เรื่องโดย : ธนสิทธิ์ เกษตรก้าวไกล
เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดและผู้บริโภคในส่วนที่เกี่ยวกับสินค้าเกษตรอินทรีย์ โดยเฉพาะพืชผัก รวมถึงเพื่อสร้างโอกาสทางเลือกใหม่ให้กับเกษตรกรในพื้นที่อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรีในการสร้างอาชีพและรายได้จากการปลูกผักอินทรีย์จำหน่าย
นั่นคือ แรงผลักดันสำคัญของก้าวเริ่มต้นของกลุ่มเกษตรกรคนรุ่นใหม่ที่รวมตัวกันจัดตั้งเป็น วิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ด่านมะขามเตี้ย อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี นำโดย คุณธนวัฒน์ ว่องไวตระการ ในฐานะประธาน
สำหรับสินค้าเกษตรอินทรีย์นั้น ในวันนี้คือ ผลผลิตที่ตลาดทั้งในและต่างประเทศต้องการ ด้วยแรงแห่งความห่วงใยในด้านสุขภาพ จึงทำให้เกิดความต้องการสินค้าเกษตรที่ปลอดภัย และมีการผลิตในรูปแบบของเกษตรอินทรีย์ที่ปราศจากสารเคมีใดๆที่เป็นพิษต่อร่างกาย ในปัจจุบันประเทศไทย มีพื้นที่ผลิตเกษตรอินทรีย์อยู่ลำดับที่ 7 ของเอเชีย และมีการขยายพื้นที่ผลิตอินทรีย์อย่างต่อเนื่องจนปัจจุบัน
สำหรับตลาดอินทรีย์นั้น ปัจจุบันมีมูลค่าในตลาดโลกสูงถึงปีละ 3.55 ล้านล้านบาท และมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องทุกปี โดยปัจจุบัน ไทยมีมูลค่าตลาดเกษตรอินทรีย์ ประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยเป็นการบริโภคในประเทศ 900 ล้านบาท และตลาดต่างประเทศ 2,100 ล้านบาท
พืชผักนานาชนิดที่สดอร่อยและปลอดภัย เช่น ผักสลัดมากกว่า 10 ชนิด ต้นหอม และอื่นๆ คือผลผลิตที่มาจากฝีมือของเหล่าสมาชิกวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ด่านมะขามเตี้ย จำนวน 10 ราย ซึ่งมาจากหลายอาชีพ เช่น เกษตรกร พ่อค้าแม่ค้า เป็นต้น ในวันนี้ได้รับการตอบรับตลาดผู้บริโภคเป็นอย่างดี เพราะที่นี่มุ่งเน้นการผลิตที่ได้คุณภาพ ภายใต้ความเชื่อว่า ผักที่อร่อยนั้นต้องสด มีคุณภาพและได้มาตรฐาน
“ทุกคนในวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ด่านมะขามเตี้ย เรามีความเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ผลผลิตจะได้ผลลัพธ์ที่ดี ต้องมาจากเกษตรกรที่ดีใส่ใจในจรรยาบรรณ ปฏิบัติทุกขั้นตอนตามข้อกำหนดของ เกษตรอินทรีย์ เพื่อได้ชื่อว่าเป็น “เกษตรกรมืออาชีพ” ที่ตระหนักในเรื่องความปลอดภัยเป็นสำคัญ ซึ่งวันนี้ผักอินทรีย์ที่พวกเราผลิตในวันนี้ ได้รับรองมาตรฐาน Organic Thailand จากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นที่เรียบร้อย” นั่นคือ สิ่งที่ประธานวิสาหกิจชุมชน และสมาชิก อย่าง “นิรัณชรา สุขไข่” ในฐานะรองประธาน และ “วนิดา เชยโต” ที่เป็นสมาชิก ต่างร่วมกันยืนยัน
ก้าวเดินได้เพราะทุกฝ่ายสนับสนุน
ฐานการผลิตผักอินทรีย์ของวิสาหกิจชุมชนฯแห่งนี้ ตั้งอยู่เลขที่ 49 หมู่ที่ 10 ถนน ตำบลด่านมะขามเตี้ย อำเภอด่านมะขามเตี้ย โทร. 08-7034-1076 และ 06-3653-4666 ซึ่งเป็นทั้งที่ทำการ และแหล่งผลิตผักอินทรีย์นานาชนิดตามที่ตลาดต้องการ
“ผมนั้นเกิดและโตในครอบครัวเกษตรกร ช่วยพ่อทำไร่อ้อยมาตั้งแต่เด็ก ๆ ทำให้เราได้เห็นว่า การปลูกอ้อยนั้นมีข้อจำกัดมากมาย จึงอยากที่จะเปลี่ยนเพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ จึงขอใช้พื้นที่ตรงนี้ ที่เดิมเป็นพื้นที่ทำไร่อ้อยมาก่อน เราเริ่มปรับเปลี่ยนจากการปลูกผักปลอดภัยก่อน ต่อมาพัฒนาเป็นผักอินทรีย์อย่างเต็มรูปแบบ” คุณธนวัฒน์ กล่าว
