เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2564 มีพิธีเปิด บริษัท พรหมชีวา จำกัด ณ อาคารเลขที่126 หมู่12 หมู่บ้านคลองบางเลน ต.บางเลน อ.บางเลน จ.นครปฐม โดยมีนายวารินทร์ บุษบรรณ ที่ปรึกษาโครงการพระราชดำริ และที่ปรึกษาอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กรมการข้าว กรมวิชาการเกษตร มาเป็นประธานในพิธี มีพระครูปทุมมาธรรมานุโยค เจ้าอาวาสวัดสระบัวเกลื่อน พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง เจ้าคณะตำบลบ้านเกาะ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พร้อมคณะสงฆ์มาเจริญพระพุทธมนต์ฉันภัตตาหารเพล พร้อมทั้งมีเกษตรกรจังหวัดนครปฐมและเกษตรอำเภอ ตลอดถึงแขกผู้มีเกียรติมาร่วมงานคับคั่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายในงานยังมีห้างร้านและบริษัท ตลอดจนวิสาหกิจชุมชน และเกษตรกรชาวบางเลน มาจัดแสดงสินค้าของชุมชนเพื่อจำหน่ายแก่นักท่องเที่ยว และมาออกร้านอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง โดยมีสองผู้บริหารบริษัทพรหมชีวา คือ ดร.สุขุม วงประสิทธิ ประธานกรรมการบริษัทพรหมชีวา จำกัด และนางเตือนใจ วงประสิทธิ ภรรยา ให้การต้อนรับแขกผู้มีเกียรติอย่างอบอุ่น
ดร.สุขุม กล่าวว่า บริษัทพรหมชีวา จำกัด เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเพื่อสังคม (social enterprise) และสนับสนุนกิจกรรมของทางราชการ มีความมุ่งมั่นที่จะยกระดับชาวนาไทย15ล้านครอบครัวให้เป็นสมาร์ท ฟาร์มเมอร์ สู่การประกอบกิจการวิสาหกิจชุมชนให้เป็นธุรกิจเพื่อสังคมแบบยั่งยืน หรือ social enterprise ซึ่งบริษัท พรหมชีวา จำกัด ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ(Mou) กับสมาคมชาวนาไทย เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2564 และต่อมาได้ลงบันทึกความร่วมมือกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนนาแปลงใหญ่ข้าวไผ่หูช้าง 2 เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2564 และต่อมาได้ลงนามบันทึกความร่วมมือสามฝ่ายไตรภาคี ประกอบด้วยบริษัทพรหมชีวา จำกัด กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนนาแปลงใหญ่ข้าวไผ่หูช้าง 2 และบริษัทคำ-วี การเกษตร จำกัด ในวันที่12พ.ย.2564 ซึ่งถือว่าเป็นก้าวสำคัญที่จะผลักดัน ที่จะยกระดับเกษตรกรชาวนาสู่ smart farmer สู่การประกอบกิจการวิสาหกิจชุมชนให้เป็นธุรกิจเพื่อสังคมแบบยั่งยืน หรือ social enterprise อย่างแท้จริง
ประธานกรรมการบริษัทพรหมชีวา กล่าวต่อไปว่า บริษัทพรหมชีวา ย้ายมาอยู่บ้านเลขที่ 126 หมู่ 12 ต.บางเลน อ.บางเลน จ.นครปฐม โดยบริษัทได้เล็งเห็นความสำคัญที่ในเขตอำเภอบางเลน มีพื้นที่ปลูกข้าวจำนวนมากกว่า 150,000 ไร่ โดยเหมาะที่จะเป็นต้นแบบ หรือ บางเลนโมเดล พัฒนาครอบครัวชาวนาในอำเภอบางเลนให้เป็น smart farmer สู่การประกอบกิจการวิสาหกิจชุมชนให้เป็นธุรกิจเพื่อสังคมแบบยั่งยืน หรือ social enterprise
สำหรับไฮไลท์สำคัญในการเปิดตัวบริษัทพรหมชีวา จำกัด ครั้งนี้ คือการทำ “ปฏิญญาบางเลน” smart farmer social enterprise “เกษตรกรบางเลน ใช้นวัตกรรม ผลิตข้าวดี ทำนาลดโลกร้อน ดีต่อตัวเรา ดีต่อบางเลน ดีต่อนครปฐม ดีต่อประเทศไทย ดีต่อโลก” สืบสานคำขวัญอำเภอบางเลน “แหล่งข้าวอุดมดี มากมีเบ็ดปลา วัฒนธรรมล้ำค่า งามตาท่าจีน” 1.ใช้นวัตกรรม อุปกรณ์เทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต 2.ผลิตข้าวดี ประกวดพันธุ์ข้าวที่เหมาะสมกับพื้นที่ ทนทานต่อโรค ไม่ไวต่อแสง ระยะเวลาเก็บเกี่ยวสั้น 3.ลดภาวะโลกร้อน ส่งออกเครดิตคาร์บอน เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน 3.1 ทำนาอย่างรู้คุณค่าของน้ำ ทำนาแบบเปียกสลับแห้ง การปรับระดับพื้นที่นา 3.2 จัดการฟางและตอซังเพื่อลดการเผาในที่โล่ง 4.เชื่อมโยงการตลาดออนไลน์สู่สากล จำหน่ายตรงถึงผู้บริโภค ทั่วประเทศและทั่วโลก
