เรื่องโดย : เกษตรก้าวไกลไปด้วยกัน
เรื่องของสมุนไพรฟ้าทะลายโจรเป็นที่ฮือฮากันมากในช่วงที่เกิดสถานการณ์โควิด-19 เพราะว่ามีคุณสมบัติช่วยยับยั้ง..จนเกิดขาดแคลนไม่พอต่อความต้องการ เพราะเหตุนี้ทางเครือเจริญโภคภัณฑ์(ซีพี) ซึ่งมีความพร้อมจึงประกาศที่จะปลูกฟ้าทะลายโจรขึ้นมาแจกจ่าย ภายใต้โครงการปันปลูก ฟ้าทะลายโจร 100 ไร่ 100 วัน 30 ล้านแคปซูล
งานปลูกได้เริ่มต้นปลูกเมื่อวันแม่ 12 สิงหาคม 2564 ณ ฟาร์มแสลงพัน และฟาร์มคำพราน จ.สระบุรี หรือเรียกว่าสถานีวิจัยแสลงพัน ของกลุ่มธุรกิจพืชครบวงจร เครือซีพี ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลแสลงพัน อำเภอวังม่วง จังหวัดสระบุรี นับเป็นเวลากว่า 2 เดือน ที่ต้นฟ้าทะลายโจรได้เจริญเติบโต และ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2564 บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โปรดิ๊วส จำกัด (CPP) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการได้เชิญสื่อมวลชนไปชมแปลงปลูกเพื่อให้เห็นกับตาว่างานทุกอย่างคืบหน้าไปตามแผนงานที่วางไว้
เมื่อไปถึงบริเวณที่ตั้งของแปลงปลูกชาวคณะเยี่ยมชมก็เข้าห้องไปฟังบรรยาย โดย คุณสุเมธ ภิญโญสนิท ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โปรดิ๊วส จำกัด (CPP) พร้อมคณะผู้บริหารและพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ให้การต้อนรับ ซึ่งเปิดเผยว่า โครงการปันปลูก ฟ้าทะลายโจร มีผลการดำเนินงานที่ก้าวหน้าและเป็นไปตามนโยบายของประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์(ซีพี) นายธนินท์ เจียรวนนท์ ที่มีความตั้งใจช่วยเหลือสังคม เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงยาสมุนไพรไทยและใช้เสริมภูมิคุ้มกัน ในยามที่ขาดแคลนสมุนไพรฟ้าทะลายโจร จากวันปลูก…จนถึงปัจจุบันได้ทยอยเก็บเกี่ยวเพื่อนำไปผลิตเป็นยาสมุนไพรภายใต้ชื่อ “ปันปลูก” โดยจะแจกฟรีแก่ชุมชน สถานพยาบาล องค์กรต่าง ๆ รวมถึงประชาชนกลุ่มเปราะบางได้ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2564 ซึ่งเป็นวันพ่อแห่งชาติ เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 พ่อหลวงของแผ่นดิน และเป็นการร้อยเรียงความดีเพื่อประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ สอดคล้องตามค่านิยม 3 ประโยชน์ของเครือซีพีอีกด้วย
นอกจากนี้ คุณสุเมธ ยังกล่าวต่อสื่อมวลชนในสิ่งที่น่าสนใจต่อภาคเกษตรประเทศไทยว่า เกษตรของเรายังมีโอกาสอีกมาก แต่จะต้องให้ความสำคัญในเรื่องระบบชลประทาน ฝนที่ตกน้ำที่ท่วมจะต้องหาทางนำน้ำมาเก็บไว้ใช้ให้ตลอดทั้งปี ถ้าเรามีระบบน้ำที่สมบูรณ์จะทำให้เกิดพืชอาชีพหรือพืชเศรษฐกิจอีกมาก อย่าง ข้าวโพดไซเลจ ที่เก็บเกี่ยวต้นข้าวโพดสดพร้อมฝักมาให้วัวกินก็น่าสนใจมาก ทางเครือซีพีมีองค์ความรู้ที่พร้อมเผยแพร่
