กรมส่งเสริมการเกษตรรับลูก “เฉลิมชัย” รมว.เกษตรฯ ห่วงใยเกษตรกรจากพายุ “ฮีโกส” ทำหลายพื้นที่ในเขตภาคเหนือได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม พร้อมสั่งการเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรเร่งสำรวจความเสียหายและรายงานผลให้ทราบทุกระยะ
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ในเขตภาคเหนือระยะนี้ โดยเฉพาะที่ จ.สุโขทัย ซึ่งเกิดพนังกั้นน้ำแตกและน้ำท่วมพื้นที่การเกษตร เนื่องจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนทำให้มีพื้นที่ประสบอุทกภัย รวม 6 อำเภอ 36 ตำบล 208 หมู่บ้าน ผู้ประสบภัย 22,653 คน 10,147 ครัวเรือน บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 99 หลัง บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 2 หลัง พื้นที่การเกษตรประสบภัย 147,631 ไร่ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความห่วงใยพี่น้องเกษตรกรจึงมอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตรสั่งการสำนักงานเกษตรจังหวัด และสำนักงานเกษตรอำเภอทั่วประเทศ ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมแจ้งเตือนเกษตรกรให้ติดตามข่าวสารสภาพอากาศจากทางราชการ และเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำโดยเฉพาะพื้นที่การเกษตรที่อยู่ใกล้กับแหล่งน้ำตามธรรมชาติ โดยกำชับเจ้าหน้าที่ให้เร่งสำรวจข้อมูลพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบและเกิดความเสียหายจากปัญหาน้ำท่วม พร้อมเตรียมการวางแผนช่วยเหลือเกษตรกร สนับสนุนกล้าเมล็ดพันธุ์ผัก แนะนำวิธีการดูแลรักษา ฟื้นฟูพืชที่ถูกต้องให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติได้อย่างทันท่วงที
สำหรับเกษตรกรรายเดิมที่ทำการเพาะปลูกพืช หากมีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละรอบการผลิตขอให้มาแจ้งปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรให้เป็นปัจจุบัน หรือหากเป็นเกษตรกรรายใหม่ให้มาขึ้นทะเบียนเกษตรกรได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอ ณ ที่ตั้งแปลงพร้อมเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ของกรมส่งเสริมการเกษตรในพื้นที่ให้บริการ อย่างไรก็ตาม เกษตรกรรายเดิมสามารถปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรได้ด้วยตนเองผ่านทางแอปพลิเคชัน Farmbook ทั้งนี้ เพื่อที่เกษตรกรจะได้รับความสะดวกในการใช้สิทธิขอรับการสนับสนุน ช่วยเหลือ หรือรับบริการต่าง ๆ จากภาครัฐ เช่น กรณีการขอรับความช่วยเหลือเมื่อประสบภัยพิบัติต่าง ๆในด้านพืช ตามระเบียบกระทรวงการคลัง
กรณีที่ผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ให้สำนักงานเกษตรอำเภอ/สำนักงานเกษตรจังหวัด เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 และกรอบระยะเวลาการให้ความช่วยเหลือ (เร่งด่วน) ที่กรมส่งเสริมการเกษตรกำหนดให้แล้วเสร็จ ภายใน 15 วัน ทั้งนี้ การช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ มีหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือ คือ จะต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไว้ก่อนเกิดภัย และช่วยเหลือเกษตรกรตามจำนวนพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจริง ทั้งนี้ไม่เกิน 30 ไร่ อัตราการช่วยเหลือด้านพืช แบ่งเป็น ข้าว อัตราไร่ละ 1,113 บาท พืชไร่ อัตราไร่ละ 1,148 บาท พืชสวนและอื่น ๆ อัตราไร่ละ 1,690 บาท