เรื่อง/ภาพ : ชาวคณะเกษตรก้าวไกลไปด้วยกัน
วันที่ 25 กันยายน 2564 ชาวคณะเกษตรก้าวไกลได้ออกเดินทางตามภารกิจ “เกษตรก้าวไกลLIVEฝ่าวิกฤตโควิดทั่วไทย” ไปยังตำบลหนองอิรุณ อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี วันนี้ใช้เวลามากเป็นพิเศษ เพราะที่กรุงเทพฯต้นทางฝนเทลงมาแต่เช้า ไปถึงราว 10 โมงกว่าๆ เกษตรกรทยอยนำข้าวโพดมาขาย(ข้าวโพดฟักสดหรือข้าวโพดหวาน) รถกระบะคันแล้วคันเล่าถอยเข้าถอยออก สลับด้วยรถเก๋งประปราย พวกเขานำข้าวโพดที่ปลูกมาขาย กับอีกส่วนหนึ่งมาซื้อข้าวโพดที่ตัดใหม่สดๆจากไร่
ตรงจุดที่นัดพบนั้นเดิมใช้พื้นที่กลางไร่ข้าวโพด แต่ต้องเข้าไปลึกพอสมควร พวกเขาก็เลยร่นมาให้ใกล้กับถนนใหญ่ให้ไปมาสะดวกของผู้ขายและผู้ซื้อ คือใช้พื้นที่ของไร่ข้าวโพด FCC ที่แวดล้อมด้วยไร่อ้อย พวกเขากางเต้นท์ขึ้นมาเพียงแค่ให้การซื้อขายสะดวกไม่ต้องตากแดดตากฝนและมีพื้นที่จอดรถกว้างพอสมควร
เราได้พบปะพูดคุยกับ คุณสมชาย และ คุณชดาภา(โบ) วรอมราคุณ สองแกนนำผู้รวบรวมกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูก(ผู้ขาย) และกลุ่มผู้ซื้อ(บรรดาพ่อค้าแม่ขายข้าวโพดต้มที่เป็นขาประจำ) ตลอดจนพ่อค้าแม่ค้าขาจรหรือประชาชนทั่วไปที่หมุนเวียนมารับซื้อข้าวโพดเพื่อนำไปต้มขายหรือไปแปรรูปหรือไปแจกจ่ายหรือนำไปต้มกินก็แล้วแต่…
คุณสมชาย บอกว่า ได้รวมกลุ่มซื้อขายกันกลางไร่ข้าวโพดแบบนี้ประมาณ 10 ปีมาแล้ว เริ่มจากบรรดาเพื่อนๆเกษตรกร และญาติๆ ซึ่งตนเองก็เป็นเกษตรกรผู้ปลูกมาก่อน และตอนหลังได้นำข้าวโพดที่ปลูกไปต้มขาย ซึ่งได้เห็นโอกาสของตลาดในชุมชน จึงคิดว่าเราน่าจะมีการรวมกลุ่มเพื่อผลิตและเพื่อขาย ปรากฏว่าตลาดค่อยๆเติบโตขึ้น จนในเวลาต่อมาตนกับคุณโบได้ออกมาทำหน้าที่ด้านการประสานงานและเน้นเรื่องตลาดเพียงอย่างเดียว พร้อมกับประสานงานกับบรรดาผู้ค้าเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดที่ต่อมาได้กลายเป็นจุดทดสอบพันธุ์ข้าวโพดใหม่ๆของบรรดาบริษัทเหล่านั้น
ทางด้านคุณโบ กล่าวว่า หัวใจความสำเร็จมาจากหลัก 3 ประการ
“หัวใจสำคัญคือ ทุกคนต้องมีความจริงใจต่อกันซื่อสัตย์ในอาชีพในจรรยาบรรณของตัวเอง ผู้ปลูกมีหน้าที่ปลูก คนขายมีหน้าที่ขาย คนปลูกคุณอย่าคิดว่าฉันจะไปขายด้วย จะไม่มีเวลาดูแลเรื่องการปลูกจะทำให้ผลผลิตไม่ดีไม่ได้คุณภาพ หรือคนขาย ฉันจะไปปลูกด้วยก็จะทำหน้าที่การขายไม่ดี เราแบ่งหน้าที่กันให้ชัดเจนและรับผิดชอบในหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด
