นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงาน “สร้างโอกาสสินค้าเกษตรไทย ขยายตลาดส่งออกด้วยเอฟทีเอ” เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2563 ณ ศูนย์การค้าโรบินสันไลน์สไตล์ จังหวัดเพชรบุรี ว่า การจัดงานครั้งนี้ จัดขึ้น 2 วัน ในช่วงเสาร์-อาทิตย์ (1-2 สิงหาคม 2563) มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดพื้นที่ให้เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการ ในพื้นที่ภาคกลางตอนล่าง 5 จังหวัด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และราชบุรี ได้นำสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปที่คัดสรรแล้วมาร่วมออกบูธจำหน่ายสินค้า เพื่อช่วยเพิ่มรายได้และช่องทางการจำหน่ายสินค้าของเกษตรกร และผู้ประกอบการในพื้นที่ ตามนโยบายรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล) ที่มอบหมายให้กรมฯ เร่งช่วยฟื้นฟูและสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการในภูมิภาคต่างๆ ของไทย โดยเฉพาะผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 กรมฯ จึงได้ร่วมสภาเกษตรกรแห่งชาติ คัดสรรสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปที่มีคุณภาพมาร่วมออกบูธจำหน่ายสินค้าภายในงาน เช่น น้ำมันมะพร้าวและผลิตภัณฑ์มะพร้าวทับสะแก สับปะรดเหลืองสามร้อยยอด นมอัดเม็ดจากสหกรณ์ โคนมห้วยสัตว์ใหญ่ ผ้าเขียนลายทอง ผลิตภัณฑ์กระเป๋าจากป่านศรนารายณ์ เครื่องสำอาง และเกลือทะเลขัดผิวเพื่อสุขภาพ เป็นต้น ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ที่มาเดินภายในงานอย่างมาก
นางอรมน เพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกันภายในงานยังจัดให้มีเวทีสัมมนาสร้างความรู้ ความเข้าใจเรื่องช่องทางการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ที่ไทยทำกับประเทศคู่ค้า 13 ฉบับกับ 18 ประเทศ เช่น อาเซียน จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เป็นต้น เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับเกษตรกร ผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน และประชาชนที่สนใจ ใช้โอกาสจากการที่ประเทศคู่เอฟทีเอเหล่านี้ ได้ลดหรือยกเลิกไม่เก็บภาษีนำเข้ากับสินค้าที่ส่งออกจากไทยแล้ว ขยายการทำตลาดสินค้าไทยไปต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังจัดให้มีคลีนิกให้ข้อมูลและคำปรึกษาแนะนำเกี่ยวกับความตกลงการค้าเสรี อัตราภาษีนำเข้า-ส่งออกของประเทศคู่ค้า กฎระเบียบทางการค้า และขั้นตอนการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ ตลอดจนภายในงานยังจัดให้มีกิจกรรมพิเศษ เช่น นาทีทองลดราคาสินค้า ตอบคำถามชิงรางวัลด้วย ผู้ร่วมงาน “สร้างโอกาสสินค้าเกษตรไทย ขยายตลาดส่งออกด้วยเอฟทีเอ” จึงได้ทั้งชิม ช้อป และชิลกับสาระ ความรู้ และความสนุกที่เป็นประโยชน์
ทั้งนี้ หลังจากการจัดงานที่จังหวัดเพชรบุรีในครั้งนี้ กรมฯ เตรียมจัดงานรูปแบบเดียวกันให้กับกลุ่มเกษตรกร ภาคเหนือตอนล่าง ที่จังหวัดพิษณุโลกในเดือนกันยายนต่อไป