เกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิด ปี 2563 “เสาวลักษณ์ มณีทอง” เจ้าของผลิตภัณฑ์แปรรูปสมุนไพรปลูกรัก plant love อ.ระมาด จ.ตาก คว้ารางวัลชนะเลิศไปครอง
เกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิด ปี 2563 “เสาวลักษณ์ มณีทอง” เจ้าของผลิตภัณฑ์แปรรูปสมุนไพรปลูกรัก plant love อ.ระมาด จ.ตาก คว้ารางวัลชนะเลิศไปครอง

ดีแทค EXIM BANK กรมส่งเสริมการเกษตร และมูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด จัดเวทีประกวดเกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิด ประจำปี 2563 ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 12 ภายใต้แนวคิด “การเกษตรเพื่อการส่งออก” ประกาศผลแล้ว “เสาวลักษณ์ มณีทอง” เจ้าของผลิตภัณฑ์แปรรูปสมุนไพรปลูกรัก plant love อ.ระมาด จ.ตาก คว้ารางวัลชนะเลิศไปครอง

นายบุญชัย เบญจรงคกุล
นายบุญชัย เบญจรงคกุล

ก่อนการประกาศผลจะเริ่มต้นขึ้นได้มีการกล่าวบนเวทีถึงที่มาที่ไปของการจัดงาน เริ่มต้นจาก นายบุญชัย เบญจรงคกุล ประธานกรรมการ มูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด กล่าวว่า โครงการประกวดเกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิด จัดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 แล้ว ในปี 2563 เน้นเกษตรกรที่เป็นผู้ประกอบการ ที่สามารถส่งผลิตภัณฑ์ไปขายแข่งในตลาดโลกด้วย ตามแนวคิดที่ว่า “การเกษตรเพื่อการส่งออก” เพื่อยกระดับเกษตรกรสู่การเป็นผู้ประกอบการที่มีความพร้อมด้านการผลิตอาหารและสินค้าเกษตรที่ได้มาตรฐานสู่ระดับโลก สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้กับผู้ประกอบการเกษตรและประเทศชาติ

นายชารัด เมห์โรทรา
นายชารัด เมห์โรทรา

ต่อจากนั้นเป็นคิวของ นายชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ ดีแทค พูดชัดเจนว่า ตลาดโลกแข่งขันกันที่คุณภาพของสินค้า ถ้าเกษตรกรไทยผลิตได้มีคุณภาพก็จะช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดโลกมาครองได้ เทคโนโลยีเกษตรและดิจิทัลจะมาช่วยเสริมศักยภาพ ล่าสุดดีแทคได้เปิดตัวแอป Kaset Go ร่วมมือกับปุ๋ยยารา ซึ่งเป็นชุมชนออนไลน์ของเกษตรกรตัวจริง ที่สามารถถามตอบปัญหาการทำเกษตรเฉพาะรายได้ และในปี 2564 ดีแทคจะไม่หยุดที่จะพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลที่เกี่ยวข้องกับภาคเกษตรกรรม ด้วยความหวังที่จะเสริมศักยภาพเกษตรกรให้เกษตรกรไทยแข็งแกร่งพร้อมกับการเสริมโครงสร้างเศรษฐกิจไทยให้แข็งแรงมากขึ้น

นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา
นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา

นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ซึ่งเป็นอีกผู้ร่วมให้การสนับสนุนในการจัดการประกวดครั้งนี้ และได้จัดขึ้น ณ ห้องประชุมชั้น 1 อาคาร EXIM BANK กล่าวว่า สินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปของไทยสร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทยปีละ 2.2 ล้านล้านบาท หรือ 13% ของ GDP ไทย ขณะที่เฉลี่ยของโลกอยู่ที่ราว 10% ของ GDP ที่ผ่านมาการส่งออกสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปของไทยมีส่วนแบ่งตลาดเพียง 17% ของมูลค่าส่งออกทั้งหมดของไทย ซึ่งสัดส่วนดังกล่าวลดลงต่อเนื่องตลอดเกือบ 3 ทศวรรษที่ผ่านมา จึงถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยต้องเร่งหาทางสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าเกษตรของไทย เพื่อหา Product Champion ตัวใหม่เพิ่มขึ้นผลประกวดเกษตรกรรักบ้านเกิด ปี 2563

(รายละเอียดเพิ่มเติม ชมได้จากการ Live สด ของเกษตรก้าวไกลไปด้วยกัน ตั้งแต่ต้นจนจบงาน คลิกที่ https://fb.watch/29jpl9VcFQ/)

เกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิด รุ่นพี่ มาเสวนาพูดคุยให้ข้อคิดต่างๆ (จากซ้ายผลิตภัณฑ์เห็ดแครง ผลิตภัณฑ์ทุเรียน และแปรรูปสมุนไพร)
เกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิด รุ่นพี่ มาเสวนาพูดคุยให้ข้อคิดต่างๆ (จากซ้ายผลิตภัณฑ์เห็ดแครง ผลิตภัณฑ์ทุเรียน และแปรรูปสมุนไพร)

ก่อนที่พิธีการประกาศผลประกวดจะเริ่มต้นขึ้น ได้มีการสัมภาษณ์เกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิดรุ่นพี่ โดยพิธีการคู่ซี้ “กำภู รัชนีย์” และปิดท้ายการกล่าวบนเวทีของ นายชาตรี บุญนาค รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งเป็นผู้ให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมนี้มาตั้งแต่เริ่มต้นในปีแรก

นายชาตรี บุญนาค
นายชาตรี บุญนาค

นายชาตรี บุญนาค ได้กล่าวถึงวิสัยทัศน์การพัฒนาประเทศไทย 20 ปี ของรัฐบาล และโดยเฉพาะนโยบายตลาดนำการเกษตร ของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า ในส่วนของกรมส่งเสริมการเกษตรได้รับนโยบายมาปฏิบัติมีนโยบายชัดเจนที่จะพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่ หรือ Young Smart Farmer หรือเกษตรศาสตร์ปราดเปรื่อง เพราะว่าปัจจุบันภาคเกษตรของเราเป็นเกษตรกรที่มีอายุมากเป็นส่วนใหญ่ จึงจำเป็นที่จะสร้างเกษตรกรุ่นใหม่ขึ้นมาทดแทน และโลกยุคใหม่ใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาและการซื้อขายผ่านออนไลน์ โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่สามารถเชื่อมโยงผลผลิตของพี่น้องเกษตรมาขายและส่งออกได้ 5.44 แสนล้านบาท เกษตรกรรุ่นใหม่จึงเป็นความหวัง โดยกรมส่งเสริมการเกษตรมุ่งให้เป็นผู้ประกอบการเกษตรไม่ใช่แค่ผลิตและขายแบบเดิมอีกแล้ว ซึ่งในการประกวดเกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิดในครั้งที่ 12 ที่เน้นการเกษตรเพื่อส่งออก สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงเกษตรฯ กรมส่งเสริมการเกษตรจึงให้การส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมที่เกิดขึ้นนี้อย่างเต็มที่ (ชมคลิปประกอบข่าวได้ที่ https://fb.watch/29q6KHnTUt/)

ชื่นชมกับผลิตภัณฑ์เกษตรเพื่อการส่งออกของผู้เข้าร่วมประกวดที่ผ่านเข้ารอบทั้ง 10 คน ซึ่งจัดแสดงด้านหน้าห้องประชุม
ชื่นชมกับผลิตภัณฑ์เกษตรเพื่อการส่งออกของผู้เข้าร่วมประกวดที่ผ่านเข้ารอบทั้ง 10 คน ซึ่งจัดแสดงด้านหน้าห้องประชุม

ผลประกวดเกษตรกรรักบ้านเกิด ปี 2563

จากนั้นเป็นไฮไลท์ของงานนั่นคือ การประกาศผลการตัดสินการประกวด “เกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิด ประจำปี 2563 ดังรายละเอียดต่อไปนี้

นางสาวเสาวลักษณ์ มณีทอง
นางสาวเสาวลักษณ์ มณีทอง
รางวัลชนะเลิศ

นาวสาวเสาวลักษณ์ มณีทอง จากสวนปันแสน จังหวัดตาก เกษตรกรผู้ผลิตสมุนไพรในแบรนด์ “ปลูกรัก” ส่งออกไปอเมริกา ศรีลังกา และออสเตรเลีย

เธอเป็นคนรุ่นใหม่ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของสมุนไพรไทย ด้วยการนำสมาชิกในชุมชนมาผลิต “สมุนไพรไทยไร้สารเคมี” มาตรฐานสากล รวบรวมและแปรรูป สร้างนวัตกรรมใหม่เพื่อนำสมุนไพรไทยสู่สากล  ทำการตลาดควบคู่การผลิต พัฒนา วิจัย ต่อยอดผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างความแตกต่าง ด้วยการแบ่งปันผลประโยชน์ให้ชุมชนมีรายได้ที่น่าพอใจ  ไม่เอาเปรียบเกษตรกร คำนึงถึงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้คุ้มค่า มีการอนุรักษ์ ฟื้นฟูทรัพยากร มีการวางแผนการเพาะปลูกอย่างเป็นระบบ แปรรูปเอง ขายเอง ทำการตลาดเอง สามารถกำหนดราคาตลาดได้เองจนชุมชนมีรายได้อย่างยั่งยืน