ปัจจัยที่สอง การเรียนรู้และการพัฒนา โบจะหาพันธุ์ใหม่ๆมาให้ปลูก ศึกษาว่าตลาดเขานิยมพันธุ์ไหน พันธุ์อะไรที่อร่อยที่สุด ซึ่งบริษัทหรือนักพัฒนาสายพันธุ์จะมีการพัฒนาพันธุ์ใหม่ขึ้นมาเรื่อยๆ เราต้องตามให้ทัน
ปัจจัยที่สาม เรื่องการตลาดเราจะต้องมีข้าวโพดที่สดใหม่ตัดเช้าต้มขายบ่าย จะต้องประสานกับตลาด เรามีการพรีออเดอร์ อย่างวันนี้มีคำสั่งซื้อมากี่ราย พอวันพรุ่งนี้เราก็ตัดสดๆให้ ทั้งผู้ซื้อเจ้าประจำผู้ซื้อรายใหม่ ซึ่งตอนนี้ยังมีการซื้อไปขายผ่านออนไลน์ เราจะต้องบริหารให้มีข้าวโพดตัดสดใหม่และขายได้ในทุกวัน ทุกคนต้องอยู่ได้ด้วยกัน
นอกจากการได้รับรู้ข้อมูลจากคุณสมชายและคุณโบแล้ว เกษตรก้าวไกล ยังได้คุยแลกเปลี่ยนกับเกษตรกรผู้ปลูกและพ่อค้าแม่ค้าที่มารับซื้อ (รายละเอียดขอให้คลิกชมจาก https://youtu.be/hxkZDGHyes0)
จากการพูดคุยเก็บข้อมูลในครั้งนี้ เราพบว่าหัวใจสำคัญคือ แกนนำที่เป็นคนประสานงานในกลุ่ม ซึ่งก็คือ คุณสมชายและคุณโบ เราทราบว่าปัจจุบันมีสมาชิกประมาณ 50 ราย และมีพ่อค้าแม่ขายที่มารับซื้อนับสิบรายที่หมุนเวียนมาซื้อถึงจุดที่นัดหมาย และข้าวโพดส่วนหนึ่งทางคุณสมชายและคุณโบจะไปส่งให้ลูกค้าถึงที่หรือตามจุดที่นัดหมายกันไว้
สรุปก็คือว่า พวกเขาทุกคนหน้าชื่นตาบาน “โควิดทำอะไรได้ไม่มาก” พอใจกับตลาดที่พวกเขาสร้างขึ้น ไม่ต้องเร่รถไปขายในเมืองหรือตามตลาดใหญ่ แต่ซื้อขายกันในไร่ในชุมชนที่พวกเขาอาศัยอยู่ นี่คือ “หนองอิรุณโมเดล” ต้นแบบการสร้างเศรษฐกิจชุมชนให้หมุนเวียน ที่ควรจะผลักดันให้เกิดขึ้นเยอะๆ หากเกิดขึ้นได้ก็จะแก้ไขปัญหาปลายทางได้เป็นอย่างดี เพราะนี่คือการตลาดนำการผลิต และตัวอย่างของเกษตรกรกลุ่มนี้ คือการทำงานเชิงรุก ไม่ตั้งรับหรือรอการช่วยเหลือจากภาครัฐ และประสานกับบริษัทหรือนักพัฒนาสายพันธุ์ที่ผลิตเมล็ดพันธุ์ได้ดีเยี่ยม
อนึ่ง ในวันนี้หลังจากจบภารกิจพูดคุยเก็บข้อมูล เราได้ชิมข้าวโพดหวานที่คุณโบได้ต้มให้กินกันสดๆร้อนๆ แต่ละสายพันธุ์เป็นพันธุ์ยอดนิยมในปัจจุบัน ซึ่งอร่อยมากๆ ใครอยากกินข้าวโพดที่อร่อยแบบนี้ก็ติดต่อซื้อขายกันได้ตามเบอร์โทร.ท้ายคลิปข้างต้นนะครับ