กรมส่งเสริมการเกษตร โชว์ความสำเร็จ ศดปช.ชุมชนท่าช้าง ที่สงขลา พลิกวิกฤติช่วงปุ๋ยแพง ปรับสูตรแม่ปุ๋ยเสริมธาตุอาหารรองร่วมกับการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ แถมลดต้นทุนเพียบ ชี้ความสำเร็จจากเน้นยึดโมเดลการจัดการธุรกิจบริการดินและปุ๋ยเพื่อชุมชน
วันนี้ ( 5 ส.ค.65 ) เวลา 9.30น. นางอัญชลี สุวจิตตานนท์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร พร้อมด้วยนายนายอนุชา ยาฮึด ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 จังหวัดสงขลา นางสาวประพันธ์ ชนะวรรณโณ หัวหน้ากลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดสงขลา และคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่หมู่ที่ 10 ตำบลท่าช้าง อำเภอบางกล่ำ จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจเยี่ยมและติดตามผลการดำเนินงานขับเคลื่อนโครงการศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน หรือ ศดปช. ที่ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชนตำบลท่าช้าง หมู่ 10 ตำบลท่าช้าง โดยมีนายปฎิวัติ ทองเพชรจันทร์ นายอำเภอบางกล่ำ กล่าวต้อนรับ และนายวิจารณ์ ขวัญช่วย ประธาน ศดปช.ตำบลท่าช้าง คณะกรรมการศูนย์ฯ เกษตรกรสมาชิก ให้การต้อนรับ พร้อมนำเยี่ยมชมการดำเนินงาน
นางอัญชลี สุวจิตตานนท์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชนตำบลท่าช้าง หมู่ที่ 10 ตำบลท่าช้าง เป็นเครือข่ายสนับสนุนการทำงานของศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) ภายใต้การสนับสนุนของกรมส่งเสริมการเกษตรในด้านดินและปุ๋ยที่บริหารจัดการโดยเกษตรกร และเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านดินและปุ๋ยของชุมชนและนักเรียน นักศึกษาสถาบันต่าง ๆ ส่งผลให้สมาชิกในชุมชน และบุคคลภายนอกหันมาใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน เพื่อลดต้นทุนการผลิตเพิ่มมากขึ้น และถือเป็นกลุ่มที่มีความเข้มแข็ง ทำให้ได้รับรับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ศูนย์จัดการดินปุ้ยชุมชน ระดับเขต เมื่อปี 2564 ที่ผ่านมา
“ซึ่งในช่วงที่เกิดภาวะปุ๋ยมีราคาแพง ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชนตำบลท่ช้างแห่งนี้ก็สามารถผสมปุ๋ยสั่งตัด โคยใช้แม่ปุ๋ยสูตร 46-0-0, 18-46-0 และ 0-0-60 และนำมาผสมกับธาตุอาหารรอง เพื่อเป็นสารเติมเต็มให้แก่ผู้ที่สนใจสั่งซื้อ ทำให้ราคาปุ๋ยลดลงแต่พืชยังคงได้ธาตุอาหารเพียงพอ โดยได้รับการสนับสนุนเครื่องผสมแม่ปุ๋ยจากกรมส่งเสริมการเกษตร ช่วยเพิ่มปริมาณการผลิตให้ครอบคลุมสมาชิกมากขึ้น ทำให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนค่าปุ๋ยได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังได้ผลิตปุ๋ยเคมี-อินทรีย์รีย์จากมูลสัตว์หมัก เพื่อเป็นทางเลือกให้เกษตรกรในการปรับปรุงบำรุงดิน และลดต้นทุนส่งเสริมให้เกษตรกรใช้ปุ๊ยอินทรีย์ร่วมกับปู้ยเคมีเพื่อลคต้นทุนการผลิตของเกษตรกรอีกด้วย” รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าว
ด้าน นายกฤตภาส สนิทมิสโร คณะกรรมการของศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชนตำบลท่าช้าง กล่าวว่า ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชนตำบลท่าช้าง จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2557 ตามนโยบายของกรมส่งเสริมการเกษตรให้ทุกอำเภอมีการจัดตั้ง และดำเนินการศูนย์จัดการดินและชุมชน อำเภอละ 1 ศูนย์ ดำเนินการต่อเนื่องมาแล้ว 7 ปี ปัจจุบันมีสมาชิก 34 ราย ซึ่งเป็นเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราในพื้นที่รวม 241 ไร่ สามารถลดต้นทุนค่าปุ๋ยได้กว่า 90,037.60 บาท จากการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินในสวนยางพารา
นอกจากนี้ ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชนตำบลท่าช้าง ยังช่วยจัดหาและบริการจำหน่ายปัจจัยการผลิต ทำให้เกษตรกรสมาชิกสามารถซื้อปัจจัยการผลิตได้ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด จากที่ใช้วิธีการติดต่อโดยตรงกับบริษัทผู้ผลิต โดยเฉพาะแม่ปุ๋ยเคมี เกษตรกรได้ใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน มีการผลิตและจำหน่ายปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ จัดซื้อจัดหาแม่ปุ๋ยเคมี และจำหน่ายปุ๋ยสั่งตัด ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณ และคุณภาพผลผลิต ลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรและชุมชนอย่างยั่งยืน
นายกฤตภาส กล่าวอีกว่า ศดปช.ตำบลท่าช้าง ยึดโมเดลการต่อยอดธุรกิจจากโครงการพัฒนาธุรกิจบริการดินและปุ๋ย (One stop Service) มีการถ่ายทอดความความรู้เรื่องการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินให้กับเกษตรกรทั้งเกษตรกรในพื้นที่ และต่างพื้นที่ และจากการที่ได้รับการพัฒนาให้เป็น Young Smart Farmer และเข้ามาช่วยพัฒนาศูนย์ฯ ในเรื่องเทคโนโลยีการผลิต และการตลาด ทั้งตลาดทั่วไปและตลาดออนไลน์ ผ่านช่องทาง Facebook ศูนย์การจัดการดินปุ๋ยชุมชนท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา, กลุ่มไลน์ ศดปช. ระดับจังหวัด และ Line offcial ศดปช. ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าทั้งในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียงเป็นอย่างดี พร้อมกันนี้ยังใช้เทคนิคการตลาดด้วยการสร้างเครือข่ายในกลุ่มแปลงใหญ่เกษตร ทำให้ขยายตลาดได้มากขึ้น รวมทั้งคิดค้นปรับปรุงสูตรปุ๋ยใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
“ทั้งนี้ในอนาคตทางศูนย์ฯ มีแผนส่งเสริมเกษตรกรในชุมชนและชุมชนใกล้เคียง หันมาใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินเพิ่มมากขึ้น ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการใช้ปุ๋อินทรีย์ร่วมกับปุ๋ยเคมีเพื่อปรับปรุงบำรุงดิน และวางแผนการในการพัฒนาผลิตปุ๋ยทางใบ เพื่อจำหน่ายให้แก่เกษตรกรชาวสวนผลไม้ ให้ได้ใช้ปุ๋ยทางใบที่มีคุณภาพดีและราคาถูกกว่าท้องตลาด เพื่อเป็นการเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และเพิ่มรายได้ให้กับทางศูนย์ฯ ต่อไป” นายกฤตภาส กล่าว