ถัดจากนั้นเป็นคิวของ ดร.ศฎาวุฒิ กุลมณี รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ได้พูดรายละเอียดของการดำเนินงานในแต่ละขั้นตอนตั้งแต่การตามหาแหล่งพันธุ์ฟ้าทะลายโจรแบบพลิกแผ่นดินก็ว่าได้ เพราะขณะนั้นพันธุ์ฟ้าทะลายโจรเป็นที่ต้องการเป็นอย่างมาก แต่ด้วยความพยายามก็เป็นผลสำเร็จสามารถเพาะพันธุ์ต้นกล้าฟ้าทะลายโจรจำนวน 1 ล้านต้น โดยมาจาก 6 จังหวัด ได้แก่ นครปฐม ปราจีนบุรี สุโขทัย พิจิตร กาญจนบุรี และ อุบลราชธานี
“เราต้องออกเดินทางตามหาต้นกล้าฟ้าทะลายโจรเมล็ดพันธุ์ฟ้าทะลายโจรตามแหล่งต่างๆทั่วประเทศ มันเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายในเวลาที่จำกัด แต่ทุกคนก็สามารถทำได้”
จากนั้นเราก็ได้มาวางแผนในเรื่องการปลูกฟ้าทะลายโจร โดยทำเป็น 2 แปลง แปลงแรก 70 ไร่ แปลงที่ 2 จำนวน 30 ไร่ เริ่มจากการเตรียมดิน ไถพรวนให้ดินร่วน ตรงไหนมีวัชพืชมากก็ไถพรวน 2 ครั้ง คือไถเปิดหน้าดินและตากดินไว้ประมาณ 2 สัปดาห์ ปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยอินทรีย์ และอินทรีย์เคมีในบางส่วนที่ดินขาดธาตุอาหารจริงๆ
สำหรับการปลูกนั้นเราได้มีการเพาะกล้าและย้ายปลูก โดยต้นกล้าอายุประมาณ 40 – 50 วัน การปลูกจะขุดหลุมปลูกกว้างประมาณ 15 ซม. ลึกประมาณ 8 – 12 ซม. ปลูกเป็นแถวระยะห่างระหว่างต้น 20-30 ซม. และระหว่างแถว 70 – 75 ซม. เฉลี่ย 9,000 – 10,000 ต้นต่อไร่
ระบบการให้น้ำ..วันไหนที่มีแดดจัดจะให้น้ำวันละ 2 ครั้งเช้าเย็น แต่หลังจากการปลูก 2 เดือนไปแล้วเราก็จะให้น้ำตามความเหมาะสมตามความชื้นของดิน ระบบให้น้ำนี้ เป็นจุดเด่นอย่างหนึ่ง คือแปลงที่ปลูก 70 ไร่ จะเป็นระบบวงกลม (Center Pivot Irrigation) กับแปลงที่ 30 ไร่ เป็นระบบน้ำแบบเส้นตรง (Linear Move Irrigation) หรือ ระบบน้ำพุ่ง นั่นเอง
ส่วนการ กำจัดวัชพืชและการใส่ปุ๋ย เราใช้แรงงานคน และจักรกลเกษตร โดยการใส่ปุ๋ยนั้นจะรองพื้นด้วยปุ๋ยอินทรีย์ 500 กิโลกรัมต่อไร่ หลังปลูก 30 วันใส่ปุ๋ยอินทรีย์ 500 กิโลกรัมต่อไร่ เน้นเป็นเกษตรปลอดภัยไม่มีการใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืชและวัชพืช
สำหรับ การเก็บเกี่ยวฟ้าทะลายโจร จะมีการเก็บเกี่ยวระยะเริ่มออกดอกระยะดอกบาน 50% วิธีเก็บเกี่ยวตัดต้นเหนือพื้นดินประมาณ 10 ซม. อายุการผลิต 2-3 เดือนหลังย้ายกล้าปลูกก็สามารถเก็บเกี่ยวได้ ส่วนดอกนั้นจะสามารถเก็บเกี่ยวได้ 2 รอบต่อปี ผลผลิตต้นสดเฉลี่ย 2,000 กิโลกรัมต่อไร่
หลังจากการเก็บเกี่ยวแล้ว เราก็จะนำไปคัดแยกสิ่งปนปลอมเช่นวัชพืชที่ปนมาและล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นตัดเป็นท่อนยาว 3-5 เซนติเมตร เพื่อนำไปเข้าโรงอบเพื่อลดความชื้นเป็นโรงอบพลังงานแสงอาทิตย์อบแห้งแบบลมร้อนที่อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส ใน 8 ชั่วโมงแรก และลดอุณหภูมิเหลือ 40 – 45 องศาเซลเซียส อบต่อจนแห้งสนิท
