กรุงเทพฯ 24 ธันวาคม 2564 – นายมนัส เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจียไต๋ จำกัด ผู้นำธุรกิจนวัตกรรมการเกษตรของไทย ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในการพัฒนาวงการเกษตรของไทยสู่เกษตรยั่งยืน พร้อมชูเจตนารมณ์ในการผลักดันและสร้างสรรค์นวัตกรรมการเกษตรเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและสร้างความมั่นคงทางอาหารให้ผู้บริโภค ในการประชุมเชิงปฏิบัติการ “โครงการวิจัยเชิงยุทธศาสตร์การจัดทำแผนที่นำทางการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีรายสาขา” ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์แอทเซ็นทรัลเวิลด์
งานประชุมดังกล่าวจัดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม พร้อมด้วยหน่วยงานวิจัย และสถาบันการศึกษา เพื่อนำเสนอและอภิปรายการจัดทำแผนที่นำทางเทคโนโลยีแห่งชาติ เพื่อรองรับยุทธศาสตร์ของประเทศไทยที่มุ่งสู่ยุค 4.0 โดยได้รับเกียรติจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งล้วนเป็นแกนหลักสำคัญในแวดวงการเกษตรเข้าร่วมงานในครั้งนี้อย่างพร้อมเพรียง
นายมนัส กล่าวถึงวิสัยทัศน์และมุมมองต่อแผนที่การวิจัยนี้ว่า “ด้วยประสบการณ์ในวงการเกษตรมาอย่างยาวนาน เจียไต๋ได้เล็งเห็นปัญหาที่ส่งผลโดยตรงต่อเกษตรกรรม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงซึ่งก่อให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติที่สร้างความเสียหายต่อพื้นที่ทำการเกษตร นอกจากนี้ ปัญหาเรื่องการขาดผู้สานต่อองค์ความรู้ด้านการเพาะปลูกจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อความมั่นคงในอาชีพเกษตรกรที่ต้องสั่นคลอน มากไปกว่านั้นการสร้างทัศนคติเชิงบวกต่ออาชีพเกษตรกรก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ
ฉะนั้น การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีจากงานวิจัยมาประยุกต์ใช้ในวงการเกษตร ย่อมช่วยผลักดันประสิทธิภาพในการเพาะปลูก เพิ่มขีดความสามารถในการรับมือกับธรรมชาติและสภาพอากาศที่แปรปรวน นำไปสู่การสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงในอาชีพ ทั้งยังช่วยเปลี่ยนภาพจำของอาชีพเกษตรกรสู่มุมมองใหม่อย่าง Smart Farming และในแง่ของผู้บริโภค การเกษตรที่มีคุณภาพย่อมตอบโจทย์กับเทรนด์การดูแลสุขภาพในปัจจุบันและเทรนด์ Aging Society ในอนาคตอันใกล้ ที่ผู้คนต่างมองหาแหล่งอาหารที่สด สะอาด ปลอดภัย และสามารถตรวจสอบถึงแหล่งที่มาได้”
ทั้งนี้ เจียไต๋ ให้ความสำคัญกับเรื่องนวัตกรรมซึ่งเป็น 1 ใน 4 ค่านิยมหลักขององค์กร เพราะเชื่อว่าการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ไม่เพียงนำมาซึ่งการพัฒนาตนเอง พัฒนาธุรกิจ แต่ยังพัฒนาสังคมไปพร้อมๆ กัน โดยปัจจุบัน เจียไต๋กำลังต่อยอดจากการดำเนินธุรกิจเกษตรแบบ Inputs Provider สู่ Solutions Provider เพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพในการเพาะปลูกให้ได้ทั้งคุณภาพและปริมาณ อีกทั้ง เจียไต๋ยังเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานเพื่อให้เกิดการต่อยอดด้านการตลาดด้วยการเปิดร้านเจียไต๋ฟาร์ม ที่ตั้งเป้าหมายในการส่งมอบผลิตผลทางการเกษตรที่สดใหม่ ปลอดภัย ทั้งนี้ เพื่อผลลัพธ์ต่อมหภาคในด้านการเกษตร ซึ่งเป็นฐานรากของประเทศไทย ให้สามารถพัฒนาและต่อยอดสู่เกษตรยั่งยืนได้ในอนาคตอันใกล้