณการะเวกจึงหันมาปลูกแตงโมซอนญ่า พลัส เต็มตัวจนประสบความสำเร็จอย่างในปัจจุบัน “ภายในระยะเวลาเพียง 1 ปี ได้ขยายพื้นที่เพาะปลูกมากขึ้นถึง 5 เท่า แน่นอนว่าไม่ใช่การเติบโตของผมคนเดียว แต่เป็นการเติบโตไปพร้อมๆ กันกับเครือข่ายเพื่อนเกษตรกรของผม” คุณการะเวก ก่วยจีน กล่าว
และเพื่อให้พี่น้องเกษรตกรได้เตรียมความพร้อมสำหรับหน้าปลูกแตงโมที่กำลังจะมาถึง เจียไต๋ ขอแบ่งปันเคล็ดลับ 5 ข้อที่จะช่วยให้การปลูกแตงโมเจียไต๋ ได้ผลิตผลที่สวยงามและได้ราคาดี ได้แก่
- การให้น้ำและการดูแลรักษาแปลง
ควรวางระบบน้ำหยดและคลุมแปลงเสมอ ซึ่งระบบน้ำหยดจะช่วยให้ควบคุมปริมาณการใช้น้ำได้ดี เพราะแตงโมเป็นพืชที่ควรให้น้ำทีละน้อยๆ แต่ให้บ่อยๆ หากให้น้ำมากไปจะส่งผลต่อคุณภาพเนื้อที่จะเกิดปัญหาไส้ล้ม อายุการเก็บรักษาสั้น และความหวานจะลดลง รวมถึงโรคจากเชื้อราที่จะตามมาอีกด้วย ส่วนการคลุมแปลงนั้นช่วยได้มากในเรื่องการควบคุมความชื้นในดินและป้องกันวัชพืชต่างๆ
- การตัดยอดและจัดเถา
การเด็ดยอดช่วยให้แตงโมแตกแขนง จากนั้นควรจัดเถาไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ปล่อยให้เถาเลื้อยไปตามธรรมชาติจนทับซ้อนกัน เนื่องจากทำให้ดูแลยากและมีผลต่อจำนวนผลิตผลที่จะลดลง โดยให้เหลือต้นละ 3 เถา เพราะการจัดเถาที่เป็นระเบียบจะช่วยให้การติดลูกได้คุณภาพสม่ำเสมอ อีกทั้งยังง่ายต่อการเก็บเกี่ยวผลิตผล เก็บได้พร้อมกันทั้งแปลง ช่วยลดต้นทุนและประหยัดเวลา
- การต่อดอก
คัดเลือกดอกตัวเมียดอกที่ 2 – 3 หรือประมาณข้อที่ 13 – 15 ขึ้นไปเพื่อทำการผสมดอก โดยเด็ดดอกตัวผู้ที่กำลังบานมาปลิดกลีบดอกออกให้หมด แล้วจึงนำเกสรดอกตัวผู้นี้ไปแต้มลงบนเกสรดอกตัวเมียให้ทั่วกันทั้งดอก ซึ่งเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือช่วงเช้า 6.00-10.00 น. เท่านั้น และเพื่อให้ได้ผลดีที่สุดควรผสมดอกด้วยมือ ซึ่งจะช่วยให้การติดลูกออกมาได้ทรงสวยเกรดเอ
- การปลิดผลทิ้ง
แตงโม 1 ต้นควรคัดไว้เพียง 2 ลูก เพื่อให้ได้ผลิตผลที่มีคุณภาพสูงสุด น้ำหนักดี ขายได้ราคาจึงไม่ควรไว้ลูกเกิน 2 ลูกต่อต้น คัดเฉพาะลูกที่สมบูรณ์ที่สุดไว้เท่านั้น
- การเก็บผล
งดให้น้ำ 3 วันก่อนเก็บเกี่ยว เนื่องจากลักษณะเด่นของแตงโมที่ดีคือเนื้อแน่น สีแดงสวย รสหวานหอม หากต้องการคงจุดขายเหล่านี้ไว้จำเป็นจะต้องงดการให้น้ำเป็นเวลา 3 วันก่อนเก็บผลิตผล เพื่อให้แตงโมเข้าสู่สภาวะปรับตัว โดยแตงโมจะสร้างความหวานสูงขึ้น เนื้อจะมีสีแดงสวยชัดขึ้น เปลือกแข็งขึ้นทนต่อการกระแทกระหว่างการขนส่ง ซึ่งล้วนตรงความต้องการของตลาด
เพียงเท่านี้พี่น้องเกษตรกรก็สามารถนำเทคนิคทั้ง 5 ข้อไปเตรียมความพร้อมสำหรับหน้าปลูกแตงโมที่กำลังจะมาถึงเพื่อเป้าหมาย ‘ขายได้ดี ขายได้ทุกลูก’ โดยเจียไต๋พร้อมสนับสนุนเกษตรกรด้วยการส่งมอบนวัตกรรมการเกษตรผ่านการแบ่งปันข้อมูลความรู้ด้านการเกษตรอีกมากมาย โดยสามารถติดตามได้ทาง Facebook CHIA TAI SEED เมล็ดพันธุ์เจียไต๋: www.facebook.com/chiataiseed หรือเว็บไซต์เจียไต๋: www.chiataigroup.com