โดย มาตรฐานการผลิต นั้น ปฏิบัติตามระบบ GAP ของกรมวิชาการเกษตรอย่างเคร่งครัด ตั้งแต่เรื่องของการเรื่องของระบบการให้น้ำ พื้นที่ปลูก การใช้ปุ๋ยเคมีหรือวัตถุอันตรายทางการเกษตร การจัดการ การบันทึกข้อมูลต่างๆ สุขลักษณะการเก็บเกี่ยวและปฏิบัติ การพักผลผลิต โดยนอกจากกรมวิชาการเกษตรแล้ว ยังได้ประสานความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก โดยผลผลิตที่ได้ทั้งหมดก็จะนำไปแปรรูปเป็นยาสมุนไพรเป็นแคปซูล ซึ่งจะร่วมกับบริษัทพันธมิตรหลายแห่ง เช่น บริษัทแสงสว่างตราค้างคาวจำกัด บริษัท พนาพัฒน์เฮลท์แคร์ จำกัด บริษัทโรงงานเภสัชอุตสาหกรรมเจเอสพี(ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) บริษัทโชคชัยเอิร์บ จำกัด และใช้ชื่อทางการค้าว่า “ปันปลูก ยาฟ้าทะลายโจร”
หลังจากรับฟังข้อมูลจบลงก็ได้เดินทางไปที่แปลงปลูก..เริ่มจากแปลง 70 ไร่ ที่นี่เราได้เห็น ระบบน้ำแบบวงกลม (Center Pivot Irrigation) ซึ่งสามารถครอบคลุมในการดูแลได้ 70 ไร่ โดยระบบน้ำที่ว่านี้สามารถควบคุมแรงดันน้ำ ปริมาณน้ำ ความเร็วหรือระยะเวลาให้น้ำ ซึ่งระบบการให้น้ำที่เหมาะสมนี้ได้ทำให้ฟ้าทะลายโจรเจริญเติบโตได้ดี และ ในระหว่างที่ได้ชมแปลงนี้เราได้พูดคุยเพิ่มเติมเรื่องระบบน้ำกับผู้บริหาร 2 ท่าน คลิกชม https://fb.watch/8V7Zj0lmGu/
จากนั้นก็ได้เดินทางไปดูแปลงปลูก 30 ไร่ ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก แปลงนี้เน้น ระบบน้ำแบบเส้นตรง (Linear Move Irrigation) โดยจะมีร่องน้ำขนานไปกับแปลงปลูก ที่แปลงนี้เราได้รับคำอธิบายเพิ่มเติมจาก คุณธนพงษ์ อวนกลิ่น ผู้จัดการทั่วไปงานวิจัยฟาร์มแสลงพัน เน้นเรื่องของมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีหรือ CAP เพื่อชี้ให้เห็นว่าฟ้าทะลายโจรที่ปลูกกนั้นมีมาตรฐานเหมาะแก่การนำไปผลิตเป็นยาสมุนไพร “ปันปลูก ฟ้าทะลายโจร” ทุกประการ
ที่แปลงปลูกนี้ “เกษตรก้าวไกล” ยังได้มีโอกาสคุยกับ คุณศิลปชัย ก่อเจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โปรดิ๊วส จำกัด ผู้บริหารดูแลแปลงปลูกฟ้าทะลายโจร 100 ไร่ ซึ่งรายละเอียดนั้นได้ถ่ายทำเป็นคลิปเผยแพร่ผ่านช่อง YouTube เกษตรก้าวไกลไปด้วยกัน https://youtu.be/UrsYlTK19SM..ซึ่งคุณศิลปชัยบอกว่าพนักงานทุกคนที่ปลูกที่ดูแลมีความรู้สึกว่าภารกิจครั้งนี้เหมือนได้ทำบุญร่วมกัน
ก่อนจบจากการมาเยี่ยมชมแปลงปลูกฟ้าทะลายโจร 100 ไร่ เราได้รับการยืนยันจากผู้บริหารเครือซีพีหลายท่านว่า หลังภารกิจโครงการปันปลูก ฟ้าทะลายโจร 100 ไร่ 100 วัน 30 ล้านแคปซูล จบลงแล้ว องค์ความรู้ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งเกิดจากการศึกษาร่วมกับเกษตรกรคนเก่งจากทุกพื้นที่จะไม่สูญหายไปไหน โดยที่ทางเครือซีพีมีเป้าหมายที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้ต่าง ๆ รวมทั้งต้นกล้าหรือเมล็ดพันธุ์ให้กับเกษตรกรที่สนใจต่อไป