“พื้นที่ 30 ไร่ ตรงนี้ผมทำไร่อ้อยมานานมาก แต่วันนี้ ลูกชาย คือ ธนวัฒน์ มาบอกว่า ได้ร่วมกับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ รวมกลุ่มกันเพื่อปลูกผักอินทรีย์จำหน่าย อยากขอใช้พื้นที่ตรงนี้เป็นที่ผลิต ตอนนั้นผมตอบตกลงเลยครับ เพราะเห็นว่าการผลิตผักอินทรีย์นั้นเป็นแนวทางการเกษตรที่ดี อีกทั้งยังต้องสนับสนุนเด็กกลุ่มนี้ให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้” คุณอนันต์ ว่องไวตระการ ผู้เป็นบิดา และเป็นหนึ่งในเกษตรกรที่มีประสบการณ์อย่างยาวนานกับอาชีพการทำไร่ออ้ย ร่วมรำลึกถึงก้าวแรกแห่งการเริ่มต้น เมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา
นอกจากการสนับสนุนอย่างเต็มที่จาก ครอบครัวว่องไวตระการ วิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ด่านมะขามเตี้ย ยังได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากทุกหน่วยงานทีเกี่ยวข้อง อาทิ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรหรือ ธ.ก.ส. สาขาด้านมะขามเตี้ย ที่เข้ามาสนับสนุนทั้งด้านทุน ความรู้ และการตลาด เป็นต้น
“เงินทุนก้อนแรกที่เราเริ่มต้นนั้นได้รับการสนับสนุนเงินกู้จากธ.ก.ส. จำนวน 100,000 บาท เพื่อนำมาใช้เป็นทุนเริ่มต้นดำเนินการ เช่น การปรับสภาพพื้นที่ โรงเรือน จัดหาเครื่องมืออุปกรณ์ต่าง ๆ รวมถึงเมล็ดพันธุ์” คุณธนวัฒน์ กล่าว
คุณโกวิทย์ สุดสวาท ผู้จัดการ ธ.ก.ส. สาขาด่านมะขามเตี้ย กล่าวว่า เพื่อเป็นการสนับสนุนเกษตรกรรุ่นใหม่ ในวันนี้ธ.ก.สงจึงได้มีการรับระบบการทำงานให้สอดคล้องกับแนวคิดใหม่ ๆ ธ.ก.ส.จึงเป็นมากกว่าธนาคาร…
“นอกจากการให้สินเชื่อแล้ว ธ.ก.ส.ยังเข้าไปช่วยเสริมองค์ความรู้ ช่วยพัฒนาเกษตรกร อย่างเรื่องของเกษตรกรอินทรีย์ ธ.ก.ส.มีสินเชื่อเพื่อการทำเกษตรอินทรีย์โดยตรงในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้เกษตรกรเข้าถึงได้ และช่วยลดต้นทุนการผลิต ซึ่งธ.ก.ส.สาขาด่านมะเตี้ยเราพร้อมให้คำปรึกษาและแนะนำอย่างเต็มที่” ผู้จัดการ ธ.ก.ส. สาขาด่านมะขามเตี้ย กล่าว
ปัจจัยสำคัญนำความสำเร็จ
ก้าวเดินในการสร้างผลผลิตผักอินทรีย์คุณภาพเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคของวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ด่านมะขามเตี้ยนั่น ตั้งมั่นอยู่บนหลักการดำเนินงานในมุมมองของเกษตรกรรุ่นใหม่ ที่ผ่านกระบวนการคิด กลั่นกรอง ออกมาจนเป็นแผนดำเนินงานที่นำไปสู่ความยั่งยืนตามเป้าหมาย สิ่งสำคัญที่สะท้อนมาจากคำให้สัมภาษณ์ของประธาน รองประธาน และสมาชิก ทำให้สรุปถึงแนวทางการดำเนินที่ถือเป็นหัวใจสำคัญ
หนึ่ง ต้องเป็นคนหัวใจเกษตรอินทรีย์ คำว่า คน ในที่นี้ ไม่เพียงจะต้องเป็นคนที่ทุ่เมอย่างเต็มที่แล้ว ยังต้องเป็นคนที่มีใจรักอย่างเต็ม 100 กับการปลูกผักอินทรีย์ ซึ่งนอกเหนือจากประธานและคณะกรรมการที่มีความมุ่งมั่นในการดำเนินงานเพื่อสร้างความสำเร็จให้กับกลุ่มและอาชีพแล้ว สมาชิกยังถือเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญ โดยธนวัฒน์บอกว่า ปัจจุบันมีเกษตรกรที่สนใจและต้องการเข้าร่วมเป็นสมาชิกของวิสาหกิจชุมชนเยอะมาก แต่ด้วยหลักเกณฑ์สำคัญของการทำเกษตรอินทรีย์แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ จึงต้องมีการคัดเลือกคนที่จะสมัครเข้าร่วม ต้องมีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนด โดยเฉพาะในเรื่องสภาพพื้นที่ และการได้รับการรับรอง
