นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตร มีนโยบายในการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของวิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน โดยส่งเสริมให้เป็นผู้ประกอบการที่เข้มแข็ง และสามารถประกอบกิจการได้อย่างต่อเนื่องยั่งยืนมาจนปัจจุบัน ซึ่งในระหว่างวันที่ 1 -30 มกราคม 2564 นี้ กรมส่งเสริมการเกษตร เปิดให้บริการต่อทะเบียนวิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน ประจำปี 2564 จึงขอแจ้งเตือนให้วิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน มาต่อทะเบียน ณ สำนักงานเกษตรอำเภอที่จดทะเบียนฯ เพื่อรักษาสิทธิในการได้รับการสนับสนุนและบริการจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง
สำหรับมาตรการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนา (Covid-19) กรมส่งเสริมการเกษตร ขอให้วิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายฯ ที่จะมาขอต่อทะเบียนฯ เตรียมเอกสารประกอบการขอ
ต่อทะเบียนวิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน ประจำปี 2564 ประกอบด้วย 1) หนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน (ท.ว.ช.2) 2) เอกสารสำคัญแสดงการดำเนินกิจการวิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน (ท.ว.ช.3) 3) บัตรประชาชนของผู้มายื่นแบบขอต่อทะเบียนวิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน 4) หนังสือมอบอำนาจให้ทำการแทน (กรณีผู้มีอำนาจทำการแทนวิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนไม่ได้มาด้วยตนเอง) 5) บันทึกแจ้งความ (กรณี ท.ว.ช.2/ท.ว.ช.3 สูญหาย) 6) ข้อบังคับหรือข้อตกลงร่วมกันของสมาชิกวิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน 7) แบบคำขอดำเนินกิจการต่อของวิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน (สวช.03) 8) แบบจัดเก็บข้อมูลพื้นฐานของวิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน 9) แผนประกอบการวิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน และ 10) ผลการดำเนินงานของวิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน ทั้งนี้ ให้กรอกข้อมูลพร้อมจัดเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนเรียบร้อย โดยสามารถศึกษาวิธีการและดาวน์โหลดเอกสารต่าง ๆ ได้ที่ http://www.sceb.doae.go.th/ext64.html และนำมายื่นต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอที่ได้ขอจดทะเบียนฯ ไว้ เพื่อตรวจเช็คความเรียบร้อยและดำเนินการต่อทะเบียนฯ ได้อย่างรวดเร็ว ลดระยะเวลาเผชิญหน้า ลดความแออัด และลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนา (Covid-19)
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวย้ำว่า หากวิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนไม่มาต่อทะเบียนระหว่างวันที่ 1-30 มกราคม 2564 ณ สำนักงานเกษตรอำเภอที่จดทะเบียนฯ จะถูกเพิกถอนทะเบียนวิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน (กรณีหากไม่มาต่อทะเบียน 2 ปีติดต่อกัน) และหมดสิทธิ์รับการสนับสนุนหรือบริการจากภาครัฐ