เรื่องโดย : *ดร.วิมล หอมยิ่ง
ผมเฝ้าสังเกตการเก็บลำไยในพื้นที่สอยดาว โป่งน้ำร้อนมานาน…วันเก็บลำไยน่าจะเป็นวันที่ชาวสวนมีความสุขที่สุด แต่เรื่องจริงกลับตรงข้าม คือเป็นวันที่เครียดที่สุด บางคนถึงกับต้องร้องไห้หลั่งน้ำตา เลวร้ายที่สุดถึงขั้นทะเลาะ ฆ่ากันตาย เพราะล้งเอาเปรียบชาวสวนด้วยหลากหลายกลโกง…
1) เก็บลำไยลงตะกร้าเฉพาะเบอร์ใหญ่ (1-2) ส่วนเบอร์กลาง (3-4) แทนที่ตะลงตะกร้าตามสัญญา กลับเก็บเป็นลำไยร่วง ซึ่งราคาต่างกันฟ้ากับดิน คือลำไยลงตะกร้าราคา 30 บาทบวกบวก/กก ส่วนลำไยร่วงราคา 3 บาท/กก
2) ไม่มาเก็บตรงตามเวลา ถึงเวลาเก็บลำไย มักอ้างโน่นอ้างนี่ เช่นขาดแรงงาน ลำไยยังไม่ได้ขนาด ผิวไม่สวย ฯลฯ ปล่อยให้ลำไยเสียหายคาต้น ชาวสวนรับชะตากรรมขาดทุนสถานเดียว จะไปขายคนอื่นก็ไม่ได้เพราะมีสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
3) โกงน้ำหนัก ปกติน้ำหนักที่ตกลงตามสัญญาคือตะกร้าละ 11.5 กก เอาเข้าจริงบางครั้งอัดถึง 14-15 กกต่อตะกร้า ใช้วิธีจัดเต็มตะกร้าเป็นเกณฑ์ โดยไม่ได้ชั่งน้ำหนักทุกตะกร้า ชาวสวนพูดไม่ออก เขี้ยวมากล้งก็ไม่เก็บ
ปัญหานี้แก้ได้ถ้าทุกคนช่วยกัน…#ภาครัฐ…ควรบังคับให้มีการคัดขนาดลำไยด้วยใช้ตะแกรงร่อนคัดไซด์ให้ได้มาตรฐาน ไม่ใช่วัดด้วยสายตา จนนำไปสู่การเอาเปรียบชาวสวนไม่มีวันสิ้นสุด…ส่วนน้ำหนักเกิน ควรบังคับและสร้างมาตรฐานด้วยการชั่งน้ำหนักทุกตะกร้า…สำคัญรัฐควร…ออกหนังสือรับรองล้งมาตรฐาน…ให้กับล้งที่ปฏิบัติตามเงื่อนไขนี้ เพื่อชาวสวนจะได้ใช้ประกอบการตัดสินใจในการขาย
#ชาวสวน…ควรทำลำไยคุณภาพ ลูกโต ผิวสวย และมีคุณภาพตามมาตรฐาน GAP และเลือกผู้ส่งออกที่ปฏิบัติตามข้อตกลง มีคุณธรรม สำคัญ มีหนังสือรับรองล้งมาตรฐาน
ผมขอ #ฝากสื่อมวลชน ช่วยกระจายข่าวนี้ให้ด้วยนะครับ อย่าปล่อยให้ชาวสวนถูกเอาเปรียบปีแล้วปีเล่าโดยขาดคนเหลียวแล #ฝากกระทรวงพานิชย์ด้วยนะครับ /ปล ที่สวนผมมีปัญหาน้อยครับ แต่ผมเห็นใจชาวสวนที่ถูกเอาเปรียบมาตลอด…
หมายเหตุ : (ข้อมูลจาก FB “Wimon Homying” 3 ก.พ.64) *ดร.วิมล หอมยิ่ง Ph.D. in Public Policy, Jackson State University, MS, USA (รางวัลผลการเรียนยอดเยี่ยม) / นักวิชาการอิสระ/ เจ้าของไร่พันดาว สอยดาว จ.จันทบุรี