นายสิทธา สุขกันท์
นายสิทธา สุขกันท์
รองชนะเลิศอันดับ 1

นายสิทธา สุขกันท์ จากกลุ่มข้าวฅนอินทรีย์  จังหวัดพิจิตร เกษตรกรผู้ส่งเมล็ดข้าวเปลือกให้กับคู่ค้า นำไปแปรรูปเป็นแป้ง เส้นพาสต้า และราเมง

เกษตรกรหนุ่มผู้ผลิตข้าวแข็งอินทรีย์ มาตรฐานส่งออก นำไปแปรรูปเป็นแป้ง เส้นพาสต้า และราเมง ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศเป็นบุคคลที่ให้คุณค่าในอาชีพชาวนาความตั้งใจที่จะยกระดับอาชีพชาวนาให้มีเกียรติเทียบเท่ากับอาชีพอื่น ๆ ให้ชาวนามีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทำทุกอย่างให้เห็นเป็นตัวอย่าง และค่อย ๆ เปลี่ยนแนวคิด เปลี่ยนวิธีการ ให้ชุมชนเห็นว่า ชาวนาสามารถทำข้าวอินทรีย์ส่งออกได้ มาตรฐานสากลก็ทำได้ และร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมติดตาม ร่วมกันรับผิดและรับชอบ มีการพัฒนาการทำงานอย่างสม่ำเสมอ

นายณัฐวุฒิ จันทร์เรือง
นายณัฐวุฒิ จันทร์เรือง
รองชนะเลิศอันดับ 2

นายณัฐวุฒิ จันทร์เรือง จันทร์เรืองฟาร์ม (JR Farm) จังหวัดจันทบุรี เกษตรกรผู้ส่งออกผลสด และทุเรียนแปรรูป ไปประเทศจีน สิงคโปร์ ใต้หวัน เวียดนาม

นายณัฐวุฒิเป็นคนรุ่นใหม่ที่กลับไปช่วยครอบครัวทำสวนผลไม้ และนำความรู้ที่เรียนจบปริญญาโทด้านพลังงานไปพัฒนาระบบการทำเกษตร จนกลายเป็นเกษตรอัจฉริยะที่มีการนำระบบหุ่นยนต์และการควบคุมอัตโนมัติมาพัฒนาด้านการผลิต การแปรรูป ช่วยลดปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ลดต้นทุนการจ้างแรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จากการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาปรับใช้ภายในฟาร์ม พัฒนาสวนจนสามารถพึ่งพาตนเองได้  จึงต่อยอดเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับคนในพื้นที่ ให้กับชุมชน ได้เข้ามาศึกษาและนำไปปรับใช้กับพื้นที่ของแต่ละบุคคล  เพื่อสร้างความมั่งคงทางอาหารและพัฒนาการเกษตรของประเทศให้เกิดความยั่งยืนต่อไป มีการพัฒนา เพิ่มมูลค่า แปรรูปผลผลิตให้ตรงตามความต้องการของตลาด  จนเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ทุเรียนกรอบ JR Farm ที่แปรรูปด้วยเครื่องอบระบบดิจิทัล ใส่ใจทุกขั้นตอน ตั้งแต่การปลูกจนถึงการแปรรูปผลประกวดเกษตรกรรักบ้านเกิด ปี 2563

เกษตรกรดีเด่น
  1. นายชำนาญ คุ้มไพร จากจังหวัดร้อยเอ็ด เจ้าของคณิสรฟาร์มแมงอินเตอร์ เกษตรกรผู้เลี้ยงจิ้งหรีด และแปรรูป
  2. นางสาวอรวรรณ สุวรรณหล้า จากจังหวัดลำพูน หจก. สวนปทุมทิพย์ เกษตรกรผู้ปลูกและแปรรูปมะม่วง 7 สายพันธุ์
  3. นายอมตะ สุขพันธ์ จากจังหวัดแม่ฮ่องสอน หจก.วัน-อ๊อฟ คอฟฟี่ ฟาร์มสเตย์ ผู้ผลิตกาแฟ
  4. นายศราวุธ พรชัยสิทธิ์ จากจังหวัดฉะเชิงเทรา สวนมะพร้าวน้ำหอมคุณราตรี ผู้ปลูกมะพร้าวน้ำหอม
  5. นายสมพงษ์ หนูศาสตร์ จากจังหวัดเพชรบุรี สปาเกลือกังหันทอง ชาวนาเกลือ และผู้ผลิตเครื่องสำอางส่งต่างประเท
  6. นางสาวมณีรัตน์ ภาโนมัย จากจังหวัดอุตรดิตถ์ ดี ฟรุต ฟาร์ม (Dfruit Farm) ชาวสวนมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองและมะม่วงโชคอนันต์
  7. นายศักดา แสงกันหา จากจังหวัดนครราชสีมา Maligood ผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ผลิตผ้าไหมส่งออก
SIMA_webbanner_468x90_TH_animated