นายศรุต สุทธิอารมณ์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า จากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในช่วงนี้ขอให้เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันเฝ้าระวังการเข้าทำลายของหนอนปลอกเล็กซึ่งเป็นศัตรูพืชที่พบการระบาดได้ตลอดปี โดยที่ผ่านมาจะพบการระบาดมากในช่วงเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ แต่ปัจจุบันพบการระบาดของหนอนปลอกเล็กในสวนปาล์มน้ำมันทางภาคใต้ช่วงเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น โดยลักษณะการทำลายของหนอนปลอกเล็กจะแทะผิวใบ กินตรงส่วนผิวใบเอามาทำปลอกหุ้มตัว ทำให้ใบแห้งเป็นสีน้ำตาล และกัดทะลุใบเป็นรูและขาด แหว่ง ถ้ารุนแรงจะเห็นทางใบทั้งต้นเป็นสีน้ำตาลแห้งคล้ายใบไหม้ ทำให้ต้นชะงักการเจริญเติบโตผลผลิตลดลง
วิธีการป้องกันกำจัดหากพบการระบาดเริ่มทำลายเล็กน้อย ให้ตัดทางใบที่หนอนกำลังกินมาเผาทำลาย แต่หากอยู่ในพื้นที่การระบาดของด้วงงวงหรือด้วงสาคูไม่ควรตัดทางใบเพราะรอยแผลจะเป็นช่องทางเข้าทำลายของด้วงงวง ให้พ่นเชื้อบีที (Bacillus thuringiensis) ทันที โดยใช้เชื้อบีที อัตรา 100 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร ผสมสารจับใบ 5 มิลลิลิตร พ่นให้ทั่วบริเวณใต้ใบและต้องพ่นในช่วงเช้าหรือเย็น เพื่อหลีกเลี่ยงแสงยูวีที่จะทำลายเชื้อบีที โดยใช้เครื่องพ่นที่ปรับความดันได้ไม่น้อยกว่า 30 บาร์ และพ่นติดต่อกันไม่น้อยกว่า 3 ครั้ง ห่างกัน 5-7 วัน
กรณีพบการระบาดรุนแรง ใช้วิธีพ่นสารทางใบ โดยเลือกใช้สารชนิดใดชนิดหนึ่ง ตามคำแนะนำของกรมวิชาการเกษตร ดังนี้ ฟลูเบนไดเอไมด์ 20% WG อัตรา 5 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร คลอแรนทรานิลิโพรล 5.17% SC อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร สปินโนแสด 12% SC อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร ลูเฟนนูรอน 5% EC อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเจ้าหน้าที่ของกรมวิชาการเกษตรภายในพื้นที่เพื่อขอรับคำแนะนำในการป้องกันและกำจัดที่ถูกวิธีเพื่อป้องกันการะบาดที่รุนแรงต่อไปได้