“ตอนนี้คนที่สนใจเข้าร่วมส่วนใหญ่อยู่ในระยะปรับเปลี่ยนจากการทำเกษตรแบบเดิมมาสู่การทำเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเมื่อทุกคนได้รับการรับรองว่า เป็นเกษตรอินทรีย์ได้แล้ว เราจะรับเข้ากลุ่มทันที” คุณธนวัฒน์ กล่าว
สอง ตลาดนำการผลิต การดำเนินงานของวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ด่านมะขามเตี้ย เน้นการใช้หลักการของ “การตลาดนำการผลิต” เป็นหัวใจสำคัญการกำหนดชนิดและปริมาณของผักที่ปลูก
“การวางแผนคือเรื่องสำคัญทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้แผนที่กำหนด เพื่อทำให้เราสามารถที่บริหารจัดการดูแลงานของวิสาหกิจได้อย่างไม่มีปัญหา”
“โดยเราจะมีประสาน จัดหาตลาดไว้ก่อนแล้ว โดยมีฝ่ายการตลาดที่ทำหน้าที่ไปติดต่อห้างร้านต่าง ๆที่จะเป็นตลาดรองรับ โดยปัจจุบันตลาดหลักของเราจะอยู่ในเขตภาคตะวันออกที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เช่น จังหวัดนครนายก ชลบุรี เป็นต้น เมื่อมีออร์เดอร์หรือการสั่งซื้อเข้ามาแล้ว จะนำมาสู่การวางแผนการผลิตว่า เกษตรกรสมาชิกแต่ละรายนั้นจะต้องปลูกผักชนิดไหน จำนวนเท่าไร เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณความต้องการของตลาด รวมถึงระบบการขนส่งไปยังผู้ลูกค้า” คุณนิรัณชรา สุขไข่ ในฐานะรองประธาน และดูแลด้านการตลาด ซึ่งใช้แบรนด์ชื่อ “Thai Good Farmer” กล่าว
สาม ต้องมีมาตรฐานรับรอง เพื่อเป็นการันตีว่าผลผลิตของวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ด่านมะขามเตี้ย คือ เกษตรอินทรีย์ 100 เปอร์เซ็นต์ สิ่งสำคัญที่ทางวิสาหกิจชุมชนฯแห่งนี้ได้มุ่งมั่นทำมาจนประสบความสำเร็จ นั่นคือ การได้รับการรับรองมาตรฐาน ซึ่งวันนี้วิสาหกิจชุมชนฯแห่งนี้ได้รับการรับรองมาตรฐานออร์แกนิกไทยแลนด์ (Organic Thailand) อันเป็นมาตรฐานรับรองที่ดำเนินการโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ในการขอรับรองออร์แกนิกไทยแลนด์ (Organic Thailand) นั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะมีระเบียบการปฏิบัติที่เคร่งครัด และเกษตรกรต้องปฏิบัติตาม เช่น ด้านเอกสารสิทธิ์ ทุกแปลงที่ขอการรับรองจากทางราชการต้องมีเอกสารหรือหลักฐานยืนยันว่าทำการเพาะปลูกบนพื้นที่ที่ถูกกฎหมาย ไม่บุกรุกป่าหรือพื้นที่สาธารณะ
อีกประการ คือ การทำแนวกันชนกรณีพื้นที่ข้างเคียงใช้สารเคมี เช่น การปลูกพืชที่มีความสูงกั้นสารเคมี หรือสิ่งปนเปื้อนที่อาจปลิวมาจากแปลงข้างเคียง หรือทำคันดิน กั้นสิ่งปนเปื้อนที่อาจมากับน้ำหรือวิธีการอื่นๆ ที่สามารถป้องกันสารเคมี หรือสิ่งปนเปื้อนที่อาจมาทางน้ำ ทางอากาศได้
พร้อมกันนี้ต้องมีการตรวจน้ำใช้หากพบว่ามีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อน จะตรวจวิธีการในการลดการปนเปื้อนสารเคมี โลหะหนักที่อาจปนเปื้อนมา รวมถึง การตรวจสอบให้มั่นใจว่าปุ๋ยอินทรีย์ หรือสารอินทรีย์อื่นที่นำเข้ามาใช้ในฟาร์ม เป็นอินทรีย์จริง และสุดท้าย ตรวจสอบว่าไม่มีการนำของเสียจากมนุษย์มาใช้ในการผลิต เป็นต้น
ในวันนี้ด้วยความมุ่งมั่นทุ่มเทอย่างเต็มที่ วิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ด่านมะขามเตี้ย คืออีกหนึ่งต้นแบบความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจกับผลผลิตพืชผักอินทรีย์คุณภาพ เพื่อผู้บริโภคทุกคน…เพราะที่นี่คือ มืออาชีพด้านเกษตรอินทรีย์แห่งอำเภอด่านมะขามเตี้ย