ผู้สื่อข่าวได้รายงานว่า จากที่ได้ลงพื้นที่บริเวณริมแม่น้ำน้อย ในเขตอำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง เพื่อติดตามผลการปฏิบัติงานจัดเก็บผักตบชวาและวัชพืชต่างๆ ที่ดำเนินการโดยส่วนบริหารเครื่องจักรกลที่ 2 พิษณุโลก ในสังกัดกรมชลประทาน ภายใต้ภารกิจงานกำจัดวัชพืชลุ่มน้ำภาคกลาง พบว่าทางเจ้าหน้าที่รับผิดชอบกำลังทุ่มทำงานอย่างเต็มที่ และขณะที่มีการจัดเก็บในช่วงสุดท้ายก่อนเสร็จสิ้นตามภารกิจที่กำหนด ปรากฏว่า แขนตักของรถแบ๊คโฮที่อยู่บนโป๊ะในแม่น้ำน้อย ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญการปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ได้หักลง ทางเจ้าหน้าที่ได้ต้องดำเนินการนำรถแบ๊คโฮขึ้นมาซ่อมแซมกันอย่างเร่งด่วน
“การแก้ไขปัญหาผักตบชวาและวัชพืชในแม่น้ำต่าง ๆ ขณะนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญที่กำลังเร่งดำเนินการอย่างเข้มข้นในทุกพื้นที่ เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนที่ใช้เส้นทางน้ำในการคมนาคมขนส่ง รวมถึงเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือกับปัญหาน้ำหลากในช่วงฤดูฝน ผู้บริหารของกรมชลประทาน ไม่ว่า นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ผู้อำนวยการสำนักเครื่องจักรกล และนายคำนึง คงรอด ผู้อำนวยการส่วนบริหารเครื่องจักรกลที่ 2 พิษณุโลก ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบได้ทุ่มเทและเร่งดำเนินการกำจัดวัชพืชให้เสร็จสิ้นตามแผนที่กำหนด ซึ่งฝ่ายเครื่องจักรกลเรือขุดและเรือกำจัดวัชพืชที่ 2 ส่วนบริหารเครื่องจักรกลที่ 2 พิษณุโลก ได้รับมอบหมายจากนายคำนึง คงรอด ผู้อำนวยการส่วนบริหารเครื่องจักรกลที่ 2 พิษณุโลก ให้รับผิดชอบในการภารกิจการกำจัดวัชพืชในส่วนของแม่น้ำน้อย รวมความยาว 20 กิโลเมตร ภายใต้ปฏิบัติการเคลียร์แม่น้ำน้อย”
นายกษวรรษ กล่าวต่อไปว่า ปฏิบัติการเคลียร์แม่น้ำน้อย ได้เริ่มต้นดำเนินการมาตั้งแต่ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยได้ดำเนินการต่อเนื่องมาจนถึงต้นเดือนเมษายน ซึ่งขณะนี้ได้ปฏิบัติภารกิจแล้วเสร็จตามที่รับมอบหมาย โดยปฏิบัติการเคลียร์แม่น้ำน้อย แบ่งออกเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกเริ่มต้นจากประตูระบายน้ำบรมธาตุ ถึง ชันสูตร ระยะทาง 8 กิโลเมตรและ สองจากชัณสูตร ถึง ประตูระบายน้ำยางมณี ระยะทาง 12 กิโลเมตร สามารถจัดเก็บผักตบชวาและวัชพืชต่าง ๆได้น้ำหนักประมาณ 56,000 ตัน ทำให้แม่น้ำน้อยช่วงที่รับผิดชอบปราศจากผักตบชวาและวัชพืชตามที่ได้รับมอบหมายเป็นที่เรียบร้อย แต่อย่างไรก็ตาม หนึ่งในสิ่งที่เป็นปัญหา และอุปสรรคในการทำงาน คือ จะมีผักตบชวา วัชพืช บางส่วนไปติดค้างอยู่ตามกระชังปลาที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ตามริมแม่น้ำ ดังนั้นจึงต้องขอความร่วมมือในการช่วยดูแลและกำจัดผักตบชวาที่ติดค้างด้วย
“ทั้งนี้เพราะเจ้าหน้าที่ทุกคนของฝ่ายเครื่องจักรกลเรือขุดและเรือกำจัดวัชพืชที่ 2 ได้ทุ่มเททำงานกันแบบไม่มีวันหยุด มีการสร้างขวัญและกำลังในการทำงานร่วมกันด้วยการทำงานเป็นทีม ซึ่งมีชื่อที่เราตั้งกันเองว่า ทีมไล่ล่าผักตบชวาแม่น้ำน้อย โดยยึดหลักทำงานว่า คิดเร็ว ทำเร็ว ทำอย่างรอบคอบ เพราะการกำจัดผักตบชวาและวัชพืชในแม่น้ำน้อยครั้งนี้ คือภารกิจสำคัญที่ทำเพื่อประชาชนจากที่ต้องประสบกับความเดือดร้อนจากผักตบชวาและวัชพืชต่างๆในแม่น้ำน้อย การที่สามารถทำให้ภารกิจในครั้งนี้สำเร็จได้ทั้งตามเป้าหมายและตามระยะเวลาที่กำหนด ทำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนของฝ่ายเครื่องจักรกลเรือขุดและเรือกำจัดวัชพืชที่ 2 มีภาคภูมิใจครับ”นายกษวรรษกล่าวในที่สุด